วังศิลาก้นทะเลเกิดจากซากศพหลังจากเทาเที่ย ซึ่งเป็นอสูรร้ายที่แข็งแกร่งถึงขีดสุด
เทาเที่ยแม้จะตายไปแล้ว แต่เลือดเนื้อยังคงเหี้ยมหาญ ร่างกายไม่เน่าไม่สลาย ทั้งยังสร้างเป็นวังศิลาที่ซึ่งมีที่ว่างเป็นเอกเทศ
ที่นี่ไม่ได้แตกต่างจากโลกใบหนึ่ง ตัดขาดความว่างเปล่า แยกตัวจากโลกซ้อนโลก
ในขณะเดียวกัน ขอบเขตของเขตแดนมั่นคงเป็นพิเศษ จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนสามารถต่อสู้กันด้านในได้
พลังฝึกปรือของพวกคังผิงและกู้หง ต่อให้กำลังต่อสู้กันอยู่ในฟ้าดินของโลกซ้อนโลก ก็จะทำให้ฟ้าดินสั่นสะเทือน
แต่ว่าตอนนี้การโจมตีกระทบใส่วังศิลาโดยเผอเรอด้านในวังศิลาก้นทะเล เป็นเพียงคลื่นหลงเหลือจากการต่อสู้ ไม่อาจทำลายที่นี่ทิ้งได้
กระนั้นการต่อสู้กันของจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนจำนวนหนึ่งก็ยังส่งผลกระทบยิ่งใหญ่อยู่ดี
ภายใต้การสั่นสะเทือนของปราณวิญญาณ พิธีกรรมที่ใช้เซ่นสรวงกระบี่วิเศษที่กลางวังศิลา เมื่อเจอกับการเปลี่ยนแปลงนี้ พลันปั่นป่วนขึ้นมา
ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกเห็นฝักกระบี่กลืนฟ้าที่กำลังดำเนินการผนึกและเซ่นสรวงพลันสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
สิ่งที่สั่นสะเทือนไม่ใช่ตัวฝักกระบี่ แต่เป็นสิ่งที่อยู่ด้านในฝักกระบี่!
ครั้นถูกลำแสงที่อยู่บนฝักกระบี่เหนี่ยวนำ กระบี่วิเศษด้านในฝักกระบี่ยังไม่ทันได้รับการเซ่นสรวงสำเร็จ ก็กำลังจะพุ่งออกจากด้านในฝักกระบี่แล้ว
เสียงกรีดร้องที่เหมือนกับเสียงร้องไห้ของทารก ดังขึ้นในก้นบึ้งจิตใจของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก สั่นสะเทือนขวัญวิญญาณ
ด้วยพลังฝึกปรือในปัจจุบันของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก ยังมีความรู้สึกหน้ามืดตาลาย
นั่นเป็นเสียงคำรามของเทาเที่ย!
ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกเพ่งตามองไป เห็นผิวของฝักกระบี่คืนฟ้าค่อยๆ มีใบหน้าของอสูรร้ายตัวหนึ่งลอยขึ้นมา เป็นลักษณะของเทาเที่ยที่อยู่ในตำนานอย่างชัดเจน
ลักษณะของเทาเที่ยตัวนั้นคล้ายปลอมคล้ายจริง แต่ว่าในตอนที่มันอ้าปากอันน่าสยองของมันขึ้น แรงดึงดูดมหาศาลที่ส่งมาจากด้านในกลับเป็นของจริง
อานุภาพกลืนฟ้ากินดิน เขมือบโลกหล้าปรากฏขึ้น ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกพลันโซเซ ร่างลอยขึ้นมา
ขณะกำลังจะพุ่งเข้าไปในปากของเทาเที่ย ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกก็ออกแรงอย่างเหี้ยมหาญ ร่างหักเลี้ยวกลางอากาศ ฝืนหยุดร่างของตัวเอง
เตากลืนดินที่อยู่ในมืออีกข้างหนึ่งของมันเข้าปะทะกับปากขนาดใหญ่ของเทาเที่ยที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นบนฝักกระบี่กลืนฟ้า
การหลอมที่ยาวนานขนาดนี้ ทำให้ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกสามารถควบคุมฝักกระบี่กลืนฟ้ากับเตากลืนดินได้เป็นส่วนใหญ่แล้ว
ปัจจุบันมันสามารถกระตุ้นให้ของวิเศษชิ้นนี้แสดงความสามารถได้แล้วเช่นกัน
แต่น่าเสียดายที่เตากลืนดินอันดูดซับได้แม้แต่การโจมตีของจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดงเตานี้ กลับเหมือนสูญเสียความสามารถไป เมื่ออยู่ต่อหน้าเทาเที่ยตัวนี้
ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกสั่งความคิด ความเร็วเพิ่มขึ้นถึงขีดสุด ออกห่างอย่างต่อเนื่อง
แต่ว่าระยะห่างของเขากับฝักกระบี่กลืนฟ้ากลับไม่แตกต่างไปจากเดิมแม้แต่น้อย ยังคงห่างกันแค่คืบเท่านั้น
ความพยายามของตัวเองได้แต่รับประกันว่าจะไม่เข้าใกล้เทาเที่ยตัวนั้นมากกว่านี้ชั่วคราว
ทั้งสองฝ่ายอยู่ในสภาวะยื้อยัน
แต่ว่าเสียงคำรามของเทาเที่ยซึ่งเหมือนเสียงร่ำไห้ของเด็กทารกยิ่งมายิ่งดัง แทบจะทำให้แก้วหูแทบฉีกขาด
เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกได้ว่า บ่อเลือดที่ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกกับฝักกระบี่กลืนฟ้าอยู่ เริ่มเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงชนิดไม่เคยมีมาก่อน
ฟองเลือดขนาดยักษ์ฟองแล้วฟองเล่าผุดขึ้นบนผิวบ่อเลือด จากนั้นก็ระเบิดออก เลือดปีศาจในบ่อเลือดเหมือนกับเดือดพล่านขึ้นมา
วังศิลาเกิดการเปลี่ยนแปลงด้วยความเร็วที่ใช้ตาเนื้อเห็นได้อย่างชัดเจน ตัววังที่บ่อเลือดอยู่เริ่มหดตัว เหมือนกับกลับคืนสู่ลักษณะเดิมของหัวใจปีศาจของเทาเที่ย
นอกจากกลิ่นคาวเลือดแล้ว ถึงกลับมีพลังชีวิตปรากฏขึ้นด้านในวังศิลาที่เดิมทีวังเวง
เลือดเนื้อหดตัว ชีพจรกระตุก กระดูกยืดหด!
จอมปีศาจเทาเที่ยที่ตายไปแล้ว ตอนนี้มีร่องรอยว่าจะคืนชีพขึ้นมา!
วิญญาณปีศาจของเทาเที่ยที่ถูกผนึกไว้ด้านในกระบี่โบราณสำริด เริ่มทำลายผนึก หมายทะลวงกระบี่สำริดและฝักกระบี่กลืนฟ้าที่เป็นตัวขัดขวาง เพื่อรวมกับกายเนื้อของตัวเองที่โลกภายนอก
ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกถูกขนาบไว้ตรงกลางพอดี ด้านนอกมีการบีบอัดจากเลือดเนื้อ ด้านในมีการฉีกกระชากจากวิญญาณปีศาจ
ศีรษะของเทาเที่ยบนฝักกระบี่ ดวงตาสองดวงสาดประกายชั่วร้ายออกมา คิดจะเขย่าขวัญของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี