คังผิงฝึกฝนคัมภีร์นภากาลเวลา กระบี่เหมือนกับการเลื่อนไหลของกาลเวลา มีความเร็วสูงถึงขีดสุด
คู่ต่อสู้ที่พลังฝึกปรือสู้เขาไม่ได้ มักจะไม่ทันตอบสนอง ก็ต้องกระบี่เสียชีวิตแล้ว
ทว่าในในสายตาของเยี่ยนจ้าวเกอในตอนนี้ คังผิงเคลื่อนไหวเร็ว และยังคงเร็วมาก แต่ว่าทุกการขยับล้วนชัดเจน
การเคลื่อนไหวของเยี่ยนจ้าวเกอก็รวดเร็วมากเช่นกัน แต่มองดูแล้วรวบรัด ปลอดโปร่ง และไม่รีบไม่ร้อน
กระบองไม้ไผ่สีเขียวขี้ม้าที่เปล่งแสงสีม่วงระยิบระยับพุ่งมาอยู่ในมือของเยี่ยนจ้าวเกอ
วินาทีถัดมาก็มีประกายสีแดงกะพริบขึ้นด้านในแสงสว่างสีม่วง
เยี่ยนจ้าวเกอง้างกระบองไม้ไผ่ขึ้น วาดเป็นครึ่งวงกลมกลางอากาศ จากนั้นก็ฟาดใส่กระบี่ประกายฟ้าเมฆาเคลื่อนที่คังผิงถืออยู่อย่างโหมกระหน่ำ!
เสียงเปรี้ยงดังขึ้น กระบี่ประกายฟ้าเมฆาเคลื่อนประกายกระบี่ริบหรี่ลงหลายส่วน
คังผิงม่านตาพลันหดตัวลง
เจตจำนงกระบี่ที่เขาก่อนหน้านี้ได้รวมกับกระบี่ในมือเป็นหนึ่ง ไม่แบ่งแยกและช่วยเหลือกันและกัน พังทลายลงทันที!
คมกระบี่ของกระบี่ประกายฟ้าเมฆาเคลื่อน ถูกกระบองไม้ไผ่สีเขียวขี้ม้าในมือของเยี่ยนจ้าวเกอฟาดจนกระเด็นออกไปด้านข้าง
กระบี่อันเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงแว่วเสียงร้องที่ต่อเนื่องไม่ขาดสาย เหมือนกับคนผู้หนึ่งร้องด้วยความเจ็บปวด
คังผิงถึงขั้นเห็นได้ว่า บนคมกระบี่ที่บริสุทธิ์ดุจดั่งกระกายน้ำในสารทฤดู ถึงกับเกิดรอยบิ่นสายหนึ่ง!
ประกายกระบี่ขมุกขมัวแต่บริสุทธิ์ วินาทีนี้พลันเปลี่ยนเป็นพร่างพราวละลานตา
ราวกับว่าเกิดจุดตัดขึ้นในกระแสเวลาไร้สิ้นสุด
กาลเวลาแตกร้าว โลกทั้งใบสับสน
เยี่ยนจ้าวเกอสืบเท้าออกเบื้องหน้าก้าวใหญ่ เหยียบลงบนกระแสเวลาที่เหมือนอยู่เหนือทุกสรรพสิ่งนั้น
คังผิงปั้นสีหน้าหนักอึ้งอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
เขารู้จักกระบองไม้ไผ่ท่อนนี้ เพราะคังจิ่นหยวนบุตรชายของเขา เคยเสียท่ากระบองไม้ไผ่ของเยี่ยนจ้าวเกอมาก่อน
ต่อมา ครั้นคังผิงได้ยินเรื่องนี้ ก็สับสนไม่เข้าใจเช่นกัน
มาวันนี้ เขาได้เห็นกระบองไม้ไผ่ท่อนนี้ด้วยตาตัวเอง ได้รับรู้ถึงความน่าอัศจรรย์ที่อยู่ด้านใน แต่ยังคงไม่เข้าใจอยู่ดี
ไม่มีพลังอันยิ่งใหญ่
ไม่มีจิตที่พิเศษ
และไม่มีปราณวิญญาณที่เปี่ยมล้น
ไม่มีอะไรสักอย่างเดียว
กระนั้นกลับฟาดจนกระบี่ประกายฟ้าเมฆาเคลื่อนอันเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงในมือเขาสั่นระริก!
และสิ่งที่ทำให้คังผิงสนใจมากกว่าก็คือ คังผิงยังบอกเล่าว่า กระบองไม้ไผ่ท่อนนี้สมควรมีห้าปล้อง ยาวห้าฉื่อ
สามารถจัดการอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นต่ำ แต่ไม่อาจทำอะไรเกราะฟ้าดินที่เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลาง
ทว่าตอนนี้กระบองไม้ไผ่ยาวเจ็ดฉื่อ แม้แต่อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงกระบี่ประกายฟ้าเมฆาเคลื่อนก็ต้านทานไม่ได้!
‘ของสิ่งนี้ยิ่งมายิ่งแข็งแกร่ง’ คังผิงนึกเชื่อมโยงถึงของวิเศษในตำนานมากมาย แต่ว่าหาคำเรียกไม่เจอ
เยี่ยนจ้าวเกอใช้มือขวากำกระบองไม้ไผ่ ขยับข้อมือเบาๆ โบปไหวกระบองไม้ไผ่กลางอากาศ
ในยามที่กระบองไม้ไผ่ในมือเขามีห้าปล้อง หากสู้กับอาวุธที่มีระดับต่ำกว่าอาวุธศักดิ์สิทธิ์ลงไป เพียงโจมตีครั้งเดียว อีกฝ่ายก็จะแหลกเป็นผุยผง เมื่อสู้กับอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นต่ำ อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นต่ำไม่อาจต้านทานได้
ยามที่มีหกปล้อง ฟาดแค่ครั้งเดียวก็ทำลายอาวุธศักดิ์สิทธิ์ขั้นต่ำได้ทันที หากสู้กับอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลาง อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลางก็เกรงว่าจะสู้ไม่ได้
ทว่าสำหรับเยี่ยนจ้าวเกอที่มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงอยู่ในมือไม่ต่ำกว่าหนึ่งชิ้น อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลางย่อมไม่ส่งผลคุกคามอะไรอีกแล้ว
สิ่งที่เขาต้องการก็คือ การกดข่มอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงซึ่งเป็นท่าไม้ตายของศัตรู
จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียน สามารถแสงอานุภาพของอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงออกมาได้อย่างเต็มที่
การประสานกันระหว่างจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนกับอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูง มีพลังเหนือกว่าการกระตุ้นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงของจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดง
แม้ว่าจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดงผู้นี้จะมีพลังสูสีกับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียน แต่ก็ต้องเสียเปรียบเพราะอาวุธอยู่ดี
คำตอบของคำถามยากนี้ อยู่ที่กระบองไม้ไผ่สีเขียวขี้ม้าที่เยี่ยนจ้าวเกอหลอมขึ้นให้ตัวเองโดยเฉพาะท่อนนี้นี่เอง
หกปล้องไม่ได้ แต่เจ็ดปล้องได้!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี