“สภาพการณ์ของข้าบนโลกซ้อนโลกอันตรายกว่าโลกแปดพิภพ กับโลกผืนสมุทรอีกหรือ”
หลังจากได้ยินเยี่ยนจ้าวเกอพูดจบ ซือคงจิงก็เอ่ยปากถามอย่างสงบนิ่ง
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า “ที่นี่ไม่ได้เหมือนโลกแปดพิภพที่มีแค่ลูกศิษย์ของผู้อาวุโสโม่คนเดียวที่ค้นพบเบื้องหลัง แต่มีคนจำนวนมากสังเกตได้ถึงความพิเศษของเจ้า เยว่เป่าฉี และหลี่เฉิง”
ชายหนุ่มเว้นครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวต่อ “นอกจากนั้นความลับบนตัวเจ้า รวมถึงพวกเยว่เป่าฉีและหลี่เฉิง สาเหตุที่อยู่ในนั้น ตอนนี้ข้าเริ่มพบเงื่อนงำแล้ว”
“เพียงแค่ยังไม่อาจยืนยันได้ ดังนั้นเรื่องนี้ค่อยพูดต่อกันภายหลัง ศิษย์น้องซือคงเจ้ายังคงออกไปด้านนอกได้ แต่ต้องระวังตัวเป็นพิเศษ”
หลังจากซือคงจิงได้ยิน สีหน้าก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลง ยังคงเย็นชาดุจเดิม เพียงแค่พยักหน้า “ศิษย์พี่เยี่ยนวางใจ ข้าเข้าใจแล้ว”
เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยว่า “อืม เจ้าเป็นคนพูดแล้วทำ อีกทั้งยังรู้จักแบ่งหนักเบา ในเมื่อเจ้าว่าเช่นนี้ข้าก็วางใจ”
เขาคิดครู่หนึ่ง จากนั้นก็หัวเราะขึ้น “ได้ยินมาว่าเจ้ากับเยว่เป่าฉีแห่งหอกระบี่ทะเลเหนือเข้ากันดีใช่หรือไม่”
ซือคงจิงว่า “ถูกต้อง พวกเราเข้ากันดียิ่ง นางเหมือนกับศิษย์พี่หลี่ หลี่จิ้งหวานศิษย์ในเมืองทะเลมรกตบนโลกแปดพิภพ เพียงแต่…”
ขณะที่พูด ซือคงจิงขมวดคิ้วขึ้นอย่างหาได้ยาก เห็นได้ชัดว่ารู้สึกอึดอัดใจ
เยี่ยนจ้าวเกอครุ่นคิดเล็กน้อย เข้าใจความรู้สึกของนาง
คนที่มีนิสัยเข้ากันได้ดี กลับมีหน้าตาเหมือนกับตนเอง
แต่ว่าคนทั้งสองกลับไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด
ถ้าหากว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกันแม้แต่น้อยจริงๆ เช่นนั้นก็ให้ความรู้สึกว่าเป็นวาสนาอย่างหนึ่ง จึงถูกชะตากันเป็นพิเศษ
แม้ว่าในโลกอันกว้างใหญ่ใช่ว่าจะไม่มีคนที่หน้าตาเหมือนกันโดยสมบูรณ์ เหมือนกับใบไม้ที่มาจากต้นเดียวกัน แต่หากมีแล้วจะมีได้สักกี่คนกันเชียว
ถึงกับพบเจอกันในยามที่ยังมีชีวิตบนฟ้าดินที่ไพศาลเช่นนี้ได้ ช่างหาได้ยากจริงๆ
กระนั้นปัญหาอยู่ที่ว่าในตอนที่พบกันครั้งแรก ซือคงจิงที่อยู่ในระดับมหาปรมาจารย์อยู่แล้ว สามารถเห็นลวดลายอาคมที่ซ่อนอยู่ในวิญญาณของอีกฝ่ายได้
นี่หมายความว่าพวกนางไม่ใช่ไร้ความเกี่ยวข้องกันโดยสมบูรณ์
เรื่องนี้ย่อมทำให้ซือคงจิงรู้สึกสงสัย
เยี่ยนจ้าวเกอคาดเดาไว้แต่แรกแล้ว จึงแอบเตรียมการให้แก่ซือคงจิง ทำให้เยว่เป่าฉีไม่อาจสัมผัสถึงลวดลายอาคมที่อยู่ในวิญญาณของซือคงจิงได้
หอกระบี่ทะเลเหนือกับเยว่เป่าฉีที่ตอนนี้ยังไม่ทราบถึงเรื่องนี้ ย่อมเชื่อมโยงอะไรไม่ได้
ตรงกันข้าม พวกเขาที่มีความสัมพันธ์อันดีกับเขากว่างเฉิงอยู่แล้ว จึงปฏิบัติกับซือคงจิงดีเป็นพิเศษ
สำหรับเยว่เป่าฉีแล้ว นางปฏิบัติกับซือคงจิงเหมือนเป็นน้องสาว
ซือคงจิงเพียงแค่มีนิสัยเย็นชาไปบ้าง แต่ไม่ได้เป็นคนเลือดเย็น และเสแสร้งไม่เป็น
ตอนที่อยู่กับเยว่เป่าฉี นางรู้สึกพอใจยิ่ง แต่ก็มีแรงกดดันทางจิตใจมากเช่นกัน
เยี่ยนจ้าวเกอว่า “รออีกสักพักเถอะ หลังจากข้าเข้าใจแล้วว่าเจ้ากับพวกเยว่เป่าฉีและหลี่เฉิงมีสถานการณ์เช่นใดกันแน่ ทุกอย่างก็ไม่เป็นปัญหาแล้ว เจ้าสามารถพิจารณาได้ว่าจะเปิดอกคุยกับนางหรือไม่”
“แต่ข้าต้องขอพูดไว้ก่อนว่า การรู้เรื่องจริงใช่ว่าจะเป็นเรื่องดีต่อนางและหอกระบี่ทะเลเหนือ”
ซือคงจิงพยักหน้าเงียบๆ
นางเป็นคนที่มีความหนักแน่น ไม่ทันไรก็ปรับจิตใจของตัวเองได้ ไม่ได้พูดถึงหัวข้อนี้ต่อ และไม่ยอมให้มันส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของนาง
จากนั้นนางก็หันมาถามว่า “ศิษย์พี่เยี่ยน ได้ยินท่านอาจารย์เล่าว่า การออกไปในครั้งนี้ของท่านได้พบกับยอดฝีมืออายุน้อยของสำนักอื่นอยู่หลายคนใช่หรือไม่”
เยี่ยนจ้าวเกอตอบ “มิผิด เกาฉิงจากเขาแหนเขียวแห่งมรกตท่องฟ้าสายเหนือพิสุทธิ์ ยังมีฟู่ถิงจากยอดเขาอัศจรรย์แห่งเขาคุนหลุนในเขตมหานภากลางบนโลกซ้อนโลกที่พวกเราอยู่ ล้วนเป็นคนที่โดดเด่นทั้งสิ้น”
ซือคงจิงมีใบหน้าคาดหวัง “โลกซ้อนโลกเป็นสถานที่ที่แตกต่างกับโลกแปดพิภพโดยสิ้นเชิงอย่างที่คิดไว้”
ชายหนุ่มยิ้มเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี