พอได้ยินคำพูดของกวนลี่เต๋อ ทุกคนทั่วทั้งเขากว่างเฉิงต่างขมวดคิ้ว
อีกฝ่ายหมายตีชิงตามไฟ บังคับให้ยอมเป็นพันธมิตร
กวนลี่เต๋อกล่าวอย่างไม่รีบไม่ร้อน “คำพูดปฏิเสธไม่ยอมรับและไม่จำเป็น”
ด้านข้างเขาปรากฏเงาของคนคนหนึ่ง เป็นหลัวจื้อเทาเจ้าสำนักแสงสว่าง
หลัวจื้อเทามองกวนลี่เต๋อด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นสายตาก็หยุดอยู่ที่เขากว่างเฉิงและคนในราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง
ครู่ต่อมา หลัวจื้อเทาก็เอ่ยเสียงทุ้มว่า “อาวุธเซียนที่องค์จักรพรรดิได้ทิ้งเอาไว้ ภายนอกดูเหมือนล้อรถ มีสิบสองรู ตะเกียงประกายกาฬของวิเศษที่สำนักเดิมใช้คุ้มครองสำนัก ก็ถูกอาวุธเซียนที่มีลักษณะเป็นล้อชิ้นนั้นผนึกรวม ของอยู่ในมือเยี่ยนจ้าวเกอแห่งเขากว่างเฉิง”
ขณะที่พูด ม่านตาเขาก็เปล่งแสงสว่าง ปรากฏภาพในตอนนั้น
แม้แต่นักพรตสือกับเสวียนเฉิงอ๋องก็ถูกดึงดูดสายตาไปด้วย
ตอนที่ได้รับข่าวก่อนหน้านี้ ยังมีความเชื่อและความไม่เชื่ออยู่ แต่ดูจากตอนนี้ กลับมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นความจริง
จักรพรรดิประกายกาฬอิ่นเทียนเซี่ยได้ทิ้งอาวุธเซียนชิ้นหนึ่งไว้หลังจากตายไปแล้วจริงๆ และอาวุธเซียนชิ้นนี้ก็ตกอยู่ในมือของเยี่ยนจ้าวเกอ
กวนลี่เต๋อมองเขากว่างเฉิง “ถึงแม้จะยังเป็นแค่ตัวอ่อนของอาวุธเซียน ยังไม่ทันได้เซ่นสรวง แต่กลับไม่ใช่สิ่งที่พวกท่านจะยึดครองไปได้ ต่อให้ไม่มีข้า ก็มีคนอื่นมาทวงถาม”
“วันนี้ได้พบเจอกันโดยบังเอิญ พวกท่านกำลังสู้กับคนอื่น เฉาอาคเนย์ชื่นชมพวกท่านสองพ่อลูกยิ่ง ข้าเห็นแก่หน้าเขา นำอาวุธเซียนมาให้ข้า แล้วข้าจะช่วยพวกท่านจัดการคู่ต่อสู้”
เยี่ยนตี๋ได้ยินดังนั้นก็เลิกคิ้วเล็กน้อย “ศัตรูตรงหน้า สำนักเราสามารถจัดการได้เอง ไม่จำเป็นต้องรบกวนใต้เท้า”
กวนลี่เต๋อมองเยี่ยนตี๋แวบหนึ่ง กล่าวอย่างเฉื่อยชา “ท่านดูเหมือนเข้าใจผิด ข้าไม่ได้ปรึกษากับท่าน
“อาวุธเซียนที่จักรพรรดิประกายกาฬทิ้งไว้ ข้าจะต้องได้ไป แม้นไม่มีคนของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องอยู่ที่นี่ ถึงพวกท่านไม่มอบให้ ข้าก็จะทำลายสำนักของพวกท่านอยู่ดี”
“ตอนนี้ก็เหมือนกัน หากไม่นำอาวุธเซียนออกมา เช่นนั้นข้าจะร่วมมือกับคนของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง โจมตีพวกท่าน”
“ตัวเลือกสองข้อนี้ สำหรับข้าแล้วไม่มีความแตกต่างกัน ข้ากับเฉาอาคเนย์เป็นสหายกันมาหลายปี หลังจากเขาทราบเรื่องก็จะไม่ว่าอะไร”
กวนลี่เต๋อหันไปมองนักพรตสือกับเสวียนเฉิงอ๋อง “พวกท่านก็เหมือนกัน อย่ามาขวางไม่ให้ข้าได้อาวุธเซียน ทุกคนแยกย้ายทางใครทางมัน หากคิดจะแย่งชิงกับข้า เช่นนั้นพวกเราก็ต้องมาสู้กัน”
เสวียนเฉิงอ๋องขมวดคิ้ว เสียงอันแก่ชราของนักพรตสือดังขึ้น “ในเมื่อฆราวาสเด็ดดาวรู้จักกับประมุขอาคเนย์ เช่นนั้นก็คงทราบว่าพวกเราไม่ใช่คนที่ไม่มีเบื้องหลัง แม้จะเป็นสหายในสำนักที่เคลื่อนไหวในทะเลหวงเจีย คนที่อยู่ที่นี่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด”
“นอกจากนั้น เป้าหมายที่พวกเรามายังที่นี่มีแค่อยางเดียว คือการทำลายเขากว่างเฉิง สังหารเยี่ยนจ้าวเกอสองพ่อลูก ขอแค่ทำลายเขากว่างเฉิงได้ ใต้เท้าอยากได้อะไรก็เชิญตามสะดวก ข้าไม่มีอะไรคัดค้าน”
เสวียนเฉิงอ๋องเงียบงันครู่หนึ่ง กล่าวเสียงทุ้ม “เราเองก็ไม่ต้องการตัวอ่อนอาวุธเซียนชิ้นนั้นเช่นกัน”
กวนลี่เต๋อพยักหน้า “ข้าพอจะรู้อยู่บ้างว่าใครยืนอยู่ด้านหลังพวกท่าน แต่ว่าข้าในเมื่อมาชิงอาวุธเซียน ผู้ยิ่งใหญ่ที่แก่งแย่งกันมีไม่ต่ำกว่าสองสามคน ความเสี่ยงที่ต้องเผชิญข้าทราบแน่แก่ใจ เพียงเพิ่มขึ้นอีกส่วนเท่านั้น”
“เพียงแต่ในเมื่อพบกันโดยบังเอิญ ข่าวเพิ่งแพร่กระจายก็มาที่นี่ทันที อุตส่าห์ได้มีโอกาสก่อน ย่อมต้องใช้อย่างคุ้มค่า มือใครยาวสาวได้ก็ต้องสาวเอา”
กวนลี่เต๋อก้มหน้ามองของเขากว่างเฉิง “เดิมทีคิดจะร่วมมือกับคู่ต่อสู้อย่างพวกท่าน เพื่อทำลายเขากว่างเฉิงโดยเร็ว จะได้ประหยัดเวลา ถึงอย่างไรพวกเขาก็ไม่อาจมาแย่งข้าได้อยู่แล้ว”
“แต่เห็นแก่หน้าเฉาอาคเนย์ จะให้โอกาสช่วยเหลือกับพวกท่าน ในเมื่อพวกท่านไม่ดื่มสุราคารวะ เช่นนั้นข้าก็ได้แต่ต้องให้พวกท่านดื่มสุราจับกรอกแล้ว”
ท่ามกลางเสียงพูดคุย มือยักษ์ที่เกิดจากการรวมตัวของแสงดาวก็ฟาดใส่เขากว่างเฉิงทันที!
มือยักษ์ที่สามารถคว้าได้แม้กระทั่งดวงดาวพุ่งลง สภาวะราวกับจะควักดินแดนจิตคุณธรรมออกจากฟ้าดินของโลกซ้อนโลก
เยี่ยนตี๋นิ่วหน้า ขวางดาบสวรรค์มังกรทะยานไว้กลางอากาศ
อวัยวะภายในห้าชิ้นของเขาสั่นไหวเล็กน้อย เหมือนกับเทพเจ้าห้าองค์ตื่นจากการหลับไหล
ประกายแสงห้าสีพรั่งพรูออกมา กลายเป็นหมู่เมฆาวนรอบเยี่ยนตี๋
วินาทีถัดมา ประกายแสงห้าสีลอยขึ้นด้านบน รวมกันบนดาบสวรรค์มังกรทะยาน ประกายแสงวนเวียน เหมือนกับม่านกำบัง ขวางฝ่ามือที่กดลงมาของกวนลี่เต๋อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี