เมื่อเข้าใกล้เขาโถงทอง แม้ยังไม่ถึงอย่างเป็นทางการ แต่พวกเยี่ยนจ้าวเกอก็รู้สึกว่าด้านหน้าสว่างขึ้น
ในตอนนี้น่าจะเป็นตอนกลางวัน แต่เขาโถงทองกลับเหมือนถูกม่านราตีผืนหนึ่งครอบคลุมไว้
เพียงแต่ภายใต้ม่านราตรีกลับไม่มีความรู้สึกมืดสลัว ทุกอย่างกลับส่องแสง ประกายดาวสาดแสงพร้อมกัน
การอยู่ในโลกซ้อนโลก ตอนกลางวันกับตอนกลางคืนแบ่งแยกไม่ชัดเจน จะมีประกายดาวส่องระยิบระยับตลอดเวลา เหมือนอยู่ใกล้กับทางช้างเผือกเป็นพิเศษ
และขณะมองเขาโถงทอง ความรู้สึกนี้ก็ชัดเจนมาก
แสงดาวเป็นจุดกะพริบอยู่เบื้องหน้าพวกเยี่ยนจ้าวเกอไม่หยุด เหมือนกับโลกของหมู่เซียน
เยี่ยนจ้าวเกอมองดูแสงดาวที่มีแบบแผนเป็นของตัวเองหลายสายวาดผ่านท้องฟ้า บนใบหน้าฉายแววครุ่นคิด
‘ข้าอาจจะรู้แล้วว่าประมุขอาคเนย์ฝึกวรยุทธ์แบบใด’ เยี่ยนจ้าวเกอส่งกระแสเสียงให้กับพวกเยี่ยนตี๋และเฟิงอวิ๋นเซิง
ภาพการประมือของลูกศิษย์ของประมุขอาคเนย์กับคนอื่น เยี่ยนจ้าวเกอเห็นมาไม่กี่ครั้ง หากบังเอิญได้เจอ ก็เกิดขึ้นเพียงแวบเดียว ไม่ได้เห็นของจริงทั้งหมด
ทว่าในตอนนี้ ขณะมองลักษณะของเขาโถงทอง เยี่ยนจ้าวเกอก็คาดเดาในใจ “ประมุขอาคเนย์น่าจะขึ้นชื่อในมรรคากระบี่กับมรรคาโอสถ”
หลังจากเยี่ยนตี๋ใคร่ครวญ เขาก็เอ่ยว่า “เจ้าหมายถึงวิชาของจักรพรรดิจื่อเวยหรือ?”
“จ้าวแห่งหมื่นดารา จอมมรรคากระบี่แห่งสำนักเต๋าก่อนมหาภัยพิบัติ หนึ่งในสี่เทวราชสำนักเต๋า” เยี่ยนจ้าวเกอพึมพำ “จะใช่การสืบทอดสายตรงหรือไม่ยังยืนยันไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็เป็นวรยุทธ์ที่เกี่ยวข้อง”
ราชันปีศาจอัคคี ราชันสายฟ้า หรือจักรพรรดิประกายกาฬหลังมหาภัยพิบัติ แม้ว่าจะเป็นยอดฝีมือที่ถูกขนานนามว่าราชาหรือจักรพรรดิ แต่คำเรียกของพวกเขาเป็นแค่ตัวอักษรสองสามตัวเท่านั้น
ทว่าจักรพรรดิจื่อเวยแตกต่างกับคนเหล่านี้ โดยมีชื่อเต็มว่าจักรพรรดิดาวเหนือจื่อเวยผู้อยู่กลางหาว
ความเป็นมาถูกผู้คนยกย่องเป็นเจ้าแห่งหมู่ดาว เป็นปรมาจารย์แห่งดวงดารา ได้รับการจัดเป็นสี่เทวราชแห่งสำนักเต๋าเหมือนกับมารดาแห่งแผ่นดินผู้มีธรรมและเมตตารองรับฟ้า หรือมารดาแห่งแผ่นดิน เป็นหนึ่งในบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ของสำนักเต๋าที่สุดยอดที่สุด
ในขณะเดียวกัน เขายังถูกยกย่องเป็นจ้าวแห่งมรรคากระบี่ของสำนักเต๋าก่อนมหาภัยพิบัติด้วย
บรมครูสามพิสุทธิ์ไม่อาจใช้หลักการทั่วไปมาวัดได้ จึงไม่ถูกนับรวม และในการเวลาอันยาวนานนับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน สำนักเต๋ายังให้กำเนิดผู้ฝึกกระบี่ระดับสุดยอดจำนวนไม่น้อย
จ้าวแห่งมรรคากระบี่ที่คนรุ่นหลังยกย่องมากที่สุด ปกติแล้วมีสามคน
หยกโปหยิน ลูกศิษย์ของเทวกษัตริย์บรรพกำเนิด ผู้เป็นบรมครูสายหยกพิสุทธิ์
เต้าหยินตัวเป่า หรือเทวกษัตริย์วิเศษคณานับ ลูกศิษย์อันดับหนึ่งของเทวกษัตริย์รัตนวิเศษ ผู้เป็นบรมครูสายเหนือพิสุทธิ์
และจักรพรรดิดาวเหนือจื่อเวยผู้อยู่กลางหาว ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่เทวราช
นอกจากนี้แล้ว เทวกษัตริย์กว่างเฉิง เทวกษัตริย์ปฏิบัติเต๋า เทพชื่อจิงจื่อ เทพอวิ๋นจงจื่อ เจ้าแม่กุยหลิง เจ้าแม่อู๋ตัง ล้วนเป็นปรมาจารย์มรรคากระบี่ทั้งสิ้น
หยกโปหยินกับเทวกษัตริย์วิเศษคณานับในที่นี้ล้วนเป็นยอดมีมือในยุคตำนานสถาปนาเทพเมื่อครั้งโบราณ ต่อมาหลังจากเวลาผ่านไป พวกเขาก็หายสาปสูญ ไม่ทราบไปอยู่ที่ใด คนรุ่นหลังไม่อาจตัดสิน
พวกเทวกษัตริย์กว่างเฉิงก็เป็นเช่นเดียวกัน
ส่วนจักรพรรดิจื่อเวยก็เป็นบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ ที่ยังคงเคลื่อนไหวในช่วงที่วังเทพปกครองฟ้าดินก่อนมหาภัยพิบัติ
ดังนั้นทุกคนจึงยกให้จักรพรรดิจื่อเวยเป็นอันดับหนึ่งในด้านมรรคากระบี่ของสำนักเต๋าก่อนมหาภัยพิบัติ
เพียงแต่หลังจากมหาภัยพิบัติ ก็ไม่มีข่าวคราวของจักรพรรดิจื่อเวยอีก
ขณะมองภาพของเขาโถงทองที่โผล่ขึ้นด้านหน้า เยี่ยนจ้าวเกอไม่อาจควบคุมไม่ให้ตัวเองคิดไปในทางนี้ได้
แม้ว่ามหาภัยพิบัติจะทำให้วัฒนธรรม การสืบทอด และข้อมูลขาดตอนไปมหาศาล แต่ชื่อของจักรพรรดิจื่อเวย พวกเยี่ยนตี๋ก็ยังคงเคยได้ยินมาก่อน
ดังนั้นเมื่อเยี่ยนจ้าวเกอพูดถึง เยี่ยนตี๋ก็นึกไปในทิศทางนี้ทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี