เยี่ยนจ้าวเกอพูดกับเฟิงอวิ๋นเซิงโดยไม่ได้หลบเลี่ยงคนอื่น
อาหู่ที่อยู่ด้านข้างทางหนึ่งฟังทางหนึ่งหัวเราะใสซื่อ
เสี่ยวอ้ายสีหน้าเต็มไปด้วยความคับข้องแทบขาดใจ “คุณชาย ภาพลักษณ์อันสูงใหญ่งามสง่าของท่านในใจข้าพังทลายลงหมดแล้ว!”
นางถอนใจคำหนึ่ง ใบหน้าหมดอาลัยตายอยาก
“นายหญิง คุณชายจะมีนายหญิงน้อยแล้ว เช่นนี้จะทำอย่างไรดี?”
ครั้นคิดทบทวนดูอีกครั้ง เยี่ยนจ้าวเกอพูดกับเฟิงอวิ๋นเซิงโดยไม่ปิดบังนาง นั่นหมายความว่าเขาเชื่อใจนาง เสี่ยวอ้ายจึงพอรับได้บ้าง
“ควรจะลดระดับชั้นสูงของคุณชายเป็นชั้นหนึ่งหรือไม่?” นางมีใบหน้าลำบากใจ หันกายไป ปิดหูของตัวเองก่อนจะผละไปด้านข้าง
เฟิงอวิ๋นเซิงมองเงาหลังของนาง เอ่ยกลั้วหัวเราะว่า “อายุจริงสมควรมากกว่าข้าเล็กน้อย เป็นพี่สาวตัวน้อยกระมัง?”
เยี่ยนจ้าวเกอว่า “นางได้รับบาดเจ็บในสุสานจักรพรรดิประกายกาฬ จึงหลับไหลมาหลายปี”
หญิงสาวหันไปมองกงจักรมหาประกายกาฬ “พูดถึงสุสานจักรพรรดิประกายกาฬ ของที่มีค่าที่สุดซึ่งได้มาในครั้งนี้น่าจะเป็นของชิ้นนี้แล้วกระมัง?”
เมื่อครู่นางเพิ่งกระตุ้นกงจักรมหาประกายกาฬพร้อมกับเยี่ยนจ้าวเกอ จึงจำพลังอันน่ากลัวที่ซ่อนลึกอยู่ในของวิเศษชิ้นนี้ได้ดี
ก่อนหน้านี้มีมงกุฎจันทรา ตอนหลังมีดาบเทพอาทิตย์ยะเยือก
เฟิงอวิ๋นเซิงมีสัมผัสในการรับรู้ของวิเศษระดับสูงเช่นนี้มากกว่าคนทั่วไปนัก
เยี่ยนจ้าวเกอมองไปที่กงจักรมหาประกายกาฬแวบหนึ่งเช่นกัน พลางนวดขมับของตัวเองเบาๆ “เป็นวาสนาหรือเป็นคราเคราะห์ ตอนนี้ยังบอกไม่ได้”
เขาเงยหน้ามองเพดานของวังฝูงมังกร “ก่อนหน้านี้ข้ากำลังคิดอยู่ว่า จักรพรรดิประกายกาฬที่ใช้พระศพของตัวเองเป็นวัตถุดิบสำหรับการสร้างกงจักรมหาประกายกาฬ ไม่สมควรเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับงานศพของตัวเอง
“หลังจากพิธีกรรมสำหรับสร้างกงจักรมหาประกายกาฬจบลง สุสานจักรพรรดิประกายกาฬก็ถล่ม อีกทั้งยังได้ยืนยันการคาเดาก่อนหน้านี้ของข้า
“ความสำคัญในการดำรงอยู่ของสุสานจักรพรรดิประกายกาฬ ไม่ใช่เป็นสถานที่ที่จักรพรรดิประกายกาฬสร้างให้กับตัวเอง แต่เพื่อสร้างกงจักรมหาประกายกาฬ กระนั้น…”
เยี่ยนจ้าวเกอถอนใจยาว “เงามายาของจักรพรรดิประกายกาฬซึ่งเป็นการฝากฝังสุดท้ายในกงจักรมหาประกายกาฬ เหมือนกับปฏิเสธคนในสำนักแสงสว่าง”
เฟิงอวิ๋นเซิงพูดพลางครุ่นคิด “ข้อความ ‘ต่างคนต่างแยกย้าย’ ประโยคนั้น เหมือนกับคำสั่งเสียในอดีตของจักรพรรดิประกายกาฬ เห็นได้ว่าไม่เพียงแต่สำนักแสงสว่างเท่านั้น เปลี่ยนเป็นคนของสำนักความมืด ก็คงจะถูกกงจักรมหาประกายกาฬปฏิเสธเช่นกัน ”
ชายหนุ่มพยักหน้า “การสวรรคตของจักรพรรดิประกายกาฬ กับการล่มสลายของสำนักประกายกาฬ เป็นปริศนามาโดยตลอด”
“ความหมายของท่านคือ อาจจะมีคำตอบด้านในสุสานจักรพรรดิประกายกาฬ หรือในกงจักรมหาประกายกาฬหรือ?” เฟิงอวิ๋นเซิงถาม
เยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้ตอบ
การกรีฑาทัพไปต่างแดนของอิ่นเทียนเซี่ยกับสำนักประกายกาฬในอดีต เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะไม่ได้ง่ายดายเหมือนที่ทุกคนทราบ
พวกเขาบางทีอาจจะมีเป้าหมายบางอย่างที่คนอื่นไม่ทราบ แต่สุดท้ายกลับเกิดเรื่องขึ้นเสียก่อน
สำนักประกายกาฬล้มเหลว เหลือเพียงอิ่นเทียนเซี่ยที่กลับมาคนเดียว แต่ก็อยู่ในสภาพใกล้หมดลมหายใจ
สำหรับเยี่ยนจ้าวเกอแล้ว บุคคลที่ยิ่งใหญ่อย่างอิ่นเทียนเซี่ย น่าจะไม่ท้อแท้หมดกำลังใจง่ายเพียงนั้น
เช่นนั้น เหตุผลที่เขาไม่พูด เพียงบอกให้คนอื่นแยกย้ายกันไป มีก็เพียงเหตุผลเดียว
อีกฝ่ายมีสภาวะยิ่งใหญ่ อิ่นเทียนเซี่ยไม่คิดจะให้ลูกศิษย์ระดับกลางและระดับต่ำที่เหลือในสำนักถูกพัวพันไปด้วย แต่ว่าในฐานะบุคคลที่โดดเด่นที่สุดแห่งยุค ในใจอิ่นเทียนเซี่ยย่อมไม่ยอม
เขาคิดจะชี้แจงเพื่อตัวเองและศิษย์ในสำนัก และเพื่อทิ้งความจริงให้แก่คนรุนหลัง
อาหู่เกาศีรษะ “คุณชาย ท่านคิดมากเกินไปหรือไม่?”
เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะเหอะๆ “ข้าก็หวังให้เป็นเช่นนั้น”
หลังจากเว้นวรรคไปครู่หนึ่ง ชายหนุ่มก็กล่าวอีกว่า “เงาแสงที่จักรพรรดิชาประกายกาฬทิ้งไว้ได้หายไปแล้ว กงจักรมหาประกายกาฬในตอนนี้คงไม่ปฏิเสธคนของสำนักแสงสว่างอีก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี