เมื่อครั้งยังอยู่ในโลกแปดพิภพ เยี่ยนจ้าวเกอเคยเจอสถานการณ์ที่คล้ายๆ กัน
นั่นเป็นบุรุษที่ชื่อโอวหยางฉี คนผู้นั้นมองดูเหมือนกับซือคงจิงที่แต่งชุดบุรุษ แต่นั่นกลับเป็นชายหนุ่มคนหนึ่งจริงๆ
เมื่อมีเขาเป็นตัวอย่าง เยี่ยนจ้าวเกอก็ทราบว่าคนที่ดูเหมือนกับซือคงจิงเหล่านี้ ไม่ได้จำกัดแค่สตรีเพศเท่านั้น แต่ยังมีความเป็นไปได้ที่จะได้เจอบุรุษเพศด้วย
เยี่ยนจ้าวเกอมองอีกฝ่าย พิจารณาอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจรดเท้า
คนผู้นี้อายุสมควรใกล้เคียงกับเย่เป่าฉีแห่งหอกระบี่ทะเลเหนือ บนทะเลหวงเจียในเขตตะวันอาคเนย์
แต่เขามีพลังฝึกปรือสูงกว่าขั้นหนึ่ง เป็นอย่างไปได้อย่างยิ่งว่าอาจจะเป็นเพราะอยู่กันคนละสำนัก
เยี่ยนจ้าวเกอสำรวจอาภรณ์บนร่างของคนผู้นี้
เป็นอาภรณ์สีเขียว ตรงแขนเสื้อปักลวดลายรูปต้นไม้โบราณต้นหนึ่ง บนต้นไม้มีกิ่งอยู่เก้ากิ่ง
ชายหนุ่มไม่มองก็แล้วไป แต่เมื่อมองดูลวดลายนี้แล้ว ต้นไม้โบราณเก้ากิ่งก็พลันเปลี่ยนกลายเป็นความจริง ใบไม้สีเขียวขจีวูบไหวต้านลมอยู่กลางอากาศ
คนผู้นั้นกลับไม่สนใจ เพราะคนที่มองดูลวดลายนั้นไม่ได้มีแค่เยี่ยนจ้าวเกอคนเดียว
คนที่อยู่รอบๆ จะมากจะน้อยในยามที่กวาดมองผ่านลวดลายนี้โดยที่ตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ ต่างก็ยากจะไม่หยุดมอง
เพราะว่าในเขตสุราลัยบูรพา สัญลักษณ์นี้บ่งบอกถึงสถานะหนึ่ง นั่นก็คือลูกศิษย์สายตรงแห่งอารามสูงส่งบนเขาเมฆเลือน ที่อยู่ของประมุขบูรพา
ในสถานที่เล็กๆ อย่างเขตสุราลัยบูรพา ส่วนใหญ่แล้วคนที่สวมชุดนี้สามารถไปที่ใดก็ได้
ความพิเศษในลวดลายตรงแขนเสื้อก็คือ มันได้ผสมลมปราณของลูกศิษย์อารามสูงส่ง รวมถึงจิตวรยุทธ์ที่ประมุขบูรพาได้ถ่ายทอดให้ไว้ คนภายนอกยากจะเลียบแบบ ต่อให้ชิงไปได้ก็ไม่อาจสวมใส่
ไม่เพียงแต่จะเป็นสัญลักษณ์สถานะของลูกศิษย์จากอารามสูงส่งเท่านั้น อาภรณ์ของแต่ละคนยังมีการแบ่งแยก บ่งบอกถึงตำแหน่งด้วย
อาภรณ์ของบุรุษผู้นี้ แม้ว่าจะไม่ได้มีความสามารถในการป้องกันแข็งแกร่งเท่าอาวุธศักดิ์สิทธิ์และอาวุธวิญญาณ แต่ก็เป็นของหายาก
นี่คือวิชาลับของอารามสูงส่งแห่งเขาเมฆเลือน ทุกคนที่อยู่ในเขตสุราลัยบูรพาล้วนรู้จัก
ลูกศิษย์ของประมุขบูรพามาปรากฏอยู่ตรงหน้าอย่างฉับพลัน ทุกคนที่อยู่รอบๆ จึงมองอย่างพร้อมเพรียง
เยี่ยนจ้าวเกอไม่เคยมาเขตสุราลัยบูรพา แต่ว่าตอนคุยกับพวกมู่จวินและเฉินจื้อเหลียงที่เขาโถงทองในเขตตะวันอาคเนย์ก่อนหน้านี้ เขาได้ศึกษาวิถีชีวิตอันเป็นเอกลักษณ์ของโลกซ้อนโลกไว้ไม่น้อย
แม้ชายหนุ่มจะไม่ได้เข้าใจถึงระบบสืบทอดแบบพิเศษของอารามสูงส่งในเขตสุราลัยบูรพาที่อยู่ติดกับเขตตะวันอาคเนย์อย่างละเอียด แต่ก็เคยได้ยินมาบ้าง
ในตอนนี้พอเห็นอาภรณ์ของบุรุษผู้นั้น เขาก็ค่อยๆ มั่นใจ ‘ลูกศิษย์สายตรงของประมุขบูรพาหรือ’
ประมุขบูรพา ผู้ปกครองแห่งเขตสุราลัยบูรพา เป็นคนที่เหมือนกับประมุขอาคเนย์เฉาเจี่ย และประมุขทักษิณจวงเซิน
เมื่อคิดถึงคนผู้นี้ ในห้วงสมองของเยี่ยนจ้าวเกอก็อดปรากฏภาพหนึ่งขึ้นมาไม่ได้
เสาปราณสีเขียวหลายสายปรากฏตัวขึ้นพร้อมกัน จากนั้นก็รวมกันกลายเป็นต้นไม้เทพทะลุฟ้าขนาดยักษ์ต้นหนึ่ง
ต้นไม้เทพต้นนี้เหมือนกับข้ามผ่านจักรวาล กลิ่นอายของพลังที่เผยออกมายิ่งใหญ่กว่ายอดฝีมือจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ขั้นสะพานเซียนระยะท้ายเสียอีก
ตอนผจญภัยในสุสานจักรพรรดิประกายกาฬ ประมุขประจิมกับประมุขบูรพาต่างลงมือ เพียงแต่ท้ายที่สุดถูกสะกดของสุสานจักรพรรดิประกายกาฬขัดขวางไว้ จึงทำให้สูญเสียร่องรอยของสุสานจักรพรรดิ สุดท้ายก็ไม่ได้เข้าไปด้านใน
แม้จะปรากฏตัวขึ้นแวบเดียว ทว่าในตอนที่ประมุขบูรพาลงมือ ก็ยังคงมอบความประทับใจส่วนหนึ่งให้แก่เยี่ยนจ้าวเกอ
ความน่าอัศจรรย์ของวรยุทธ์ที่เขาฝึกฝน ความสมบูรณ์ของทรัพยากรที่ศิษย์ของเขาจะได้รับ สุดที่หอกระบี่ทะเลเหนือจะเทียบเคียง
หากพลังฝึกปรือของคนที่อยู่ตรงหน้านี้จะสูงส่งกว่าเยว่เป่าฉีที่มีพรสวรรค์ใกล้เคียงกัน ก็ไม่น่าประหลาดใจเท่าไร
ชายหนุ่มที่หน้าตาละม้ายเหมือนซือคงจิงผู้นี้ไม่ได้นำพาสายตาของคนรอบๆ เดินออกจากเมืองไป
หลังจากพวกเขารวมกลุ่มกันแล้วก็ออกเดินทางอีกครั้ง เดินเข้าไปในภูเขาลึก
เยี่ยนจ้าวเกอรักษาระยะห่างให้ไกลขึ้นอีกหน่อย จากนั้นค่อยตามไปต่อ
เดินทางอยู่ครึ่งวัน อีกฝ่ายก็ไม่ได้เดินทางเร็วเช่นกัน เส้นทางที่ใช้ไม่ได้เป็นเส้นตรง ดูเหมือนกับกำลังตามหาอะไรบางอย่างอยู่
ถึงเยี่ยนจ้าวเกอจะสงสัย แต่ว่าเมื่อเทียบกันแล้ว ปริศนาที่ชายหนุ่มผู้เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ผู้นั้นกุมไว้ ทำให้เขาสนใจมากกว่า
ในตอนที่เยี่ยนจ้าวเกอเตรียมจะเปิดเผยตัว คิดสนทนากับอีกฝ่าย เขาก็รู้สึกได้ว่าความเร็วของอีกฝ่ายช้าลงอย่างชัดเจน
ครู่ต่อมาเยี่ยนจ้าวเกอก็สัมผัสได้ว่า ในภูเขาลึกไกลออกไปมีเค้าลางการเปิดของมิติ
ลูกศิษย์ของประมุขบูรพากลุ่มนี้เหมือนกับเปิดทางเชื่อมมิติสายหนึ่ง มุ่งหน้าไปยังมิติต่างแดน
เยี่ยนจ้าวเกอเบะปาก ‘วิชาลับบางอย่างหรือ แสดงว่าลูกศิษย์จากอารามสูงส่งเหล่านี้กำลังตามหาของวิเศษอยู่สินะ’
เขาตามไป เตรียมจะเผยตัวเพื่อติดต่อกับอีกฝ่าย
รอจนเข้าใกล้แล้ว ก็พบว่าสถานที่แห่งนี้ไม่ปกติ พลังแห่งเขตแดนปั่นป่วน ยังมีเสียงร้องของลมอันเย็นเยือกหลายสายดังออกมาจากประตูทางเชื่อมเขตแดน
เมื่อได้รับผลกระทบนี้ ความสามารถในการรับรู้ของจอมยุทธ์ก็ลดลงมหาศาล ได้แต่อาศัยประสาทสัมผัสทั้งห้าอย่างการได้ยินและการมองเห็น คอยสำรวจและเคลื่อนไหว
นี่ทำให้จอมยุทธ์จากอารามสูงส่งที่เฝ้าอยู่ตรงประตูไม่พบเงาร่างของเยี่ยนจ้าวเกอในทันที กลับสนทนากันอย่างเปิดเผย
“กระเรียนหิมะนั่นหายไปหลายปี วันนี้อุตส่าห์ปรากฏร่องรอยของนางอีกครั้ง หวังว่าครั้งนี้จะจับนางได้แล้ว”
เสียงของอีกฝ่ายเข้าสู่หูของเยี่ยนจ้าวเกอ ม่านตาของชายหนุ่มหดเล็กลงทันที การเคลื่อนไหวพลันหยุดชะงัก
………………..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี