เตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับถูกเก็บอยู่ในวังฝูงมังกร เหมือนกับหลับลึกอยู่อย่างสงบ ไม่เผยกลิ่นอายแม้แต่น้อย
แสงเจ็ดสีประหลาดบนวังฝูงมังกรก็หายไปแล้วเช่นกัน เหลือแต่กลิ่นอายอันน่าเกรงขามของมังกรแท้เท่านั้น
นี่ทำให้คนอื่นๆ สัมผัสไม่ได้โดยสิ้นเชิงว่า เตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับที่ทุกคนแย่งชิงกันมาโดยตลอด และเป็นของวิเศษระดับสำคัญสำหรับโลกซ้อนโลกและมรกตท่องฟ้า ได้ตกไปอยู่ในมือของเยี่ยนจ้าวเกอแล้ว
พวกเกาฉิงครั้นเห็นเยี่ยนจ้าวเกอก็ประหลาดใจเล็กน้อย “เมื่อครู่ท่านไม่ได้…”
เยี่ยนจ้าวเกอถึงแม้ว่าจะประหลาดใจที่ได้เจอพวกเกาฉิงเช่นกัน แต่ใบหน้าปรากฏอารมณ์ใดๆ “ทุกท่านเชิญ”
ในกลุ่มผู้สืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม มีคนคนหนึ่งที่สีหน้าเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ส่งกระแสเสียงให้แก่สหาย
ทุกคนพลันมีสีหน้าเข้าใจขึ้นมา
เกาฉิงพิจารณาเยี่ยนจ้าวเกออย่างสนใจ ถามตรงๆ ว่า “ท่านคือเยี่ยนจ้าวเกอ ผู้สืบทอดของราชันพระอาทิตย์หรือ”
เยี่ยนจ้าวเกอเห็นดังนั้นก็ทราบว่า คนผู้นั้นน่าจะเคยเห็นภาพเหมือนเงาแสงของตัวเองมาเหมือนซุนจ้งต๋า
เขายิ้มเล็กน้อย “ข้าคือเยี่ยนจ้าวเกอจริงๆ แต่ไม่ใช่ผู้สืบทอดของราชันพระอาทิตย์”
พวกเกาฉิงที่อยู่อีกฝั่งพิจารณาเยี่ยนจ้าวเกอตั้งแต่หัวจรดเท้า เหมือนกับกำลังใคร่ครวญอยู่ว่าจะสนทนากับเขาด้วยจุดยืนใดดี
เยี่ยนจ้าวเกอมีชื่อเสียงโด่งดังในเขตตะวันอาคเนย์บนโลกซ้อนโลก แต่ทางสำนักมีคำเล่าลือเกี่ยวกับตัวเขามากมาย พวกเกาฉิงจากมรกตท่องฟ้าจึงไม่อาจแยกแยะจริงปลอม
พวกเขาแม้จะอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับผู้สืบทอดสายหยกพิสุทธิ์และสายเอกพิสุทธิ์ในโลกซ้อนโลก แต่ก็ไม่ได้มองกันเป็นปรปักษ์โดยสิ้นเชิง
โดยเฉพาะคนหนุ่มผู้โด่งดัง มีพลังกล้าแข็ง แต่ความเป็นมากลับไม่ชัดเจนอย่างเยี่ยนจ้าวเกอ
เมื่อครู่ถึงแม้ว่าทุกคนจะยื้อแย่งเตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับ แต่ว่าก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน พวกเกาฉิงจึงไม่คิดว่าเยี่ยนจ้าวเกอจะมีความสามารถชิงเตาวิเศษไปได้
ทั้งนี้พวกเขายังไม่เคยเกิดความขัดแย้งกันมาก่อนด้วย
ไม่เหมือนที่ฟู่ถิงเดาว่าเยี่ยนจ้าวเกอทำตัวเป็นนกขมิ้นรออยู่ด้านหลัง
พวกเกาฉิงเห็นการปรากฏตัวขึ้นอยางฉับพลันของเยี่ยนจ้าวเกอแล้ว พวกเขาก็ไม่แน่ใจว่าเขาอยู่ที่นั่นอยู่แล้วหรือมาถึงทีหลัง
ทว่าเมื่อเห็นพวกนางไม่มีท่าทางประสงค์ร้าย เยี่ยนจ้าวเกอก็ยิ่งพบว่าราชันพระอาทิตย์อาจจะเคยไปยังมรกตท่องฟ้ามาก่อนจริงๆ
ในยุคสมัยที่เก้านพเคราะห์แห่งคุนหลุนปกครองโลก ส่องแสงไปทั่วใต้หล้า บางทีความสัมพันธ์ระหว่างโลกซ้อนโลกกับมรกตท่องฟ้าอาจจะไม่ได้ตึงเครียดเช่นนี้
ขณะที่คิดอยู่ เยี่ยนจ้าวเกอก็เอ่ยว่า “ทางเชื่อมที่ตอนแรกประกอบกันเป็นทิศทางที่ชัดเจนในมิติเมื่อครู่ ได้ดูดพวกข้าไปอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่ง แต่จู่ๆ ก็ถูกตัดขาด พวกข้าจึงลอยอยู่ในกระแสปั่นป่วนของมิติเวลา”
“ต่อมาตอนที่ข้ากับสหายในสำนักลอยคออยู่ ก็พบโลกใบนี้เข้า จึงเข้ามาหาที่พักเท้า คิดหาแผนการ ไม่ทราบว่าทุกท่านเจอสถานการณ์แบบเดียวกันหรือไม่”
หลังจากผู้สืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์ได้ยิน พวกเขาก็สบตากันเอง แล้วถึงพยักหน้าเล็กน้อย
เกาฉิงตอบ “พวกเราก็เจอสถานการณ์เดียวกับท่านเช่นกัน เดิมทีกำลังจะถูกดูดหายไปแล้ว ทว่าทางเชื่อมมิติเส้นนั้นจู่ๆ พังทลายลงเอง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร”
ครั้นพูดถึงตรงนี้ ใบหน้าขอนางก็ฉายแววเป็นกังวล “ไม่ทราบว่าพวกอาจารย์ปู่น้อยถังกับอาจารย์อาจารย์อาหลี่ว์จะเป็นอย่างไรบ้าง…”
ผู้สืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์ทุกคนสีหน้าหม่นมหมอง รู้สึกเศร้าโศก
จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนที่จับเตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับได้ก่อน ล้วนถูกเงาตำหนักโอสถดูดกลืนทันที จากนั้นก็โดนม้วนเข้าไปในหลุมดำ
ต่อจากนั้นพวกเยี่ยนจ้าวเกอกับพวกเกาฉิงต่างถูกดูดเข้าไป
ทางเชื่อมมิติถูกตัดขาด ทำให้พวกเขาโชคดีรอดมาได้ ทว่าคนที่ถูกม้วนเข้ามาก่อนก็ยากจะบอกสถานการณ์แล้ว
จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ขั้นสะพานเซียนระยะท้ายยังไม่อาจต้านทานหลุมพรางของอีกฝ่าย จิตใจของทุกคนก็เกิดความเย็นเยียบ
การติดต่อมรกตท่องฟ้าให้เร็วที่สุด เพื่อเชิญผู้อาวุโสที่มีพลังฝึกปรือสูงกว่ามาคิดหาวิธีจัดการ เป็นภารกิจเร่งด่วนของพวกเกาฉิง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี