ไป๋จื่อหมิงมองสตรีนางนั้นพลางพูดว่า “นางยังมีสหายด้วย แต่แยกกันหนี อีกคนหนึ่งคือยอดฝีมือที่อยู่ในระดับสูงสุดของจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหก ขั้นเทวะสำแดงระยะท้าย ท่านเจิ้ง ศิษย์ของประมุขอาคเนย์กำลังขับเรือนภาร่อนวายุไล่ตามอยู่”
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้าด้วยความเข้าใจ ไป๋จื่อหมิงตอนนี้กอดขาเขาโถงทองแน่น ย่อมต้องพยายามอย่างเต็มที่
ผู้อาวุโสจากหอกระบี่ทะเลเหนือที่อยู่ด้านข้าง ในฐานะหนึ่งในขุมกำลังที่เคลื่อนไหวในทะเลหวงเจีย จึงช่วยเหลือลูกศิษย์ของประมุขอาคเนย์จับคน
การแยกกับพวกเจิ้งหมิงก่อนหน้านี้ อีกฝ่ายกำลังตรวจสอบเรื่องที่เยี่ยซินถูกโจมตีบนทะเลหวงเจีย
บังอาจลงมือคิดสังหารคนรุ่นหลังที่เป็นลูกศิษย์ของประมุขอาคเนย์บนอาณาเขตตะวันอาคเนย์ พวกเจิ้งหมิงย่อมถูกสะกิดโทสะ
แต่ว่าสตรีตรงหน้าย่อมไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน
แม้เยี่ยนจ้าวเกอจะเยาะว่าเบญจจริยาของนางไม่ครบ เป็นหงส์อมตะไร้ขน แต่นั่นเพราะเปรียบเทียบกับความรอบรู้ของเขาเท่านั้น
สามารถใช้พลังบารมี และกุศลซ่อนเพิ่มพลังได้ ผู้ที่รับสืบทอดวรยุทธ์นี้ ย่อมไม่ใช่คนธรรมดา
อาศัยเพียงข้อนี้ ก็หนือกว่าวรยุทธ์ของขุมกำลังต่างๆ เช่น หอกระบี่ทะเลเหนือ สำนักแสงสว่าง สำนักความมืด หรือแม้แต่ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องแล้ว
สามารถเทียบเคียงได้กับผู้สืบทอดของผู้วิเศษเซิงที่ได้รับคัมภีร์นภากาลเวลา
นอกจากนั้นยังบอกไม่ได้ว่าเป็นเพราะสตรีนางนี้มือไม่ถึง หรือวรยุทธ์ของนางมีจุดบกพร่องอยู่แล้ว
ถ้าหากว่าวรยุทธ์ของนางมีเบญจจริยาอยู่ด้วยกัน เช่นนั้นก็จะเทียบเคียบได้กับกระบวนท่าอย่างคัมภีร์เกิดนภา และคัมภีร์พลิกนภา
เมื่อมีวิชาวรยุทธ์เช่นนี้ จะต้องมีเบื้องหลังบนโลกซ้อนโลกไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ในตอนนี้เยี่ยนจ้าวเกอจึงพิจารณาสตรีวัยกลางคนผู้นี้ด้วยความสนใจ
อีกฝ่ายมองเยี่ยนจ้าวเกอกับร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกอย่างสงสัยเช่นกัน
‘ข้าหลอมแสงม่วงบารมีและปราณขาวกุศลซ่อนในวิชาที่ข้าฝึกฝนสำเร็จ แต่กลับสู้คนผู้นี้ไม่ได้ วรยุทธ์ที่เขาฝึกปรือคืออะไรกันแน่ เหตุใดถึงสะท้อนญาณจริงแท้ของคุนเผิงที่บริสุทธิ์โดยสมบูรณ์เช่นนี้ได้?’ สตรีวัยกลางคนสูดลมหายใจเย็นเยียบ ‘เหมือนกับคุนเผิงร่างคนตัวหนึ่ง’
ไป๋จื่อหมิงกับผู้อาวุโสจากหอกระบี่ทะเลเหนือคนนั้น ครั้งนี้มองเยี่ยนจ้าวเกอกับร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกอย่างเงียบๆ ตกตะลึงในใจ
สตรีนางนี้ดุร้ายขนาดไหน พวกเขาได้เรียนรู้มาอย่างเต็มที่แล้ว
อย่าเห็นว่าพวกเขาไล่ตามอีกฝ่าย แต่ความจริงเป็นเพราะถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นผู้มาจากที่อื่น ร่องรอยรั่วไหล กลัวจะถูกรุมโจมตีเพิ่มอีก
โดยเฉพาะยังกลัวว่าเจิ้งหมิงจะขับเรือนภาร่อนวายุไล่ตามมา ดังนั้นจึงไม่คิดสู้ หนีตายตลอดทาง
หากหมายจะต่อสู้จริงๆ ถึงแม้จะเกิดความรู้สึกพ่ายแพ้ แต่ไป๋จื่อหมิงก็ต้องยอมรับว่า ตนที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสี่ ขั้นเทวะสำแดงระยะต้นเหมือนกัน กลับไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนางโดยสิ้นเชิง โลกซ้อนโลกเป็นดินแดนของพยัคฆ์และมังกร ทำให้ความฮึกเหิมก่อนที่เขาจะลอยขึ้นมากลายเป็นความระมัดระวังโดยสมบูรณ์แล้ว
ดีที่ผู้อาวุโสหอกระบี่ทะเลเหนือซึ่งร่วมทางมาด้วยเป็นยอดฝีมือที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นห้า ขั้นเทวะสำแดงระยะกลาง มีพลังไม่ธรรมดา ไม่อย่างนั้นไม่ทราบว่าใครจะไล่ล่าใครกันแน่
ผู้อาวุโสจากหอกระบี่ทะเลเหนือผู้นั้นมีความรู้สึกคล้ายกัน เขาแม้ว่าจะมีระดับสูงกว่าหนึ่งขั้น แต่หากต่อสู้กับสตรีวัยกลางคนตรงหน้านี้ ก็ใช่ว่าจะเอาชนะได้ง่ายๆ
กระนั้นสตรีวัยกลางคนผู้นี้กลับสู้ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกของเยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้!
ผู้อาวุโสจากหอกระบี่ทะเลเหนือผู้นี้เพิ่งคิดจะทักทายร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก ดวงตาพลันกลายเป็นเคร่งขรึม ความตกใจบนใบหน้าเด่นชัดกว่าเดิม
เยี่ยนจ้าวเกอยามนี้ค่อยเอ่ยถาม “เป็นลูกศิษย์ของประมุขอุดรหรือ?”
ตามคำพูดในตอนแรกของเยี่ยซิน คนที่คิดสังหารนางมาจากเขตเพลิงอุดร
สามารถมีวิชาวรยุทธ์ที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ ในเขตเพลิงอุดรย่อมมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นลูกศิษย์ของประมุขอุดร
สตรีวัยกลางคนแค่นเสียง ไป๋จื่อหมิงตอบ “ตามคำพูดของท่านเจิ้ง นางเป็นลูกศิษย์ของประมุขอุดรจริงๆ สหายเยี่ยซินไม่รู้จัก แต่ท่านเจิ้งรู้จัก”
เยี่ยนจ้าวเกอยักไหล่ “ไม่ทราบว่าชื่ออะไร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี