ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกใช้หมัดต่างหอก หลังจากหมัดขวา หมัดซ้ายก็ต่อยออกตามหลัง
หมัดเหมือนกับคมหอกไร้เทียมทาน ม้วนพัดพลังมหาศาลไร้ขีดจำกัดของคุนเผิงใส่อีกฝ่าย
สตรีนางนั้นตื่นตระหนก วรยุทธ์ที่นางฝึกฝนมีความลึกล้ำเช่นดียวกัน ครอบครองร่างจริงของหงส์อมตะ และหลักการอันล้ำเลิศของเพลิงโหม แต่หากพูดในด้านพลังกาย กลับไม่อาจเทียบเคียงกับคุนเผิงได้
สีหน้านางเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม ไม่รีบร้อนอีกต่อไป ส่งเสียงร้องของหงส์ที่กังวานใสออกมา
ญาณจริงแท้หลายสายซัดสาดรอบตัวนาง แล้วกลายเป็นแสงสีม่วงครอบคลุมทั่วร่าง
ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกต่อยอีกหมัดหนึ่งออก แต่ครั้งนี้กลับถูกแสงสีม่วงขวางไว้
‘หือ?’ สายตาของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกสั่นสะท้านเล็กน้อย ‘สามารถฝึกแสงม่วงบารมีจนสำเร็จ ไม่เพียงแต่หงส์เพลิงเท่านั้น แต่เป็นจิตพลังที่หงส์อมตะแท้จริงซึ่งรักษาเบญจจริยามีอยู่’
มีบุญกุศลกับตัว ไม่กระทบรังสีฆ่าฟัน
แสงม่วงบารมีที่สตรีนางนั้นใช้วรยุทธ์ของตัวเองหลอมจนสำเร็จ เป็นกระบวนท่าป้องกันที่แกร่งกว่าร่างนิภาไม่อับแสงของสำนักแสงสว่างเสียอีก
แสงสีม่วงที่เหมือนกับผ้าไหมบาง คุ้มครองนางจากหอกเทพสมุทรสุดขอบโลกที่รุนแรงดุดัน มีจิตสังหารสั่นสะท้านของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก
กระบวนท่าไม่ประสบผล ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกมือไม่หยุดลง สองมือเปลี่ยนจากหมัดกลายเป็นกรงเล็บ หอกเทพสมุทรสุดขอบโลกเปลี่ยนเป็นกรงเล็บเทพคุนเผิง สิบนิ้วเจาะเข้าไปในแสงสีม่วงอย่างดุร้าย
ไม่ใช่เพื่อฆ่าคน แต่เพื่อทำลายกระบวนท่าของท่าน!
สตรีนางนั้นสีหน้าเปลี่ยนแปลง กลับไม่กล้าฝืนปะทะต่อ หมุนตัวกลับไปพร้อมเสียงแหวกลม
ด้านในมิติที่อยู่ห่างออกไปด้านหลังของนาง แสงสีทองสายหนึ่งบินมาด้วยความรวดเร็ว พุ่งลงมาจากฟากฟ้า มุ่งหน้าหาศีรษะของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก
เยี่ยนจ้าวเกอเห็นดังนั้นกลับยิ้มขึ้น ‘ยังฝึกปฐพีอนิสงส์ไม่สำเร็จเลย’
บุญกุศลอยู่กับตัว ไม่กระทบรังสีฆ่าฝัน แต่ต้องมีบุญบารมีไร้จำกัด ส่งเสริมฟ้าสืบทอดเต๋า จึงจะรับมือการทำลายแสงม่วงบารมีของกรงเล็บเทพคุนเผิงได้
อีกฝ่ายกลับได้แต่เรียกของวิเศษจากที่อื่นออกมาช่วย เห็นได้ชัดว่าแม้จะฝึกฝนแสงม่วงบารมีสำเร็จ แต่ยังฝึกปฐพีอนิสงส์ไม่สำเร็จ
แสงสีทองที่บินมานั้นเมื่อเข้ามาใกล้ เยี่ยนจ้าวเกอลองเพ่งตามองดู กลับเป็นแท่นฝนหมึกสีทองอันหนึ่ง
แต่ว่าขณะที่แท่นฝนหมึกนี้ลอยมา กลับกดดันทำลายมิติ เกิดเป็นร่องแยกสีดำหลายสาย พลังของมันแข็งกร้าวถึงขีดสุด!
เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลาง!
เยี่ยนจ้าวเกอสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกเก็บกระบวนท่าถอยหลง หลบการโจมตีของแท่นฝนหมึกสีทองอันนั้น
อีกฝ่ายกลายร่างเป็นหงส์อมตะเพลิงกระพือปีก พุ่งเข้ามาหาวังฝูงมังกรที่อยู่ในสถานที่ที่ฟ้าดินของโลกซ้อนโลกและกระแสปั่นป่วนของมิติเวลาตัดกัน
ท้องฟ้าที่อยู่ห่างออกไปด้านหลังนาง มีกลิ่นอายที่แข็งแกร่งลอยมา ดูเหมือนจะมีคนกำลังไล่ตามนางอยู่จริงๆ
สิ่งที่ทำให้เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกประหลาดใจก็คือ เขารู้จักคนที่ไล่ตามสตรีวัยกลางคนนางนี้
เป็นผู้อาวุโสที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นห้า ขั้นเทวะสำแดงระยะกลางคนหนึ่ง
ยังมีผู้อาวุโสในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสี่ ขั้นเทวะสำแดงระยะต้นอีกคนหนึ่ง เป็นไป๋จื่อหมิงที่ได้เจอกันบนเรือนภาร่อนวายุเมื่อก่อนหน้านี้
เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกหวั่นใจเล็กน้อย คาดเดาสถานะของสตรีนางนั้นได้คร่าวๆ
สตรีวัยกลางคนนางนั้นเห็นคนที่ไล่ตามกดดันเข้าใกล้แล้ว จึงกระตุ้นจานฝนหมึกสีทองป้องกันพวกไป๋จื่อหมิง จากนั้นก็พุ่งเข้าหาวังฝูงมังกร เตรียมจะดันวังฝูงมังกรให้เข้าไปในกระแสปั่นป่วนของมิติเวลาพร้อมกันเพื่อเอาตัวรอด
ส่วนวังฝูงมังกรจะเป็นอย่างไร นางกลับไม่สนใจอีกแล้ว
เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะเหอะๆ “ดูจากท่าทางของท่าน คลื่นน้ำยอดกุศลไม่ธรรมดาแน่ บางทีอาจจะมีเมฆาคุณธรรมมากพอด้วยซ้ำ”
ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกที่ถอยหลังวูบไหวร่าง ขวางอยู่ด้านหน้าวังฝูงมังกรอีกครั้ง ก่อนจะกลายร่างเป็นคุนเผิง ชนใส่หงส์เพลิงตัวนั้น!
ถึงแม้ว่าพลังฝึกปรือจะอยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสี่ ขั้นเทวะสำแดงระยะต้นเหมือนกัน แต่พอเทียบความเร็วกันแล้ว ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกต่อให้เพิ่งเลื่อนเป็นขั้นเทวะสำแดงได้ไม่นาน ก็ยังว่องไวกว่าอีกฝ่าย!
สตรีนางนั้นโกรธจนลมออกหู
นางร้องเจื้อยแจ้ว กลายร่างเป็นหงส์เพลิงบินขึ้นด้านบน สองปีกกลายเป็นแสงดาบเปลวเพลิง ฟันฟ้าแยกดินลงมา ความดุร้ายของสภาวะโจมตีทำให้คนรู้สึกหวาดกลัว
ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกใบหน้าไร้อารมณ์ หมุนสองแขนเหมือนกับโอบกอดพระจันทร์
การโอบกอดนี้ กอดจนไม่ใช่แสงจันทร์ กลับเป็นหลุมดำประหลาดหลุมหนึ่ง
ธารเพลิงมากมายถูกหลุมดำกลืนกิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี