ผู้วิเศษเซิงฝึกฝนคัมภีร์กาลเคลื่อนคล้อย ประกายกระบี่เร็วถึงขีดสุด
แต่สืบเนื่องจากเยี่ยนจ้าวเกอใช้กระบี่ลวงเซียนพัวพัน เขาจึงไม่อาจเร่งความเร็วได้โดยสิ้นเชิง
ถ้าหากมีแค่การโจมตีของเยี่ยนจ้าวเกอยังพอทำเนา ปัญหาอยู่ที่เยี่ยนจ้าวเกอทางหนึ่งใช้กระบี่ลวงเซียน ทางหนึ่งยังกระตุ้นตราประทับตะวันไปด้วย
พอเผชิญกับการประสานเช่นนี้ ผู้วิเศษเซิงที่ไม่อาจใช้ตรากระบี่กาลเวลาได้ ก็ไร้ความสามารถต้านทาน
เขารู้สึกเหลวไหลถึงขีดสุด
จอมยุทธ์ขั้นสะพานเซียนที่ยิ่งใหญ่อย่างตน สามารถแสดงอานุภาพของอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงได้อย่างเต็มเปี่ยม ทว่าตอนนี้ได้แต่ใช้หมัดเปล่ามือเปลือยสู้กับศัตรู
ส่วนอีกฝ่ายที่เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดง กลับใช้อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงชิ้นหนึ่งไล่ตามโจมตีเขาไม่หยุด
สิ่งที่ทำให้ผู้คนคับข้องก็คือ เขาไม่ใช่ไม่มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงเหมือนจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนที่มีสมบัติไม่มากบางคน
เขามีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูง อีกทั้งยังมีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลางติดตัวไม่ต่ำกว่าหนึ่งชิ้น
ตรากระบี่กาลเวลาบนร่างก็ไม่ใช่ของธรรมดาท่ามกลางอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงเช่นกัน แต่ไม่อาจนำมาใช้ได้ ไม่เช่นนั้นจะมีจุดจบเช่นเดียวกับกระบี่ประกายฟ้าเมฆาเคลื่อน
นั่นเดิมทีเป็นกระบี่ของเขา ได้ส่งมอบให้แก่พวกคังผิงที่เป็นลูกศิษย์หลานศิษย์ สุดท้ายถูกเยี่ยนจ้าวเกอกระแทกหลุดจากมือ เมื่อครู่ค่อยถูกเยี่ยนจ้าวเกอเก็บเข้าไปในวังฝูงมังกรอย่างไม่รีบไม่ร้อน
ความรู้สึกที่อยู่ในนี้ไม่อาจเอาคำว่าคับข้องมาใช้ได้อีกแล้ว แต่เป็นอัปยศ
หลังจากสู้กันตั้งแต่ทะเลใต้ไปถึงทะเลตะวันตก บนร่างของผู้วิเศษเซิงก็เต็มไปด้วยบาดแผล
อาการบาดเจ็บแค่ที่เดียวไม่ได้สาหัส แต่สั่งสมกันจนเยอะขึ้น ทั้งยังไม่มีเวลาว่างมาสะกดและรักษา ดังนั้นผู้วิเศษเซิงจึงมีความรู้สึกได้รับบาดเจ็บหนักสุดจะทนทาน เพราะการสะสมอย่างต่อเนื่อง
นี่ส่งผลต่อพลังและความเร็วของเขาเพิ่มอีกขั้น ทำให้เขายิ่งมายิ่งเสียเปรียบ
ผู้วิเศษเซิงยามนี้เยือกเย็นลงแล้ว แม้นว่าในใจจะเต็มไปด้วยความคับแค้น แต่จิตใจก็กระจ่างใส
เขาไม่ได้กลับนครหลวงต้าเสวียน
เช่นนั้นเขาสามารถอาศัยชัยภูมิของนครหลวง กลับปลอดภัยแล้ว
ทว่าพวกนักพรตสือกับเสวียนเฉิงอ๋องที่อยู่ในเขตหลิงเสียนกลับกำลังย่ำแย่ เยี่ยนจ้าวเกอเข่นฆ่ากลับดินแดนจิตคุณธรรม สามารถตีขนาบหน้าหลังพร้อมกับคนในเขากว่างเฉิงได้
ผู้วิเศษเซิงพยายามเปลี่ยนทิศทางจากทะเลใต้ไปยังดินแดนจิตคุณธรรมทางทะเลตะวันตก ก็เพื่อรวมตัวกับพวกนักพรตสือและเสวียนเฉิงอ๋อง
ครั้นรวมพังของทุกคนได้แล้ว ค่อยคิดหาแผนการ
เมื่อมีนักพรตสือที่เป็นปรมาจารย์ค่ายกลคอยเป็นกำลังเสริม ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสพลิกกระดาน
มาตรแม้นว่าจะถูกเยี่ยนจ้าวเกอไล่ตามโจมตี ทั้งยังต้องจ่ายค่ายตอบแทนไปไม่น้อย กระนั้นขณะเห็นดินแดนจิตคุณธรรม เป้าหมายของตนประสบความสำเร็จช่วงต้น ผู้วิเศษเซิงก็ถอนใจโล่งอกเล็กน้อย
รอจนเข้าใกล้ ก็เห็นค่ายกลฟ้าดินแผ่ขยายของนักพรตสือกำลังครอบคลุมดินแดนจิตคุณธรรม ต่อสู้กับค่ายกลเทพไท่อี้ถล่มทลายของเยี่ยนจ้าวเกอ
ด้านในค่ายกลนอกจากเสวียนเฉิงอ๋อง นักพรตสือ และยอดฝีมือราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง ยังมีอีกคนหนึ่งอยู่ด้วย
นั่นเป็นบัณฑิตวัยกลางคนผู้หนึ่ง บนศีรษะสวมมงกุฎดวงดาว การเคลื่อนไหวคล้ายกับคว้าจันทร์เด็ดดาราได้!
ฆราวาสเด็ดดาวกวนลี่เต๋อ ยอดฝีมือในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ขั้นสะพานเซียนระยะท้าย!
เป้าหมายของเขาก็คือเขากว่างเฉิงเช่นกัน!
ครั้นเห็นเหตุการณ์นี้ ผู้วิเศษเซิงก็โล่งใจ
เมื่อมีคนผู้นี้เป็นศัตรูกับเขากว่างเฉิง และเป็นกำลังสนับสนุนของตน ผู้วิเศษเซิงก็มีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมว่าสามารถพลิกกระดานได้!
แม้ว่าเยี่ยนจ้าวเกอจะมีพลังเหนือกว่าที่ระดับจำกัดไว้ ทว่าสามารถเล่นงานจนผู้วิเศษเซิงได้แต่ต้องหนีตาย นอกจากอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงแล้ว ต้องขอบคุณที่กระบี่ลวงเซียนสะกดกระบี่กาลเคลื่อนคล้อยด้วย
หากอยู่ในสภาวะสูงสุดของตัวเอง กวนลี่เต๋อความจริงแข็งแกร่งกว่าผู้วิเศษเซิงไม่มากเท่าไร
กระนั้นวรยุทธ์ที่กวนลี่เต๋อฝึกฝน กลับถูกกระบี่ลวงเซียนกดข่มได้เหมือนคัมภีร์นภากาลเวลา!
ผู้วิเศษเซิงจำเป็นต้องเปลี่ยนคู่ต่อสู้กับกวนลี่เต๋อ สภาวะแพ้ชนะจะพลิกเปลี่ยนได้ทันที!
นึกถึงตรงนี้ ผู้วิเศษเซิงก็รู้สึกเบิกบาน ความคับข้องและความเคียดแค้น เหมือนกับบรรเทาลง
ทุกคนบนสนามรบที่ดินแดนจิตคุณธรรมต่างสัมผัสได้ว่าผู้วิเศษเซิงกับเยี่ยนจ้าวเกอแบ่งเป็นหนึ่งหน้าหนึ่งหลัง กำลังเข้าใกล้
แม้ว่าจะสงสัยที่เหตุใดจึงไม่เห็นร่องรอยของคังผิง อีกทั้งยังแตกตื่นที่ผู้วิเศษเซิงเหมือนจะสู้เยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้ กระนั้นในขณะที่กำลังต่อสู้อย่างดุเดือด ทุกคนก็ไม่ได้คิดมากเกินไป
นักพรตสือโคจรค่ายกลฟ้าดินแผ่ขยาย เตรียมจะรับผู้วิเศษเซิงเข้าไปในค่ายกล พร้อมกับโจมตีเยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ด้านหลั
ในตอนนั้นเอง เยี่ยนจ้าวเกอที่ติดตามอยู่ด้านหลังผู้วิเศษเซิงพลันเร่งความเร็วขึ้น!
หัวใจ ตับ ม้าม ปอด และไตในแกนกลางของร่างเขา มีแสงห้าสีสว่างขึ้นอย่างเลือนราง
แสงสว่างหมุนวน ล้วนรวมตัวกันที่ตับ
ห้าปัญจธาตุเกิดขึ้นตรงนั้น สุดท้ายล้วนกลายเป็นเปลวไฟ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี