เมื่อได้ยินวาจาของเยี่ยนจ้าวเกอ กวนลี่เต๋อก็รู้สึกว่ามีเพลิงโทสะสายหนึ่งพวยพุ่งขึ้นด้านบน
เมื่อทราบว่าตนชะตาถึงฆาตแล้ว เขาก็ฝืนยิ้มออกมา เอ่ยว่า “ดูเหมือนข้าแซ่กวน วันนี้จะเรือล่มในหนองที่นี่”
กระนั้นเขาก็ถลึงมองเยี่ยนจ้าวเกอ “เด็กน้อย ท่านอย่ารีบได้ใจนัก ข้าจะรอท่านอยู่ด้านล่าง!”
เยี่ยนจ้าวเกอถามด้วยรอยยิ้ม “ไยต้องรอข้า”
กวนลี่เต๋อกวาดมองรอบๆ เห็นเส้นสีขาวสายหนึ่งได้เหลือร่องรอยไว้ระหว่างฟ้าดิน
เหมือนกับโลกถูกเฉือนเป็นรอยกระบี่สายหนึ่ง
เป็นผลงานของกระบวนท่ากระบี่สังหารเซียนของเยี่ยนจ้าวเกอนั่นเอง
ทำลายสรรพสิ่ง ฟ้าดินเหลือรอยแผล เนิ่นนานไม่สลายไป
กระบี่นี้แข็งแกร่งเกินไป แม้แต่กวนลี่เต๋อที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ขั้นสะพานเซียนก็ยังถูกแทงได้รับบาดเจ็บ
เจตจำนงกระบี่ที่ส่งการสรรสร้างสู่ความพินาศของสี่กระบี่รัตนา ได้ถูกแสดงออกมาอย่างหมดจด
ที่นี่อยู่ติดทางตะวันตกของทะเลหวงเจีย ห่างจากจุดตัดระหว่างเขตตะวันอาคเนย์กับเขตเพลิงทักษิณไม่ไกล
ในขณะที่ทางเขากว่างเฉิงเกิดสงคราม ยอดฝีมือจากเขาโถงทองและเนินต้นจักรพรรดิก็กำลังเปิดการต่อสู้ที่ดุเดือดขึ้นที่นั่นเช่นกัน
ถ้าหากบอกว่าก่อนหน้านี้พวกเขาสัมผัสได้ถึงระลอกคลื่นที่เกิดขึ้นจากการต่อสู้ แต่ไม่อาจแบ่งความสนใจมาได้ชั่วคราวแล้ว เช่นนั้นกระบี่เมื่อครู่ของเยี่ยนจ้าวก็ไม่อาจไม่สนใจได้อีก
แม้ว่าสถานการณ์รบจะตึงเครียด ไม่อาจมาตรวจสอบเองได้ แต่อีกเดี๋ยวจะต้องมีคนมาอย่างแน่นอน
ส่วนรอยกระบี่ที่เหมือนบาดแผลแห่งฟ้าดินนี้ หากคิดจะปิดสมาน กลับไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในไม่กี่นาที
เยี่ยนจ้าวเกอมองตามสายตาของกวนลี่เต๋อ แล้วหัวเราะออกมา
เขายิ้มกว้างพร้อมกับมองกวนลี่เต๋อ “ข้าเองก็คิดไม่ถึงเลย ว่าฆราวาสเด็ดดาวที่มีชื่อเสียงสะท้านเขตตะวันออกเฉียงใต้ จะเป็นผู้สืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์ ช่างเหนือความคาดหมายจริงๆ”
กวนลี่เต๋อถลึงตา “ท่าน…”
“เพียงแต่หลักฐานคามือ พวกข้าไม่เชื่อก็ไม่ได้” เยี่ยนจ้าวเกอชี้รอยกระบี่นั้น กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ในเมื่อพบแล้ว ข้ากับสหายในสำนักย่อมต้องปฏิบัติตามคำสั่งของกษัตริย์ดิน สังหารผู้สืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์เช่นท่านทิ้งที่นี่ ความเป็นจริงก็ง่ายดายเช่นนี้เอง”
กวนลี่เต๋อกระชากเสียงกล่าว “เยี่ยนจ้าวเกอผู้ประเสริฐ ผู้ชี้กวางเป็นม้าอันประเสริฐ คิดจะโยนความผิดให้ข้าหรือ ท่านคิดว่าเฉาเจี๋ยจะถูกท่านหลอกง่ายถึงเพียงนั้นหรือ”
เยี่ยนจ้าวเกอพูดอย่างเฉยชา “ข้าไม่คิดจะหลอกประมุขอาคเนย์อยู่แล้ว ขอแค่มีคำว่ากล่าวกับคนที่อยู่นอกดินแดนตะวันอาคเนย์ก็เพียงพอแล้ว”
“ท่านต่างหาก ทำตัวหน้าไหว้หลังหลอกกับประมุขอาคเนย์ครั้งแล้วครั้งเล่า ถึงขั้นที่กระทำซึ่งๆ หน้า ท่านคิดว่าความสัมพันธ์เล็กน้อยที่พวกท่านสั่งสมกันมาตอนเป็นสหายกัน วันนี้จะเหลือสักเท่าไร”
กวนลี่เต๋อจ้องมองเยี่ยนจ้าวเกอ พลันรู้สึกมีความเย็นเยียบสายหนึ่งผุดจากก้นกบ ก่อนจะพุ่งไปถึงศีรษะ
ชายหนุ่มแบมือ กล่าวอย่างเรียบเฉย “ท่านสังหารคนชิงอาวุธเซียนไปจากข้า ประมุขอาคเนย์อาจจะสืบสาวราวเรื่องท่าน แต่หากท่านถูกข้าสังหาร ประมุขอาคเนย์กลับไม่สืบสาวราวเรื่องกับข้า”
เขามองกวนลี่เต๋อ หัวเราะอีกรอบ “เมื่อครู่ถ้าหากท่านไม่คิดจะฆ่าข้า แต่รีบหนีไปทันที ความจริงก็ยังมีโอกาสหนีไปได้ แต่ว่าท่านตัดโอกาสของตัวเองไปแล้ว”
“ตัดทางรอดของตัวเอง ท่านไม่ตายแล้วใครจะตายกัน”
กวนลี่เต๋อเกิดความรู้สึกหนาวสะท้าน คมดาบที่แวววับอีกเล่มหนึ่งบรรลุถึงศีรษะของเขาแล้ว!
ดาบของเยี่ยนตี๋!
เมื่อมีบิดาของตนลงมือ เยี่ยนจ้าวเกอก็ไม่เหลือบแลทางกวนลี่เต๋ออีก
เป็นดังที่เขาว่า กวนลี่เต๋อเดิมทีมีโอกาสหนีเอาชีวิตรอด
ถึงอย่างไรยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้าที่แท้จริง ทั้งยังมีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงติดตัว ไม่ถูกกระบี่ลวงเซียนกดข่มเหมือนผู้วิเศษเซิงและคังผิง
ยอดฝีมือระดับสุดยอดเช่นนี้หากไม่คิดสู้ตาย แต่ต้องการหนีเอาชีวิตรอด คนในเขตตะวันอาคเนย์ที่รั้งตัวเขาได้มีไม่กี่คนเท่านั้น
น่าเสียดายที่เขาตัดสินสถานการณ์ผิดพลาด ตัดสินพลังของเยี่ยนจ้าวเกอผิดพลาด
ข้อผิดพลาดนี้ไม่มีทางหันกลับ
เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกได้ถึงความอ่อนแรงของตัวเอง จึงส่ายหน้าเล็กน้อย
ไม่เหมือนกับการใช้สายฟ้าชั่วพริบตาในตอนที่สู้กับเซี่ยงอีหยางลูกศิษย์ของประมุขบูรพา ที่ความจริงมีการควบคุมพลังไว้
ครั้งนี้เยี่ยนจ้าวเกอกระตุ้นสายฟ้าชั่วพริบตาถึงขีดสุด ด้วยรากฐานที่ลึกล้ำของเขา ก็ยังสิ้นเปลืองพลังไปมหาศาล
กระนั้นสืบเนื่องจากการฝึกฝนคัมภีร์นภาไร้ขอบเขต เขาจึงยังไม่ถึงกับเป็นตะเกียงสิ้นน้ำมัน
ชายหนุ่มเงยหน้ามองสถานที่ที่อยู่ไกลออกไป พลางคลี่ยิ้ม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี