แม้จะเป็นฝ่ามือหยินหยางขั้วกำเนิดเหมือนกัน ทว่าเมื่อจักรพรรดิแพรงามใช้ออกมา กลับปรากฏภาพอีกอย่างหนึ่ง
เพียงฝ่ามือเดียว มิติจักรวาลตรงหน้าต่างถูกเปลี่ยนให้กลับเป็นปราณหยินหยางสองสาย สูญเสียสภาพก่อนหน้าไป
เยี่ยนจ้าวเกอชมดูจักรพรรดิแพรลงมือ รู้สึกได้ว่าการศึกษาฝ่ามือหยินหยางขั้วกำเนิดของตัวเอง ได้รับประโยชน์เพิ่มขึ้น
กระนั้น แม้การลงมือของจักรพรรดิแพรจะไม่ธรรมดา คู่ต่อสู้ของเขาก็ไม่ใช่คนธรรมดาเช่นกัน
เมื่อเผชิญหน้ากับฝ่ามือหยินหยางขั้วกำเนิดของจักรพรรดิแพรงาม เทพเจ้าอัคคีที่ยืนอยู่กลางมิติองค์นั้นก็ต่อยหมัดหนึ่งออกมา
เมื่อถูกพลังนี้เหนี่ยวนำ ปราณหยินหยางที่เดิมทีสมดุลก็พลันเสียศูนย์
ปราณหยางเปลี่ยนเป็นโชติช่วง ปราณหยินลดทอนอ่อนแอ
รูปไท่จี๋ที่มีสภาวะยิ่งใหญ่ในตอนแรก ถึงกับเริ่มถูกฉีก ลุกไหม้ขึ้นมา!
เยี่ยนจ้าวเกอมองภาพนี้แล้วก็เกิดความเข้าใจ ‘ฝ่ามือหยินหยางขั้วกำเนิดไม่อาจเหนี่ยวนำให้หยางแปรเปลี่ยนหยิน ทว่าการโจมตีนี้ของทวนพระอังคารมีลมปราณธาตุไฟที่แฝงอยู่แข็งแกร่งเกินไป’
ฝ่ามือหยินหยางขั้วกำเนิดแยบยลสุดขีด ทว่าทวนพระอังคารในฐานะอาวุธเซียนมีความคมกล้ายิ่งกว่า และมีความดุร้ายมากกว่า
ทั้งสองฝ่ายปะทะกันอย่างหักโหม เกิดเป็นลักษณะบัณฑิตเจอทหาร
ฝ่ามือหยินหยางขั้วกำเนิดเหนี่ยวนำพลังอันยิ่งใหญ่ไร้ขอบเขต ถ้าหากมีพลังงานแข็งแกร่งเพียงพอ ลมปราณธาตุไฟยังคงถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นปราณหยินหยาง ก็ย่อมไม่อาจทำลายรูปไท่จี๋ได้โดยสิ้นเชิง
ทว่าในการเผชิญกับทวนพระอังคารซึ่งหน้าครั้งนี้ จักรพรรดิแพรงามไม่ได้มีเปรียบ
ในฐานะอาวุธของราชันพระอังคาร หนึ่งในเก้านพเคราะห์ ทวนพระอังคารคงอยู่ในโลกใบนี้เป็นเวลาหลายพันปีแล้ว
ในตอนนั้นแม้จะได้รับความเสียหาย ทั้งยังถูกผนึกไว้ ทว่าช่วงเวลาที่ถูกผนึกก็ได้รับการรักษาชดเชย อีกทั้งยังได้รับการฟูมฟักอย่างต่อเนื่อง
ทวนพระอังคารในตอนนี้แข็งแกร่งยิ่งกว่าก่อนที่จะได้รับความเสียหายอีก!
สถานการณ์ของเขาพิเศษนัก สามารถแสดงพลังทั้งหมดของตนเองออกมาได้ โดยพื้นฐานถือว่าเทียบเท่าจักรพรรดิคนหนึ่ง
เป็นเซียนจริงแท้ไร้ช่องโหว่ที่เหี้ยมหาญไร้เทียมทานบนโลกซ้อนโลก เมื่อหลายพันปีก่อนหน้าคนหนึ่ง
สิ่งที่ทวนพระอังคารมีไม่ใช่แค่พลังอย่างเดียวเท่านั้น เขายังได้ประสานพลังของตัวเอง มีเคล็ดวิชาวรยุทธ์เป็นของตัวเอง
แม้ดูเปิดเผย ตรงไปตรงมา แต่ความจริงกลับแฝงการเปลี่ยนแปลงอันแยบคาย ไม่ให้จักรพรรดิแพรได้เปรียบ
เปลวเพลิงที่น่าสะพรึงระเบิดออกมาอย่างรวดเร็ว เผาผลาญรูปไท่จี๋ ก่อนจะม้วนเข้าหาจักรพรรดิแพรงาม
จักรพรรดิแพรงามฟู่อวิ๋นฉือไม่รู้สึกเหนือความคาดหมาย
เขาได้คาดเดาไว้อยู่แล้ว อีกทั้งยังได้รับการกล่าวเตือนจากประมุขปฐวีหวังเจิ้งเฉิง
วิถีวรยุทธ์ของทวนพระอังคาร ด้านหนึ่งลอกคราบมาจากวรยุทธ์ของราชันพระอังคาร ด้านหนึ่งมาจากวิญญาณของปีศาจที่แข็งแกร่งซึ่งถูกผนึกอยู่ในอาวุธเซียน
เมื่อสองอย่างผสมกัน ก็ผนึกรวมกลายเป็นการตกผลึกทางวรยุทธ์ที่เป็นของทวนพระอังคาร แม้แต่เขาที่เป็นผู้สืบทอดสายเอกพิสุทธิ์ก็ไม่อาจดูแคลน
การสั่งสมและความรู้จากประสบการณ์ส่วนตัว ทวนพระอังคารที่เคยติดตามราชันพระอังคารทะลวงไปทั่วจักรวาล อาจจะถึงขั้นเหนือกว่าเขาด้วยซ้ำ
จักรพรรดิแพรงามมองเปลวเพลิงที่ม้วนเข้ามาหาตัวเอง ไม่หลบหลีก
บนร่างของเขาพลันมีไอเมฆสีม่วงมากมายลอยขึ้นมา บดบังมิติเอาไว้ในชั่วพริบตา
เมื่อไอเมฆสีม่วงไปถึง เปลวเพลิงล้วนมอดดับหมดสิ้น
สสารกำเนิดหลอมร่าง ร่างจริงไร้ประมาณ!
ไอเมฆสีม่วงสะกดเปลวเพลิง ลมปราณธาตุไฟถูกเปลี่ยนให้กลับสู่ปราณหยางที่บริสุทธิ์อย่างรวดเร็ว
ปราณหยางกำเนิด ปราณหยินเกิดขึ้นต่อ มีพลังเพิ่มขึ้นไม่หยุด
ระหว่างที่สองฝ่ายแลกเปลี่ยนกัน ก็กลับคืนสู่สภาพสมดุลของหยินหยางในชั่วอึดใจ
รูปไท่จี๋บังเกิดขึ้นตาม
จักรพรรดิแพรมือหนึ่งใช้ฝ่ามือหยินหยางขั้วกำเนิด มือหนึ่งใช้ร่างไร้ประมาณสสารกำเนิด หนึ่งโจมตีหนึ่งป้องกัน สองด้านล้วนโดดเด่น พลันแก้ไขการโจมตีของทวนพระอังคาร กำลังจะยึดครองสิทธิ์ในการบุก เปลี่ยนจากป้องกันเป็นโจมตีอีกครั้ง
ยักษ์เพลิงที่อยู่กลางอากาศแค่นเสียง ร่างระเบิด กลายเป็นอัคคีเต็มฟ้า
ด้านในทะเลเพลิงไร้สิ้นสุด ทวนวงเดือนสีแดงเล่มหนึ่งปรากฏขึ้น พุ่งเข้าหาจักรพรรดิแพรงาม!
ทวนวงเดือนวาดโค้งกลางมิติ รูปไท่จี๋พลันแหลกสลาย!
หลังจากโจมตีเป็นครั้งที่สอง ไอเมฆสีม่วงมากมายเหล่านั้นก็ถูกฟันทำลาย!
ทวนพระอังคารไม่ใช่เครื่องประดับ และไม่ใช่อุปกรณ์ป้องกัน หรือสิ่งของที่เห็นได้ตามปกติทั่วไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี