เสวี่ยชูฉิงได้แทรกซึมมาถึงอาณาเขตของเขาโถงเซียนแล้วหรือไม่
ตามเหตุผลสมควรไม่
เพราะการจะผละจากโลกของเต๋าสายสามพิสุทธิ์ที่มีโลกซ้อนโลกเป็นศูนย์กลาง ทำลายการขวางกั้นของ ‘กำแพง’ มายังโถงเซียนไม่ใช่เรื่องง่าย
คราวก่อนเยี่ยนจ้าวเกอหลงเข้าไปในโลกศาสนาพุทธ เพราะความผิดปกติของเตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับ
ครั้งนี้ที่หลงเข้ามาในโลกสูงเลิศซึ่งอยู่ใต้การปกครองของแดนเซียนปลดปลง เป็นผลลัพธ์จากการปะทะกันระหว่างทวนพระอังคารและสะกดพลังที่จักรพรรดิแพรงามได้เหลือไว้
แม้เยี่ยนจ้าวเกอจะไม่เข้าใจว่าตอนนี้มารดาของตนมีพลังฝึกปรืออยู่ในระดับใดกันแน่ แต่หากคาดเดาจากข้อมูลที่ทราบ นางปีนขึ้นสู่ระดับสะพานเซียนแล้วหรือไม่ก็ยังน่าสงสัย
ตามเหตุผลแล้ว ถ้าหากไม่มีผลจากอิทธิพลภายนอก เสวี่ยชูฉิงไม่น่าจะมายังที่นี่ได้
แต่ข้อแรก อาจจะมียอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่ระดับสุดยอดบางคนช่วยให้เสวี่ยชูฉิง ‘แอบข้าม’ มาก็ได้
ข้อสอง เสวี่ยชูฉิงมีฝีมือที่อยู่เหนือความคาดหมาย ไม่แน่ว่าจะมีความสามารถพิเศษบางอย่าง
เยี่ยนจ้าวเกอใคร่ครวญในใจ ‘ถ้าหากเป็นท่านแม่จริงๆ เมื่อนางแอบซ่อนตัวอยู่ที่นี่ จะต้องสงวนท่าที ไม่มีทางตอแยคนของโถงเซียนแน่’
‘ดูจากรูปการณ์นี้แล้ว การขุดหลุมเล่นงานสำนักฟ้าโกลาหลในซากโบราณสถานไม่น่าจะใช่เรื่องที่นางทำได้’
‘นอกเสียจากว่า…’ มุมปากของเยี่ยนจ้าวเกอกระตุกเล็กน้อย ‘นางรู้ว่าร่องรอยของตัวเองกำลังจะถูกเผย จำเป็นต้องหนีอีกครั้ง ก่อนจะไปก็ได้ขุดหลุมขึ้น เพื่อมอบเป็นของที่ระลึกให้แก่ศัตรู’
ขณะที่คิด เยี่ยนจ้าวเกอก็พูดกับฟู่ถิงว่า “ข้าอยากจะตรวจสอบโลกสูงเลิศใบนี้ และโลกใบอื่นๆ ที่เป็นของแดนเซียนปลดปลงอีกสักเล็กน้อย”
ฟู่ถิงเข้าใจทันที “ท่านอยากจะตรวจสอบว่าที่นี่เกี่ยวข้องกับลูกศิษย์สามพิสุทธิ์อย่างพวกเราหรือไม่เช่นนั้นหรือ”
เยี่ยนจ้าวเกอตอบพร้อมสีหน้าราบเรียบ “เป็นเช่นนั้น ถ้าหากเกี่ยวจริงๆ เช่นนั้นก็ต้องช่วยเหลืออีกแรง”
“อีกฝ่ายสมควรคุ้นเคยพื้นที่ของที่นี่มากกว่าพวกเรา ถ้าหากติดต่ออีกฝ่ายได้ ก็ส่งผลดีต่อการออกจากขอบเขตการปกครองของโถงเซียน กลับโลกซ้อนโลกของพวกเราด้วย”
“แต่ว่าที่นี่อาจจะมียอดฝีมือระดับสุดยอดของโถงเซียนคอยเฝ้าอยู่ ดังนั้นจึงอันตรายยิ่ง ข้าสามารถไปคนเดียว แล้วอีกเดี๋ยวค่อยกลับมาตามหาท่านได้”
เขากล่าวอีกว่า “ข้าไม่ได้มีเจตนาดูถูกท่าน พวกเราแยกกันเคลื่อนไหว เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกจับในคราเดียวน่าจะดีกว่า”
ฟู่ถิงใคร่ครวญเล็กน้อย ค่อยส่ายหน้า “พวกเราไม่ชินกับสภาพแวดล้อมของที่นี่ อีกทั้งพวกเรากับจอมยุทธ์โถงเซียนยังแตกต่างกันมาก ในด้านภาษาก็มีอุปสรรคมากมาย มิสู้ร่วมรุกร่วมถอย คอยดูแลกันดีกว่า”
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า “เช่นนั้นพวกเราออกเดินทางกันเถอะ”
ขณะที่เขาพูด ใจกลางฝ่ามือของเขาก็ปรากฏแสงสีดำ การเปลี่ยนแปลงไร้สิ้นสุด ยากจะตรวจจับ ไร้รูปไร้ลักษณ์
ชายหนุ่มผลักฝ่ามือลง จอมยุทธ์สำนักฟ้าโกลาหลหลายคนสิ้นชีวิตไปทันที
พวกหยางชงแตกตื่นตะลึงลาน ฟู่ถิงกลับมีสีหน้าเป็นปกติ “เป็นวรยุทธ์ที่ถูกบันทึกอยู่ในคัมภีร์มารไร้รูปจริงๆ ด้วย กลับนึกไม่ถึงว่าคุณชายเยี่ยนจะบรรลุวิชามารที่สาปสูญไปนานแล้ววิชานี้ด้วย”
นางพิจารณาเยี่ยนจ้าวเกอตั้งแต่หัวจรดเท้า “สายสืบทอดของเขากว่างเฉิงของท่านเหมือนกับการสืบทอดย่อยสายเอกพิสุทธิ์ ทั้งยังเหมือนกับการสืบทอดหลักสายหยกพิสุทธิ์ แต่เห็นท่านในตอนนี้แล้ว ถึงกับใช้ได้แม้แต่วรยุทธ์มรรคามารระดับสุดยอดเช่นคัมภีร์มารไร้รูป ข้ามองไม่ออกจริงๆ ว่าท่านมาจากไหนกันแน่”
เยี่ยนจ้าวเกอคล้ายกับไม่มีเรื่องราวใดเกิดขึ้น ไม่ตอบคำแต่กลับย้อนถามว่า “ข้าได้พบมาโดยบังเอิญขณะเดินทาง ทำตัวน่าขายหน้าเสียแล้ว แต่ข้ากลับคิดไม่ถึงว่า แม่นางฟู่จะรู้จักคัมภีร์มารไร้รูปด้วย ตามที่ข้าทราบ วรยุทธ์ชนิดนี้สมควรสาปสูญไปจากโลกซ้อนโลกตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว”
ฟู่ถิงเอ่ยว่า “เป็นเพราะท่านพ่อ ความจริงข้าทราบถึงความลับบางอย่าง เช่นการคงอยู่ของศาสนาพุทธ”
“แสงพุทธตึงมือยิ่ง หลังจากสังหารจอมยุทธ์ศาสนาพุทธแล้ว ยอดฝีมือผู้อาวุโสของอีกฝ่ายจะทราบเรื่องในเวลาชั่วพริบตา และอาจจะมาถึงในทันทีด้วย”
“วรยุทธ์ที่กดข่มความสามารถนี้ได้มีแค่ไม่กี่ชนิด ซึ่งหนึ่งในนั้นคือคัมภีร์มารไร้รูป แต่ข้าย่อมไม่เคยเห็นมันมาก่อน กระนั้นท่านพ่อก็เคยบรรยายภาพในตอนที่ผู้ฝึกฝนใช้วิชามาร”
“แสงของการสืบทอดสายโถงเซียน ดูคล้ายกับแสงพุทธ”
นางมองเยี่ยนจ้าวเกอแวบหนึ่ง “แต่ว่าคุณชายเยี่ยน ขออภัยที่ข้ากล่าวตามตรง วรยุทธ์ชนิดนี้…”
เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “จะล่อลวงจิตใจคน ถึงขั้นทำให้ผู้คนกลายเป็นมาร ร่วงหล่นสู่นพยมโลก”
“ข้าทราบ ในตอนที่ได้มาเมื่อก่อนหน้านี้จึงไม่ได้ฝึกฝน เพียงแต่คราก่อนได้เข้าไปในโลกศาสนาพุทธโดยไม่ได้ตั้งใจ และพบส่วนที่ตึงมือของแสงพุทธ จึงลองใช้เพื่อป้องกันตัว แต่ว่าก็เป็นแค่ความสามารถที่ใช้กดข่มแสงพุทธเท่านั้น ไม่มีทางให้มันสั่นไหวรากฐาน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี