จางเชาไม่รู้จักฉีเหว่ย แต่เมื่อเห็นปฏิกิริยาของคังเม่าเซิงกับคังจิ่นหยวน ก็รู้ว่าเป็นยอดฝีมือของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง
รอจนฉีเหว่ยลงมือวางค่ายกล ฉีเหว่ยพลันคิดออกว่า นี่คือปรมาจารย์ด้านค่ายคนที่ในตอนนั้นรุมเยี่ยนจ้าวเกอกับจอมยุทธ์สำนักแสงสว่าง ที่ดินแดนทายาทฟ้าและดินแดนนทีโศกคนนั้น
นี่ทำให้จางเชารู้สึกมั่นใจมากขึ้น
แต่ไม่รอให้เขารู้สึกโล่งใจ ก็เห็นแสงสายฟ้าที่ดุร้ายพุ่งมาหาเขา!
ครั้งนี้เขาคล้ายเข้าใจขึ้นมาว่า เยี่ยนจ้าวเกอเองก็มีระดับค่ายกลลึกล้ำเป็นเลิศเช่นกัน
ตามที่ถังหย่งฮ่าวและเมิ่งหวานบอกเล่า เยี่ยนจ้าวเกอเรียกได้ว่าเป็นคนที่มีความรู้เรื่องค่ายกลอันดับหนึ่งในโลกแปดพิภพ เมื่อครั้งยังอยู่ในระดับปรมาจารย์และมหาปรมาจารย์
แล้วเยี่ยนจ้าวเกอที่ตอนนี้เลื่อนจากบรรลุธรรมเป็นศักดิ์สิทธิ์ การกระตุ้นค่ายกลและการแก้ไขค่ายกลของเขาอยู่ในระดับไหนแล้ว?
จางเชาไม่มีเวลาคิดต่ออีก
เขาที่แขนขาดและได้รับบาดเจ็บ ในการเผชิญหน้ากับค่ายกลสายฟ้าทมิฬส่งมารของฉีเหว่ย มีโอกาสตายเก้ารอดหนึ่ง
จางเชาพยายามสุดกำลัง หลบไปด้านข้าง ยังมีร่างกายครึ่งหนึ่งที่ถูกสายฟ้ากลืนกิน
“เปรี๊ยะๆๆๆๆๆ” ท่ามกลางเสียงกระแสไฟฟ้าที้บ้าคลั่ง จางเชาครางหนักๆ คำหนึ่ง เลือดเนื้อเลอะเลือน ทุกส่วนไหม้เกรียม
เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะฮ่าๆ “จางเชา วิชาเต่าหัวหดของเจ้าสุดยอดจริงๆ รอยอดฝีมือในรุ่นเดียวกันกับเจ้ามาตายไปไม่น้อย ในที่สุดเจ้าก็มีโอกาสได้ครองอันนดับหนึ่ง ใช่รู้สึกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่จนถึงตอนสุดท้าย เป็นการหัวเราะทีหลังหรือไม่?”
กระบี่รุ้งพร่างพราวในมือเขาปรากฏประกายกระบี่อันพร่างพราว ฟันใส่จางเชา “น่าเสียดาย ในที่สุดก็ถูกเขากว่างเฉิงจัดการ อาจารย์ปู่สะเทือนสวรรค์ปล่อยเจ้า แต่ข้าไม่ทำ!”
ฉีเหว่ยสีหน้าเขียวคล้ำ เขาได้ยินคังเม่าเซิงเล่าเรื่องที่จางเชาสวามิภักดิ์แล้ว จึงกระตุ้นค่ายกลขัดขวางเยี่ยนจ้าวเกอทันที
“คนผู้นี้ข้าคุ้มครองแล้ว เจ้าอย่ามาโอหัง!”
เยี่ยนจ้าวเกอสภาวะกระบี่ไม่หยุด ขณะเดียวกันก็ใช้ตราประทับตะวันหยุดการเปลี่ยนแปลงในค่ายกลของฉีเหว่ย จากนั้นก็ใช้ดัชนีหยินหยางอีกครั้ง
พลังค่ายกลที่ขัดขวางตนในตอนแรก พลันพุ่งไปทางคังเม่าเซิงและคังจิ่นหยวนสองพี่น้อง
ฉีเหว่ยจนปัญญา ได้แต่ปกป้องพี่น้องตระกูลคังก่อน
“เมื่อครู่ท่านบอกว่าจะคุ้มครองใครนะ?” เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะ
ประกายกระบี่กระจายไปทั่ว จางเชาที่ได้รับบาดเจ็บหายใจรวยรินอยู่แล้ว พลันศีรษะหลุดจากบ่า!
ศีรษะใบหนึ่งลอยขึ้นบนท้องฟ้า สองตาเบิกกว้าง
อาทิตย์ม่วงจางเชา ยอดฝีมืออันดับหนึ่งในประวัติศาสตร์สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเคยเรียกลมเรียกฝน ทำตัวอหังการอยู่ในโลกแปดพิภพอยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่ง บัดนี้ตายตาไม่หลับ!
ไม่ใช่แค่เขาตายตาไม่หลับเท่านั้น ดวงตาของฉีเหว่ยก็แทบมีไฟพวยพุ่งออกมาเช่นกัน
จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นห้า ขั้นเทวะสำแดงระยะกลางที่ยิ่งใหญ่เช่นเขา ปกป้องคนคนหนึ่งไม่ได้!
สิ่งที่ทำให้เขารับไม่ได้ก็คือ คนที่สังหารคนต่อหน้าเขา กลับเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสอง ขั้นรวมรูประยะกลางเท่านั้น
ฉีเหว่ยที่เยือกเย็นมาแต่ไหนแต่ไร ยามนี้เพียงรู้สึกเพียงแค่รู้สึกโมโหจนควันออกหู แทบจะไม่อาจควบคุม
แต่ว่าพลังของเยี่ยนจ้าวเกอกลับทำให้เขาตื่นตระหนกกว่าเดิมเช่นกัน
เขาเคยต่อสู้กับเยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหนึ่ง ในตอนนั้นก็รู้สึกสั่นสะท้านอยู่แล้ว แต่ยังสู้ตอนนี้ไม่ได้
เทียบกับคนอื่นๆ เทียบกับตัวฉีเหว่ยเอง เทียบกับยอดฝีมือที่เขารู้จักเช่นพวกคังผิง เฮ่อตงเฉิง กู้จาง เสวียนมู่อ๋อง เยี่ยนจ้าวเกอนั้นแตกต่าง
ทุกครั้งที่ก้าวไปด้านหน้า การเพิ่มขึ้นของพลังของเขาเหมือนกับจะเหนือกว่าการทำลายระดับของคนอื่นๆ
สิ่งที่อยู่เหนือนอกความมากมายมีมากมายนัก
ฉีเหว่ยรู้สึกว่าตามสถานการณ์ปกติ เมื่อเยี่ยนจ้าวเกอเลื่อนจากระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหนึ่งเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสอง พลังย่อมเพิ่มขึ้น แต่ไม่น่าตะเพิ่มขึ้นมหาศาลขนาดนี้
ประสบการณ์ของคนอื่นไม่อาจใช้กับชายหนุ่มตรงหน้าได้เด็ดขาด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี