บาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง พร้อมๆ กันนั้นด้านในแสงสว่างที่เกิดจากการบีบอัดกันเองของพลังแห่งเขตแดน ก็ปรากฏเงาคนกลุ่มหนึ่งอย่างเลือนราง
เมื่อพวกเขาพุ่งออกมาจากบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ ก็พบว่าคนที่นำหน้ากลับเป็นเสวียนมู่อ๋องนั่นเอง
เพียงแต่จ้าวผู้ปกครองคนปัจจุบันของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง ในตอนนี้กลับมีสภาพทุลักทุเลยิ่ง
มงกุฎบนศีรษะของพระองค์ถูกทำลาย พระเกศากระเซอะกระเซิง บนไหล่ข้างซ้ายและตรงหน้าอกข้างขวามีบาดแผลสาหัส โลหิตไหลโทรมกาย
ด้านบนหน้าผากมีรอยแผลสีแดงฉานอยู่สายหนึ่ง พระโลหิตไหลจากตรงนั้นลงอาบแก้มเสียครึ่งหนึ่ง
ด้านหลังเสวียนมู่อ๋อง ติดตามไว้ด้วยจอมยุทธ์ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องที่ลงไปโลกแปดพิภพพร้อมพระองค์ก่อนหน้า
เพียงแต่ตอนไปมีสภาวะพันทัพหมื่นอาชา มาตอนนี้กลับเหลือคนเพียงหรอมแหรม
บนใบหน้าของคนทุกคนต่างฉายแววหวาดหวั่นพรั่นพรึง แย่งกันออกจากบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ด้านหลัง เหมือนกับที่นั่นเป็นหุบเหวแห่งความพินาศ
“โลกแปดพิภพเป็นโลกแบบไหนกันแน่? นอกจากเยี่ยนจ้าวเกอสองพ่อลูกนั่น ยังมียอดฝีมือที่เก่งกาจอยู่ด้วย!”
“พวกเขาเป็นคนที่เติบโตขึ้นในโลกเบื้องล่างใบนั้นจริงๆ หรือ? ไม่ใช่ว่ามีคนจากขุมกำลังใดสักขุมกำลังบนโลกซ้อนโลกไปตั้งกองกำลังที่นั่นกระมัง?”
“มีแต่สัตว์ประหลาดทั้งนั้น น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!”
ในตอนนี้ จอมยุทธ์ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องที่ผ่านบาดแผลแห่งกำแพงสววรรค์ กลับมาถึงโลกซ้อนโลกได้อีกครั้ง ต่างมีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงโดยไม่ได้นัดหมาย
ดีที่อีกฝ่ายไล่ตามมาไม่ได้!
การมีบาดแผลแห่งแพงสวรรค์ และการมีฉากกำบังระหว่างโลกซ้อนโลกกับโลกเบื้องล่างขวางกั้น ช่างประเสริฐโดยแท้!
ไม่มีใครกล้าพูดประโยคนี้ออกมา เพราะนั่นแสดงออกถึงความอ่อนแอมากเกินไป ทั้งยังเป็นการเพิ่มขวัญกำลังใจให้กับอีกฝ่าย แต่ทำลายความน่าเกรงขามของตัวเอง
ทว่าในใจของทุกคนกลับคิดเช่นนี้
นอกจากนั้น ความคิดนี้ยังวนเวียนอยู่ในสมองของพวกเขาเนิ่นนาน ไม่ยอมหายไปไหน
จอมยุทธ์ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องหมดอาลัยตายอยาก บนใบหน้าของเสวียนมู่อ๋องเองก็ซีดเซียวเช่นกัน
พระองค์ยาตราทัพลงไปยังโลกเบื้องล่างด้วยตัวเอง สุดท้ายฝ่ายตนเองกลับถูกคนเล่นงานจนได้รับบาดเจ็บล้มตาย ตัวพระองค์ก็เกือบจะสวรรคตที่โลกเบื้องล่างไปแล้ว!
ใช่แล้ว มิผิด พลังฝึกปรือของพระองค์ถูกพลังแห่งเขตแดนของฟ้าดินสะกดให้อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสาม
แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น พลังของพระองค์ก็แข็งแกร่งยิ่งกว่าจอมยุทธ์ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสาม ขั้นรวมรูประยะท้ายอยู่ดี
ทว่าคู่ต่อสู้ของพระองค์กลับร้ายกาจยิ่งกว่า
สภาวะดาบที่เหมือนกับราชันเสด็จนั้น ทำให้เสวียนมู่อ๋องที่เป็นผู้ปกครองทะเลหวงเจียมาหลายปี ถึงขั้นเกิดความรู้สึกหลอนอย่างหนึ่ง
อีกฝ่ายจึงเป็นประมุขผู้ไร้เทียมทานของจริง ส่วนเขาได้แต่ยอมศิโรราบเท่านั้น
พระองค์คิดจะทำลายความรู้สึกหลอนนี้ แต่ผลลัพธ์กลับได้พิสูจน์ว่า ความรู้สึกนี้เป็นของจริง!
ศักดิ์ศรีของตัวเองไม่อนุญาตให้พระองค์ยอมแพ้เช่นนี้ แต่ความจริงก็คือ หากเมื่อครู่ลังเลเพียงนิดเดียว ปลดสะกดลอยขึ้นมาไม่ทันกาล พระองค์จะต้องทิ้งชีวิตที่ต่างแดน สวรรคตในโลกแปดพิภพแน่นอน
พระองค์หลุดจากโลกแปดพิภพ ลอยขึ้นมายังโลกซ้อนโลกทันเวลา ค่อนฝืนหลบพ้นดาบสังหารนั้น
คมดาบที่น่าพรั่นพรึงนั้นยังบดขยี้มงกุฎของพระองค์ ทิ้งรอยแผลไว้บนหน้าผากอีกด้วย
หากช้าไปเพียงนิดเดียว พระเศียรของพระองค์คงถูกดาบนั้นตัดไปแล้ว!
ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องเดิมทีก็เสียท่าเพราะเยี่ยนจ้าวเกอไปไม่น้อย แต่คนที่ปะทะกับเยี่ยนจ้าวเกอตรงๆ และผูกเป็นความแค้นล้ำลึก ส่วนใหญ่เป็นคนในสิบกระบี่ผู้วิเศษ
ก่อนหน้านี้ขณะที่เสวียนมู่อ๋องมองเยี่ยนจ้าวเกอเป็นศัตรู กลับมีความรู้สึกชมเชยอยู่หลายส่วน
แต่ครั้งนี้พระองค์เสด็จไปยังโลกแปดพิภพด้วยตัวเอง แล้วได้พ่ายแพ้กลับมา รอดพ้นจากความตาย จิตใจของเสวียนมู่อ๋องไม่อาจผ่อนคลายได้อีกแล้ว
บัดนี้พระองค์รู้สึกคับข้องและเคียดแค้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“ฝ่าบาท พวกเรา…” มีจอมยุทธ์ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องผู้หนึ่งส่งเสียงถาม
เสวียนมู่อ๋องพระพักตร์เคร่งขรึม เหมือนกับภูเขาไฟที่กำลังจะปะทุ
หลังหลุดจากบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ กลับมายังโลกซ้อนโลก พลังฝึกปรือของเขาก็พลันฟื้นกลับมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี