ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 924

“หลังจากกำหนดวันต่อสู้ได้แล้ว จักรพรรดิไร้จำกัดกับประมุขปฐวีก็พากันออกจากโลกซ้อนโลก จักรพรรดิแพรก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้กลับยอดเขาอัศจรรย์บนเขาคุนหลุนเช่นกัน”

หลิวเซี่ยงถงว่า “แต่ว่าไม่นานมานี้ ดูเหมือนประมุขปฐวีจะกลับมาอีก เพื่อเป็นพยานในการต่อสู้ระหว่างสองฝ่าย”

พอได้ยินคำพูดของหลิวเซี่ยงถง จิตใจที่เป็นกังวลก่อนหน้านี้ของเยี่ยนจ้าวเกอก็พลันผ่อนคลายลง

นอกจากโลกซ้อนโลก ในมิติต่างแดนไร้สิ้นสุดก็เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นเช่นกัน

เป็นเรื่องใหญ่ที่ดึงดูดความสนใจของยอดฝีมือระดับสุดยอดจำนวนมากของโลกซ้อนโลก

เยี่ยนจ้าวเกอที่ทราบถึงการดำรงอยู่ของโถงเซียนและศาสนาพุทธแล้ว ทั้งยังเดาว่าสมควรมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องเหล่านี้

ทวนพระอังคารอาจจะทราบถึงการดำรงอยู่ของโถงเซียนและศาสนาพุทธแล้วเช่นกัน

ในตอนนั้นถึงอย่างไรเขาก็สร้างโลกซ้อนโลกขึ้นมาพร้อมกับราชันพระอังคาร นับได้ว่าเป็นผู้สืบทอดเต๋าหลักสายสามพิสุทธิ์ อยู่ฝ่ายเดียวกับโลกซ้อนโลก

บางทีอาจเป็นเพราะสาเหตุนี้ เขาจึงยินดีเลื่อนเวลานัดสู้กับจักรพรรดิแพรออกไป

หลังจากกำหนดวันต่อสู้ได้ พวกจักรพรรดิแพรและจักรพรรดิไร้จำกัดก็รุดหน้าไปยังมิติต่างแดนทันที

สถานการณ์ของที่นั่นดูเหมือนค่อนข้างตึงเครียด จนจักรพรรดิแพรต้องเลื่อนการต่อสู้กับทวนพระอังคารออกไป และจัดการเรื่องราวทางนั้นก่อน

เป็นไปได้อย่างยิ่งว่ากษัตริย์เร้นลับและจักรพรรดินีจะรั้งอยู่ เพื่อรักษาความมั่นคงทางโลกซ้อนโลก

ในสถานการณ์เช่นนี้ จักรพรรดินีที่เป็นห้าจักรพรรดิ ในเมื่อรั้งอยู่แล้ว เช่นนั้นจักรพรรดิเอกภพกำเนิดน่าจะไม่อยู่ แต่มุ่งหน้าไปยังมิติต่างแดน

กระนั้นก็ยังคงไม่อาจคลายความระวังได้อยู่ดี

จักรพรรดิแพรวันนี้มีเวลาว่าง สามารถกลับมาสู้กับทวนพระอังคารได้ แต่ผู้ใดจะทราบว่าจักรพรรดิเอกภพกำเนิดจะกลับโลกซ้อนโลกหรือไม่

ยิ่งไปกว่านั้น ผลลัพธ์การต่อสู้ระหว่างจักรพรรดิแพรและทวนพระอังคารก็ยังไม่ปรากฏ

เยี่ยนจ้าวเกอและฟู่ถิงสบตากัน พยักหน้าเล็กน้อย

ความเกี่ยวโยงที่สำคัญในนี้ ทั้งสองล้วนเข้าใจดี

ทว่าพอหลิวเซี่ยงถงเห็นการเคลื่อนไหวของพวกเขา กลับทำให้ประมุขพรรคผู้นี้อดปั้นสีหน้าประหลาดพิกลขึ้นมาไม่ได้

ฟู่ถิงประสานมือคารวะหลิวเซี่ยงถง “วันนี้ข้าเพิ่งทราบถึงเรื่องนี้ ในเมื่อทราบแล้ว ย่อมไม่อาจพลาดไปได้ ไม่รู้ว่าประมุขพรรคหลิวบอกตำแหน่งได้หรือไม่”

หลิวเซี่ยงถงรีบสลัดความคิด ตอบด้วยสีหน้าจริงจัง “ย่อมได้แน่นอน”

ครั้นพูดจบ เขาก็นำทางอยู่ด้านหน้า ส่วนเยี่ยนจ้าวเกอและฟู่ถิงต่างติดตามไป

การต่อสู้ระหว่างยอดฝีมือระดับจักรพรรดิในโลกซ้อนโลกหายากยิ่ง

ต่อให้ระหว่างห้าจักรพรรดิเกิดความขัดแย้ง ต้องการจะลงหมากวัดฝีมือกัน ก็มีช่วงที่ฉีกหน้าลงมือจริงๆ อยู่น้อยยิ่ง

ต่อให้มี ก็เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าสามกษัตริย์จะลงมือไกล่เกลี่ยแทรกแซง

การต่อสู้ในวันนี้ ข้อแรก ดูเหมือนสามกษัตริย์จะติดภารกิจ ไม่มีเวลามาดูแล ข้อสอง ทวนพระอังคารเป็นข้อยกเว้น จึงสามารถกระทำได้

เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกสนใจในเรื่องนี้มาก

แตว่าการต่อสู้ระหว่างจักรพรรดิทั้งสอง แม้จะเป็นเขาเองก็ไม่อาจเข้าใกล้ได้

วันนี้มีแม้จะบอกว่ามีคนจำนวนมากมุ่งหน้าไปชมการต่อสู้ ทว่าความจริงล้วนไม่อาจเข้าใกล้ ได้แต่บอกว่าต้องการไปเป็นสักขีพยานในเหตุการณ์ยิ่งใหญ่ที่หายากมากกว่า

หากไม่ระวังแม้แต่นิดเดียว ถูกคลื่นหลงกวาดใส่จนเสียชีวิตก็ไม่มีที่ให้ไปหาสาเหตุ

“ถึงแม้จะมิกล้าเข้าใกล้ ได้แต่สัมผัสการเปลี่ยนแปลงของการต่อสู้อันยิ่งใหญ่นั้นอยู่ไกลๆ แต่พวกเราก็ได้รับประโยชน์ไร้สิ้นสุด”

หลิวเซี่ยงถงถอนใจชมเชย “เพียงหวังให้จักรพรรดิแพรกับทวนพระอังคารอย่าเพิ่งจัดการพื้นที่ก่อน”

การต่อสู้ระหว่างยอดฝีมือ บ้างไม่ถือที่คนอื่นคอยชมอยู่ใกล้ๆ บ้างอาจจะจัดการพื้นที่ ขึ้นอยู่กับความต้องการของคนที่เกี่ยวข้อง

ฟู่ถิงไม่ได้กล่าวอะไร เพียงแต่ติดตามหลิวเซี่ยงถงอยู่ด้านหลังอย่างเงียบๆ

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร จู่ๆ เยี่ยนจ้าวเกอก็รู้สึกว่าจิตใจของตนสั่นไหว ครั้นเพ่งสายตามองไป ก็เห็นว่าไกลออกไปมีกลุ่มแสงกลุ่มหนึ่งพาดขวางอยู่ในมิติอันมืดมิด

กลุ่มแสงกลุ่มนั้นไม่ได้สว่าง มองไปเป็นสีเหลืองเทามัวๆ

มันเป็นทรงรี ลักษณะเหมือนไข่ไก่

ด้านในมีจิตที่ยิ่งใหญ่หนักอึ้งลอยออกมา ทำให้พวกเยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเผชิญกับฟ้าดินอันกว้างขวางไร้ขอบเขต รองรับฟ้าบรรจุสรรพสิ่งของโลกซ้อนโลก

ประมุขปฐวีเป็นผู้อาวุโส และเป็นผู้รับรองการต่อสู้ในครั้งนี้ ฟู่ถิงย่อมต้องไปทักทาย แต่ไม่จำเป็นต้องรั้งอยู่

จักรพรรดิแพรท้าสู้กับคนอื่น เขาอัศจรรย์ที่เป็นสำนักของเขาย่อมต้องมีคนมา หลังจากฟู่ถิงเจอประมุขปฐวีแล้ว ก็จะไปรวมตัวกับสหายร่วมสำนัก

หลิวเซี่ยงถงอยู่ในเขตมหานภากลาง ที่แล้วมาพึ่งพายอดเขาอัศจรรย์ แต่หากสามารถผูกสัมพันธ์ ทำความรู้จักกับประมุขปฐวีได้ เขาย่อมยินดี ดังนั้นจึงเตรียมจะร่วมทางกับฟู่ถิง

เยี่ยนจ้าวเกอกลับไม่คิดจะไปด้วย

เขตมหานภากลางกำลังตามจับเสวี่ยชูฉิง เหมือนกับเขตสุราลัยบูรพา

ในสถานการณ์ที่ไม่ทราบความเกี่ยวข้องกับคนทั้งสอง แม้กระทั่งยากจะเชื่อมโยงได้ว่าพวกเขาเป็นแม่ลูกกัน แต่ระวังไว้ก่อนก็ไม่มีใดเสียหาย

ความจริงเยี่ยนจ้าวเกอเคยคิดว่า ฟู่ถิงกับผู้สืบทอดในสำนักยอดเขาอัศจรรย์คนอื่น จะดูเบื้องหลังของเขาออกเหมือนกับหลิวเจิงกู่และเฉาเจี๋ยหรือไม่

บางทีพวกเขาอาจจะมองไม่ออก ถึงอย่างไรทั่วทั้งยอดเขาอัศจรรย์ก็ไม่ได้ตามหาเสวี่ยชูฉิง

แต่จักรพรรดิแพรเล่า?

ที่เชิญตนกับเยี่ยนตี๋สองพ่อลูกไปเป็นแขกที่ที่สถานบำเพ็ญหลีเฮิ่นน้อยเมื่อก่อนหน้านี้ ก็ไม่รู้ว่าเขาได้พิจารณาเรื่องนี้หรือไม่

แม้ว่าในใจจะมีการคาดเดาอยู่ แต่เยี่ยนจ้าวเกอก็นิ่งสงบเหมือนปกติ ไม่ได้มีความหวั่นไหวแม้แต่น้อย

ฟู่ถิงเองก็ไม่ได้บังคับ “สหายในสำนักจากยอดเขาอัศจรรย์ของข้าก็สมควรใกล้มาถึงแล้ว ถ้าหากคุณชายเยี่ยนยินดี สามาถไปรวมตัวกับพวกเขาก่อนได้”

เยี่ยนจ้าวเกอยิ้ม “ต้องรบกวนอีกแล้ว”

หลังจากใช้สายตาส่งพวกฟู่ถิงเข้าไปในกลุ่มแสง เยี่ยนจ้าวเกอก็หมุนกายมุ่งหน้าไปอีกทาง

ยอดฝีมือจากยอดเขาอัศจรรย์มาถึงที่นี่ ก็ต้องจับกลุ่มในมิติเหมือนกับประมุขปฐวี

ฟูถิงมอบยันต์หยกที่เหมือนทั้งบัวแดง เหมือนทั้งเปลวเพลิงให้ เพื่อช่วยนำทางให้เขาในระยะใกล้

หลังจากเดินทางได้อีกระยะหนึ่ง เยี่ยนจ้าวเกอก็ตาเป็นประกายอีกครั้ง

ไกลออกไป,uดอกบัวสีแดงขนาดยักษ์ดอกหนึ่ง เบ่งบานอยู่ในมิติอันมืดมิดอย่างไร้เสียง

สายเมฆสีม่วงมากมายลอยวนอยู่รอบๆ บัวแดง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี