ตำหนักยักษ์ลวงตานั้นถูกแสงสีดำครอบคลุมอยู่ด้านใน สภาวะยิ่งใหญ่เหมือนกับครอบคลุมท้องฟ้า เติมเต็มพื้นที่รอบๆ ในชั่วพริบตา
กลิ่นโอสถลอยออกมาจากในตำหนัก แผ่กระจายไปทั่วมิติ
มิติต่างแดนแห่งนี้ถูกแบ่งเป็นเจ็ดชั้นจริงๆ
ทว่าในตอนนี้ มิติหกชั้นที่อยู่ด้านล่างพุ่งขึ้นมาด้านบนพร้อมกัน ก่อนจะทับซ้อนกันอย่างต่อเนื่องโดยมีชั้นบนสุดเป็นจุดศูนย์กลาง
ในตอนนี้ถ้าหากว่าหกชั้นล่างยังมีคนอยู่ ทว่ามีพลังไม่ถึงระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียน คงจะถูกมิติบดขยี้กลายเป็นเศษผง ไม่เหลือแม้แต่ซากศพไปแล้ว
เยี่ยนจ้าวเกอมองตำหนักใหญ่แห่งนั้น ดวงตาทอประกาย
ส่วนลึกของความทรงจำมีภาพที่จำไม่ค่อยได้แล้วปรากฏขึ้นในห้วงสมองของเขา
มองดูตำหนักตรงหน้าจากด้านนอกดูแล้ว มันคือตำหนักโอสถของวังเทพในอดีตนั่นเอง!
สถานที่ในวังเทพบนสวรรค์เก้าชั้นที่เก็บโอสถเซียนและยาวิเศษมากมาย นับว่าป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีความสำคัญยิ่งสำหรับวังเทพ
เพียงแต่ว่าสิ่งที่แตกต่างจากในความทรงจำของเยี่ยนจ้าวเกอก็คือ ตำหนักโอสถที่ตอนแรกเป็นสีขาวหยกไร้รอยตำหนิ เปล่งแสงสีทองพร่างพราว มีปราณบริสุทธิ์ลอยวน ในตอนนี้กลับมีแสงสีดำปกคลุมอยู่
นี่ไม่ใช่ตำหนักโอสถของจริง แต่เป็นเงาของตำหนักโอสถต่างหาก
เยี่ยนจ้าวเกอหรี่ตาลงเล็กน้อย ‘เป็นพิธีกรรมที่มีเตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับเตานั้นเป็นตัวสนับสนุนหรือนี่’
พวกฟู่ถิงเกาฉิงรู้สึกได้ถึงความผิดปกติเช่นกัน ทว่าในตอนนี้ต่อให้จะเสียใจก็สายไปเสียแล้ว
จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนหกคนที่มือพาดอยู่บนเตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับ ต่างถูกตำหนักใหญ่สีดำกลืนกินอย่างไม่อาจควบคุม
ตำหนักใหญ่สีดำเป็นการรวมตัวกันของเงาแสง กำแพงจึงดูเหมือนกับโปร่งใส
พวกเยี่ยนจ้าวเกอเห็นร่างของจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์หกคนนั้น ลอยค้างอยู่กลางอากาศในตำหนักอย่างไม่อาจควบคุมได้
จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนขณะนี้ร่างกายไร้อิสระ ถูกจำกัดเอาไว้โดยสมบูรณ์!
แม้กระทั่งยอดฝีมือระดับสุดยอดที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ขั้นสะพานเซียนระยะท้ายสองคนในจำนวนนี้ ก็ยังได้แต่ฝืนดิ้นรน ทว่าไม่อาจเป็นอิสระได้
ตำหนักสีดำเริ่มพังทลายเข้าด้านใน ก่อเกิดเป็นหลุมดำ ม้วนจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนหกเข้าไปด้านใน
พวกฟู่ถิงและเกาฉิงที่อยู่ด้านนอกก็ไม่อาจรอดไปได้เช่นกัน
แม้แต่พวกเยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ไกลออกไปก็ได้รับผลกระทบไปด้วย ถูกแรงดูดดูดอันมหาศาลคว้าเอาไว้ ร่างพุ่งถลันเข้าหาหลุมดำโดยไม่อาจควบคุม
ด้านหลังตำหนักใหญ่ เตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับที่เป็นต้นกำเนิดของแสงสีดำสั่นไหวครั้งหนึ่ง ก่อนจะลอยขึ้นด้านบน ทะยานเข้าหาหลุมดำ
มิติต่างแดนด้านนอกที่ทุกคนอยู่ก่อนหน้านี้พังทลายโดยสิ้นเชิง มันบิดเบี้ยว ก่อนจะถูกหลุมดำกลืนกิน
เยี่ยนจ้าวเกอหลังจากเข้าไปในหลุมดำแล้ว ก็เห็นด้านหน้าเหมือนมีทางเชื่อมมิติที่ไม่มีปลายทางสายหนึ่ง ไม่รู้ว่าเชื่อมไปยังที่ใด
จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนหกคนที่ถูกกลืนเข้ามาก่อน ถึงขั้นหายตัวไปแล้ว
พวกฟู่ถิงกับเกาฉิงก็หายตัวไปด้วยเช่นกัน
อาหู่กล่าวด้วยรอยยิ้มขื่นขม “คุณชาย เป็นไปตามที่ท่านคิดไว้ เตามีปัญหาจริงๆ ด้วย!”
“เพียงแต่พวกเราในตอนนี้ก็ลำบากเหมือนกัน…”
เยี่ยนจ้าวเกอมีสีหน้าเคร่งขรึม มุมปากกลับปรากฏรอยยิ้มหลายส่วน “นั่นกลับไม่แน่”
เขาสั่งความคิด วังฝูงมังกรปรากฏขึ้นอีกครั้ง คานบนตัววังกับเสาที่อยู่ตรงกลาง รวมถึงประตูวังพากันสาดแสงเจ็ดสีออกมา
แสงสว่างกระจัดกระจาย ความเร็วในการเคลื่อนที่ด้านในทางเชื่อมมิติของพวกเยี่ยนจ้าวเกอช้าลงในทันใด ไม่ได้พุ่งทะยานอย่างควบคุมไม่ได้อีก
มิติที่สับสนตรงหน้าราวกลับกลายเป็นเส้นทางที่แท้จริงที่สามารถให้คนเหยียบย่างได้
เยี่ยนจ้าวเกอนั่งพิงหลังตรงประตูวัง จากนั้นก็ยื่นนิ้วออกมาขีดเขียนใส่อากาศ
อักขระอาคมหลายสายปรากฏขึ้น ติดอยู่กลางอากาศเนิ่นนาน เหมือนกับรูปสลัก
คาน เสาระเบียง และประตูของวังเทพที่รวมเข้ากับวังฝูงมังกร ในตอนนี้ส่องแสงระยิบระยับ บนพื้นผิวปรากฏอักขระอาคมเจ็ดสีหลายแถว
อักขระอาคมกลายเป็นลำแสงหลายสาย ยื่นเหยียดออกไปหาอากาศรอบๆ
ครู่ต่อมา ในอากาศก็มีเสียงประหลาดดังขึ้น
ทันใดนั้นลำแสงเจ็ดสีก็ถูกเก็บ ลากเตาโอสถขนาดยักษ์ที่มีควันสีม่วงลอยวนเวียน พร้อมกับส่องแสงสีทองเตาหนึ่งออกมาจากในมิติความมืด!
เป็นเตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับนั่นเอง!
ตอนนี้เตาโอสถสงบนิ่งยิ่ง เหมือนกับกำลังหลับลึก แม้จะถูกลำแสงลากมาก็ไม่แข็งขืน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี