เทียบกับการยืมพลังมงกุฎจันทราของเมิ่งหวานแล้ว พลังส่วนของตัวเยี่ยนจ้าวเกอเองถึงอย่างไรก็มีมากกว่า ในหมู่คนที่อยู่รอบๆ เขาค้นพบการมาถึงของหงส์เพลิงตัวนั้นเป็นคนแรก
หลังจากเห็นเงาแสงของหงส์เพลิงที่จู่ๆ ก็โผล่ขึ้นบนร่างของถังหย่งฮ่าว และเมฆาคุณธรรมสีดำขาว เยี่ยนจ้าวเกอก็เหมือนคล้ายนึกบางอย่างขึ้นได้
ผู้สืบทอดของประมุขทักษิณ ครั้งนี้มาที่วังศิลาก้นทะเล เป้าหมายแรกเริ่มสมควรเป็นกระดูกหงส์เพลิงชิ้นนี้
กระดูกหงส์เพลิงชิ้นนี้แฝงไว้แค่เมฆาคุณธรรมเท่านั้น ขาดจิตจริงแท้ของสี่จริยาที่เหลือ
อีกฝ่ายยังให้ความสำคัญถึงเพียงนี้ เช่นนั้นก็มีความเป็นไปได้เดียว
ม้วนคัมภีร์ร่างหงส์เพลิงของประมุขทักษิณ แม้ว่าจะมีจิตจริงแท้ของหงส์เพลิง แต่ห้าจริยะกลับไม่ครบจริงๆ
ปฐพีอานิสงส์ ปราณขาวกุศลซ่อน แสงม่วงบารมี สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีวิชาลับที่ใช้สำหรับฝึกฝนอยู่
คลื่นน้ำยอดกุศลยังบอกไม่ได้ แต่ว่าเมฆาคุณธรรมเมื่อดูจากตอนนี้ น่าจะขาดวิชาที่สำหรับฝึกฝนไป
ดังนั้นคนตรงหน้านี้จึงเสี่ยงบุกรุก ทะลวงมายังอาณาเขตของเขตตะวันอาคเนย์ ทะลวงมายังทะเลหวงเจีย เป้าหมายก็คือกระดูกของหงส์เพลิงชิ้นนี้นี่เอง
นี่ได้อธิบายด้วยว่า เหตุใดก่อนหน้านี้พวกหวังฮุ่ยจึงกล้าลงมือกับผู้สืบทอดของประมุขอาคเนย์อย่างเยี่ยซินด้วยความอำมหิตเพื่อปกปิดความลับ
เรื่องราวถ้าหากถูกประมุขอาคเนย์รู้เข้า พวกหวังฮุ่ยจะไม่อาจทำภารกิจให้สำเร็จลงได้
ความสัมพันธ์ระหว่างเขตตะวันอาคเนย์กับเขตเพลิงทักษิณก็ไม่ได้ดีมาตั้งแต่ไหนแต่ไร
กระดูกของหงส์เพลิงหากตกไปอยู่ในการครอบครองของเขาโถงทอง แค่เพียงเล่นตัว อีกฝ่ายก็ยากจะรับได้แล้ว
หงส์เพลิงสยายปีก ครอบคลุมถังหย่งฮ่าว คิดหลอมเขาทั้งเป็น เพื่อนำกระดูกวิเศษคืนมา
เยี่ยนจ้าวเกอเห็นดังนั้นก็ฟันออกกระบี่หนึ่ง
ตนได้สังหารหลี่จิ้นลูกศิษย์ของประมุขทักษิณ จึงผูกความแค้นกับเขตเพลิงทักษิณไปแล้ว
ถ้าหากว่าพวกประมุขทักษิณมีพลังฝึกปรือเพิ่มขึ้นอีก จะไม่เป็นผลดีต่อตัวเอง
หงส์เพลิงตัวนั้นเป็นแค่หุ่นเชิด หลังจากรับประทานกระบี่ของเยี่ยนจ้าวเกอเสร็จ เปลวไฟก็กระจายว่อน เหมือนกับขนหลุดไม่หยุด
“เป็นเจ้าอีกแล้ว” หงส์เพลิงเดือดดาล
เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างเรียบง่าย “ได้เพียงวิชาไม่ได้แก่นสาร ต่อให้มอบกระดูกหงส์เพลิงชิ้นนี้ให้ท่านแล้วเป็นไร? ท่านก็ฝึกเมฆาคุณธรรมไม่ได้อยู่ดี”
หงส์เพลิงตัวนั้นหล่นลงมาจากลางอากาศ เปลวเพลิงทั่วร่างค่อยๆ มอดดับ
หุ่นเชิดตัวนี้กลับถูกเยี่ยนจ้าวเกอใช้กระบี่เดียวแยกเป็นสองส่วน ไม่อาจเคลื่อนไหวได้อีก
หงส์เพลิงกลิ่นอายค่อยๆ อ่อนแอลง ปราณวิญญาณกับจิตหมัดวรยุทธ์ที่ตอนแรกเก็บไว้ด้านใน ต่างสลายไปพร้อมกัน
ก่อนที่หงส์เพลิงจะสลายไปโดยสิ้นเชิง มันจ้องเยี่ยนจ้าวเกอ “ข้าได้กระดูกชิ้นนั้นมา การจะฝึกหลักจริยะ ย่อมต้องจัดการเรื่องบางเรื่อง สั่งสมคุณธรรม แล้วหลอมเป็นเมฆสีขาวดำ”
“ปกติใจข้าคิดทำอะไร กับตอนฝึกวิชาจะคิดทำอะไร เป็นคนละเรื่องกัน ข้าไม่จำเป็นต้องใช้เมฆาคุณธรรมมาสู้กับศัตรู”
“ที่ข้าฝึกวิชาหงส์เพลิง ก็เพื่อทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น ไม่ใช่เพื่อเปลี่ยนให้ตัวเองเป็นหงส์เพลิง ที่เวลาทำอะไรต้องคำนึงการสั่งสมห้าจริยะ ก็เพื่อฝึกฝนวิชา”
อีกฝ่ายในตอนนี้ใจเย็นลงแล้ว “คนฝึกวรยุทธ์ ไม่ใช่วรยุทธ์บังคับคน หากถูกวรยุทธ์ควบคุม นั่นก็เท่ากับซื้อกล่องคืนไข่มุก เรื่องโง่บรมเช่นนี้ใครจะทำบ้าง”
เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะฮ่าๆ “เรื่องนี้ต่างคนต่างความเห็นแล้ว”
แสงไฟค่อยๆ หายไป สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าทุกคนคือหงส์เพลิงกระดาษ ในตอนนี้นกลายเป็นนกสีดำ ค่อยๆ ถูกเผากลายเป็นเถ้าถ่าน
“คำพูดสุดท้ายเมื่อครู่ของพวกเจ้า ข้าได้ยินแล้ว ที่แท้เจ้าไม่ได้เกี่ยวข้องกับราชันพระอาทิตย์ เพียงแค่เก็บตราประทับตะวันได้โดยบังเอิญเท่านั้น”
เยี่ยนจ้าวเกอมองหงส์เพลิงกระดาษที่อยู่ด้านในเปลวเพลิงอย่างคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม
อีกฝ่ายเอ่ยอย่างเรียบเฉย “ถึงแม้ทางเชื่อมด้านในวังศิลาตอนนี้จะสับสน แต่ว่าข้ารู้จักสถานที่แห่งนี้แล้ว พวกเจ้ารอประเดี๋ยว ข้าแซ่จวงกำลังจะไปหา”
ก่อนที่หงส์เพลิงกระดาษตัวนั้นจะกลายเป็นจุณ หางตาก็เหลือบมองเมิ่งหวานเล็กน้อย ใช้เสียงที่ไม่มีใครได้ยินพึมพำว่า “เหมือนจริงๆ…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี