ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 807

ด้านในห้องส่วนตัวของหอสุรา เยี่ยนจ้าวเกอจิบชา พร้อมกับมองทุกสิ่งที่เกิดในจวนตระกูลเซี่ยด้วยรอยยิ้ม

ส่วนด้านในจวนตระกูลเซี่ยตอนนี้ ทุกคนตกอยู่ในความตื่นตระหนก

ทุกคนเพิ่งจะยืนยันอย่างไร้ข้อสงสัยว่า ‘เยี่ยนจ้าวเกอ’ คนที่สามผู้นี้สมควรเป็นตัวจริง

เพราะเขามีพลังล้ำเลิศจนทำให้คนที่เห็นต้องถอนใจชมเชย

ต่อให้ชายหนุ่มอาภรณ์สีดำผู้นั้นยโสโอหังขนาดไหน ต่อให้ชายหนุ่มผอมสูงผู้นั้นใจเย็นขนาดไหน

แต่ว่าในตอนที่อยู่ต่อหน้าคนที่สาม กลับแตกพ่าย รับมือไม่ทัน

ว่ากันว่าเจ้าชายพระอาทิตย์เยี่ยนจ้าวเกอมีพลังไม่ธรรมดา เป็นอัจฉริยะมีหนึ่งไม่มีสอง เหนือกว่าเหล่ายอดฝีมือในระดับเดียวกัน

แต่จะวัดความแข็งแกร่งอย่างไร แข็งแกร่งถึงระดับไหน คนส่วนใหญ่ล้วนนึกไม่ออก

ด้วยประสบการณ์ของคนในจวนตระกูลเซี่ย พวกเขาต่างรู้สึกว่า หากแข็งแกร่งเท่ากับคนที่สามผู้นี้ ก็สมควรเป็นขีดจำกัดแล้วกระมัง?

เกี่ยวกับเยี่ยนจ้าวเกอ อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูง ตราประทับตะวันไม่ใช่หัวข้อที่อ้อมผ่านไม่ได้

ในระดับหนึ่ง ฉายาเจ้าชายพระอาทิตย์ที่โด่งดังในเขตตะวันอาคเนย์ในปัจจุบันของเขา ส่วนใหญ่มาจากตราประทับตะวัน

ไม่ว่าชายหนุ่มอาภรณ์ดำผู้นั้นจะดุร้ายแข็งแกร่งขนาดไหน ชายหนุ่มผอมสูงผู้นั้นจะสงวนท่าทีเพียงใด พวกเขาก็ไม่เคยแสดงตราประทับตะวัน

จนกระทั่งถูกคนฟาดจนศีรษะแตกเลือดอาบ ชีวิตดับสิ้น ตราประทับตะวันก็ยังไม่ปรากฏ อาศัยเพียงเรื่องนี้ก็พิสูจน์ได้แล้วว่าพวกเขาเป็นตัวปลอม

แต่ว่าบนตัวของ ‘เยี่ยนจ้าวเกอ’ คนที่สามนี้ แม้ว่าจะไม่ได้แสดงตราประทับตะวันออกมา ทว่าพลังแห่งพระอาทิตย์ที่เร่าร้อนกล้าแกร่ง และยิ่งใหญ่ไพศาลนั้น นอกจากตราประทับตะวันแล้ว ทุกคนต่างจินตนาการไม่ออกว่าจะมีของวิเศษชิ้นไหนที่มีอานุภาพขนาดนี้อีก

ถ้าหากว่าปัจจัยสองอย่างนี้ยังไม่อาจทำให้ทุกคนยืนยันสถานะของคนผู้นี้ได้อีก เช่นนั้นภาพเหมือนเงาแสงที่คนของตระกูลเซี่ยนำมานั้น ก็ทำให้เรื่องราวเปลี่ยนเป็นไร้ข้อกังขา

ถ้าหากว่าพวกเซี่ยเลี่ยงมีภาพเหมือนเงาแสงของเยี่ยนจ้าวเกออยู่ในมือตั้งแต่ต้น ในตอนที่ตัวปลอมคนแรกมาถึง พวกเขาก็คงจะสามารถมองข้อบกพร่องออกได้

เมื่อคนแรกมาถึง เซี่ยเลี่ยงก็สั่งให้คนตามหาภาพเหมือนเงาแสงที่แพร่หลายของเยี่ยนจ้าวเกอทันที

ในตอนนั้นทำเพื่อแยกแยะจริงปลอมของคนแรก มิคาดกลับมีเยี่ยนจ้าวเกอโผล่มาติดต่อกันอีกสองคน

เคราะห์ดีที่ภาพเหมือนเงาแสงมาถึงมือทันเวลา จึงพิสูจน์ได้ว่าคนที่สามนี้เป็นตัวจริงโดยสมบูรณ์

…แต่ตอนนี้เกิดอะไรขึ้นอีกกัน?

เซี่ยเลี่ยงประคองหน้าผาก รู้สึกว่าฮวงจุ้ยของเมืองตกวาฬของตนมีปัญหาจริงๆ

ขณะมองเยี่ยนจ้าวเกอที่มีหน้าตาเหมือนกันสองคน เซี่ยเลี่ยงก็ลำคอแห้งผาก “ทั้งสองท่าน…”

‘เยี่ยนจ้าวเกอ’ ที่อยู่ในจวนตระกูลเซี่ยทำท่ามั่นใจ ไม่ยี่หระต่อสิ่งใดมาตั้งแต่ต้น

แต่ว่าตอนนี้ดวงตาของเขากลับปรากฏความเคร่งขรึม โดยเฉพาะในตอนที่เผชิญหน้ากับร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกที่ไม่อำพรางกลิ่นอายอันแข็งแกร่งของตัวเองแม้แต่น้อย จิตใจยิ่งหนักอึ้ง

ตอนที่เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง เยี่ยนจ้าวเกอกลับเอ่ยอย่างราบเรียบ

“เจ้าอสูร ยังไม่เผยร่างเดิมออกมาอีก?”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ คนในจวนต่างงงงัน

‘เจ้าอสูร’ ที่ว่านี้ เหมือนไม่ได้ใช้ด่าคนไม่ใช่หรือ?

อีกฝ่ายสีหน้าเปลี่ยนแปลง ตอนที่คิดจะเคลื่อนไหว ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกก็ยื่นฝ่ามือกดลงมา

คนผู้นั้นหันกายคิดหนี แต่ว่าฝ่ามือของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกเหมือนกับปิดฟ้า ครอบคลุมแผ่นดินทั่วทั้งแปดทิศ ต่อให้เขาหนีไปยังสุดหล้าฟ้าเขียว ก็ยังคงอยู่ใต้ฝ่ามือนี้อยู่ดี

หลังจากฝ่ามือปิดลง ก็พลันกดอัดอีกฝ่ายเหมือนกับบรรพตใหญ่ทันที

ประกายอันเย็นเยียบบนตัวอีกฝ่ายเย็นเยือกแทงกระดูก ประกายกระบี่ที่รุนแรงชนิดทำลายศิลาสะท้านฟ้าสายหนึ่งพุ่งขึ้นท้องฟ้า

กลับเป็นพลังของอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลางชิ้นหนึ่ง!

เขาที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นรวมรูป ครอบครองอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลาง

ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกสีหน้าดุจเหล็กกล้า เกราะทองบรรพตบนร่างเปล่งแสง สะกดอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลางที่ไม่อาจแสดงพลังได้ทั้งหมดชิ้นนั้น

พลังแห่งพระอาทิตย์อันซัดสาดบนร่างของอีกฝ่ายระเบิดออกมา แสงสีทองเจิดจ้าสาดส่อง เหมือนกับกลายเป็นดวงอาทิตย์ กลับมีอานุภาพของตราประทับตะวันอยู่หลายส่วนจริงๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี