เมื่อมีหลิวเจิงกู่นำทาง พวกเยี่ยนจ้าวเกอจึงข้ามเขตสุราลัยบูรพา กลับถึงเขตตะวันอาคเนย์อย่างรวดเร็ว
หลิวเจิงกู่มุ่งหน้าไปยังเขาโถงทอง หลังมาถึงเขตตะวันอาคเนย์ จึงแวะพบกับประมุขอาคเนย์เฉาเจี่ย
เยี่ยนจ้าวเกอคล้ายมีความคิดบางอย่าง
เฟิงอวิ๋นเซิงตอบ “ดูเหมือนในตอนที่พวกเราพบประมุขบูรพาในครั้งนั้น ความหมายในคำพูดที่ยังไม่หมดของเขา ไม่ใช่มีแค่เรื่องที่ท่านฝึกฝนคัมภีร์กระบี่สังหารเซียนเท่านั้น อาจจะยังมีความเกี่ยวข้องกับผู้อาวุโสเสวี่ยด้วย
“บางทีในครั้งนั้น เขาคงจะพอมองเบื้องหลังของท่านจากหน้าตาของท่านได้สักหลายส่วนแล้ว เพียงแต่ไม่อาจยืนยันได้ และไม่อาจถามกับท่านตรงๆ”
เยี่ยนจ้าวเกอได้ยินก็พยักหน้าช้าๆ “ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ในเรื่องนี้ประมุขอาคเนย์ดูเหมือนจะมีท่าทีหลับตาข้างเดียว ไม่เหมือนกับประมุขบูรพา”
หลิวเจิงกู่พบกับเฉาเจี่ย พวกเยี่ยนจ้าวเกอหยุดพักที่เขาโถงทองอีกครั้ง
มู่จวินออกเดินทางไปยังทะเลหวงเจีย
ในระยะเวลาหนึ่งปีกว่าๆ ที่เยี่ยนจ้าวเกอไม่อยู่ ทะเลหวงเจียในฐานะที่เป็นจุดตัดระหว่างเขตตะวันอาคเนย์กับเขตเพลิงทักษิณ ก็ยังคงมีคลื่นใต้น้ำซัดสาด
ปัญหาหลักๆ ไม่ได้อยู่ที่ทะเลหวงเจียและส่วนในของเขตตะวันอาคเนย์ ทางเขตเพลิงทักษิณปั่นป่วนมาโดยตลอด
กระดูกหงส์เพลิงที่ถังหย่งฮ่าวครอบครอง เป็นเหตุให้ทั้งสองฝ่ายยื้อแย้งกันมาโดยตลอด
ทะเลหวงเจียในฐานะเขตแรกที่เผชิญกับเขตเพลิงทักษิณ นอกจากหลินฮั่นหัวที่คอยควบคุมสถานการณ์อยู่ที่นี่ตั้งแต่ต้น มู่จวินก็มุ่งหน้าไปด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ยังมียอดฝีมือระดับสุดยอดในเขตตะวันอาคเนย์คนอื่น รับคำสั่งของประมุขอาคเนย์ มุ่งหน้าไปที่นั่นด้วยเช่นกัน
กระนั้นเจิ้งหมิงกับเฉินจื้อเหลียงยังคงอยู่ที่เขาโถงทอง
จากการพักอยู่ที่นี่ในครั้งก่อน เยี่ยนจ้าวเกอคุ้นเคยกับคนที่นี่แล้ว ในตอนนี้เขาจึงไม่รีบหาช่องทางสืบข่าว
“สหายน้อยเยี่ยน บิดาท่านไม่อาจใช้หลักการทั่วไปมาวัดได้ ก่อนหน้านี้ข้ายังบอกว่าบิดาท่านแปลกประหลาดยิ่งนัก ถึงกับจุดอัคคีดาวได้ในระยะเวลาสั้นๆ รุดหน้าขึ้นอีกก้าว เลื่อนเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นห้า มิคาดท่านเองก็ไม่ยอมน้อยหน้า ตอนนี้ร่าง รูป วิญญาณรวมเป็นหนึ่งอย่างสมบูรณ์แบบ อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสามแล้ว”
เจิ้งหมิงมองเยี่ยนจ้าวเกอ ส่ายหน้าไปพลาง ถอนใจชมเชยไปพลาง “ห่างจากตอนที่ท่านเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์นานเท่าไรกัน”
เฉินจื้อเหลียงซึ่งอยู่ด้านข้างเขามีสีหน้าเหลือเชื่อเช่นกัน “ข้าเห็นบิดาท่านทำลายด่านสองด่านติดต่อกัน เลื่อนจากระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสอง เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสี่ ทำลายนภาเห็นเทวะสำแดง ลอยขึ้นสู่โลกซ้อนโลกด้วยตาตัวเอง คิดไม่ถึงว่าเขาจะเลื่อนขึ้นอีกระดับในระยะเวลาสั้นๆ
“สหายน้อยเยี่ยนท่านยิ่งน่าเหลือเชื่อกว่า ตอนนี้ท่านเพิ่งอายุเท่าไรเอง”
เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มเล็กน้อย “เป็นเพราะวาสนาอยู่หลายส่วน น่าขายหน้าจริงๆ”
บิดาของตนเลื่อนเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นห้า พลังเพิ่มขึ้นอีกขั้นหนึ่ง นี่ย่อมเป็นเรื่องประเสริฐ
เขาไม่ประหลาดใจที่เยี่ยนตี๋มีความก้าวหน้าเช่นนี้
การฝึกฝนของเยี่ยนตี๋เหมือนกับสภาวะดาบซึ่งเป็นวรยุทธ์ของตัวเองเอง คมกล้ามุ่งไปด้านหน้า ไม่มีหยุดยั้ง
ยิ่งเดินอย่างดุดันและรวดเร็วเท่าไรก็ยิ่งราบรื่น การหยุดการย่างก้าวมาปรับความแข็งแกร่งกลับอาจจะมีอันตราย
ตามปกติแล้ว ระดับยิ่งสูง การเลื่อนระดับยิ่งยาก ความตั้งใจและเวลาที่ใช้ในการเพิ่มระดับยิ่งต้องมากขึ้น
จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์สิบขั้น มียอดฝีมือมากมายติดอยู่ในขั้นใดขั้นหนึ่งหลายสิบปีหรือกระทั่งหลายร้อยปี ถือเป็นเรื่องปกติ
ทว่าหลักการที่ใช้กับคนอื่นๆ นี้ไม่อาจใช้กับเยี่ยนตี๋ได้
เพียงแต่ใช่ว่าจะไม่มีจุดอ่อน เกิดไต่ระดับอยู่บนยอดสูงอย่างต่อเนื่อง แล้วไต่เร็วเกินไป เมื่อหยุดชะงักลง ก็อาจจะตกจากเขาได้
การย่างเท้าของเยี่ยนตี๋ต้องฝ่าฟันขวากหนาม ทำลายคอขวดและอุปสรรคมากมายไม่หยุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี