แม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บ แต่ว่าเซี่ยกวงก็ยังกัดฟันฝืนทน ตามหาที่อยู่ของหอธารกระจ่างจนเจอ
เขาปรารถนาจะขอยา แต่ผลลัพธ์กลับทำให้เขาผิดหวัง
“ไปเสีย! อย่าว่าแต่โอสถประทีปวิสุทธิ์ที่ล้ำค่าหาใดเปรียบ แม้แต่พรรคเราตอนนี้ก็มีเก็บไว้น้อยเต็มที ฝ่ายเรายังใช้ไม่พอ ต่อให้จะเหลือ ก็ไม่มีทางมอบให้ท่าน!”
เซี่ยกวงก้มหน้าเอ่ยว่า “ข้ารู้ว่าการมาเช่นนี้เป็นการเสียมารยาท”
“ตอนนี้ข้าไม่มีสิ่งของใด ไม่อาจแลกเปลี่ยนกับท่านได้ แต่สุดท้ายข้าก็ฝึกยุทธ์มาหลายปี เลื่อนจากขั้นบรรลุธรรมเป็นระดับศักดิ์สิทธิ์ ถ้าหากมีเรื่องอะไรต้องการสั่ง ข้าสามารถช่วยพวกท่านได้”
จอมยุทธ์หอธารกระจ่างที่อยู่ตรงหน้าตวาดว่า “ก็บอกแล้วว่าจะไม่มอบให้ท่าน! จอมยุทธ์จากตะวันออกเฉียงใต้อย่างท่าน ไฉนจึงพัวพันไม่ยอมเลิก!”
ไม่ว่าจะเป็นเขตตะวันอาคเนย์ หรือเขตเพลิงทักษิณ ต่างกว้างใหญ่ไพศาล มีพื้นที่ใหญ่โต
แม้ว่าสำนักของคนในทะเลหวงเจีย กับคนที่อาศัยอยู่ในเทือกเขาเสียงระรัว ซึ่งอยู่ด้านในเขตตะวันอาคเนย์เหมือนกันจะมีความแตกต่างกันมาก ทว่าโดยรวมแล้วเมื่ออยู่ในเขตตะวันอาคเนย์เหมือนกัน ก็มีส่วนที่คล้ายกันอยู่บ้าง
เทียบกันแล้ว นอกจากบริเวณพรมแดนของทั้งสองเขต ความแตกต่างระหว่างสำเนียงของเขตตะวันอาคเนย์และเขตเพลิงทักษิณก็มีความชัดเจนกว่าเดิม
เซี่ยกวงไม่จำเป็นต้องแนะนำตัว ไม่จำเป็นต้องแสดงวรยุทธ์ แค่อ้าปาก คนของหอธารกระจ่างก็ทราบแล้วว่าเขามาจากเขตตะวันอาคเนย์
ระหว่างสองเขต ปัจจุบันมีความสัมพันธ์เลวร้ายยิ่ง
ต้นตอของความขัดแย้งมาจากผู้ปกครองของทั้งสองเขต เนินต้นจักรพรรดิและเขาโถงทอง
สงครามใหญ่เมื่อก่อนหน้านี้ ไม่เพียงแต่ลูกศิษย์ในสำนักของประมุขผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองเท่านั้น จอมยุทธ์ในเขตตะวันออกเฉียงใต้กับเขตใต้ล้วนเข้าร่วมการต่อสู้
ด้านในเทือกเขายาวเหยียดนี้ ก็มียอดฝีมือระดับสุดยอดที่ได้ไปยังพรมแดนระหว่างสองเขต และต่อสู้กับจอมยุทธ์เขตตะวันอาคเนย์เช่นกัน
หอธารกระจ่างแม้จะไม่ได้เข้าร่วมด้วย แต่สุดท้ายก็ยังอยู่ในเขตเพลิงทักษิณ ใช้ชีวิตอยู่บริเวณเขายาวเหยียด
พวกเขาใช่ว่าจะมีความเกลียดชังต่อจอมยุทธ์จากเขตตะวันอาคเนย์รุนแรงอะไรนัก แต่ว่าจุดยืนก็ต้องมั่นคง
ถ้าหากมีบุคคลที่ยิ่งใหญ่ในเขตเพลิงทักษิณทราบว่าพวกเขาช่วยเหลือคนจากเขตตะวันอาคเนย์ ไม่แน่ว่าจะเกิดความไม่พอใจ นำภายร้ายมาถึงตัว เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะถูกทำลายล้าง
เซี่ยกวงก่อนหน้านี้อาศัยอยู่ในตระกูลมาโดยตลอด ไม่ค่อยได้สัมผัสกับโลกภายนอกมากนัก
หากโลกภายนอกมีข่าวใหม่ คนในตระกูลก็ยังบอกเล่าให้เขาฟัง เพียงแต่เป็นข่าวในเทือกเขาเสียงระรัวเสียเป็นส่วนใหญ่
ด้วยระดับของตระกูลเซี่ยแห่งยอดเขาสดับอัสนี เรื่องที่เกิดขึ้นในเทือกเขาเสียงระรัวจึงเกี่ยวข้องกับพวกเขามากที่สุด
เรื่องใหญ่ๆ ที่มีระดับสูงเกินไป แม้นว่าจะส่งผลต่อชีวิตของพวกเขาทั้งทางตรงและทางอ้อมอยู่บ้าง แต่พวกเขากังวลไปก็ไร้ประโยชน์
เซี่ยกวงจึงทราบข่าวด้านนอกเทือกเขาเสียงระรัวน้อยนิดยิ่ง
เขาเคยได้ยินถึงสงครามใหญ่ระหว่างเขตตะวันอาคเนย์กับเขตเพลิงทักษิณมาก่อน แต่ไม่ได้จำใส่ใจ
ตอนนี้เขาไม่เข้าใจท่าทีที่เหมือนหลบเลี่ยงอสรพิษของจอมยุทธ์หอธารกระจ่าง แต่รู้สึกอัปยศมากกว่า
หากเปลี่ยนเป็นเวลาอื่น เขาคงสะบัดแขนเสื้อไปแล้ว
แต่ว่าเขาบาดเจ็บสาหัส เวลายิ่งผ่านไปนานก็ยิ่งส่งผลเสีย ใกล้ๆ นี้นอกจากหอธารกระจ่างแล้วก็ไม่มีขุมกำลังไหนที่โด่งดังในเรื่องโอสถอีก
พอคิดได้ว่ามีแต่ต้องรักษาอากรบาดเจ็บเท่านั้น จึงค่อยฝึกฝนวิชาเพื่อหาคนแก้แค้นได้ เซี่ยกวงก็ได้แต่อดทน ก้มศีรษะเอ่ย “ท่านพี่ผู้นี้ ได้โปรดเมตตาด้วย ขอแค่เป็นเรื่องที่ข้าทำได้ ข้าจะ…”
จอมยุทธ์หอธารกระจ่างผู้นั้นตวาด “เจ้าคนตาบอด หากกล่าวเหลวไหลอีก เชื่อหรือไม่ว่าแม้แต่ตาอีกข้างของท่านก็จะบอดไปด้วย”
เมื่อเซี่ยกวงได้ยินดังนั้น ใบหน้าของเขาก็พลันแปรเปลี่ยน เดือดดาลถึงขีดสุด
ตาขวาที่ถูกคนจากเขาสามขาทำให้บอด บัดนี้มันเป็นต่อมความโกรธของเขา คนอื่นแค่จ้องตาขวาของเขา ก็ทำให้จิตใจเขาลุกโชนแล้ว
ครั้งนี้มีชายชราผู้หนึ่งปรากฏตัว เดินมาถึงด้านข้างจอมยุทธ์หอธารกระจ่าง ตำหนิเสียงเบาว่า “อย่าวิจารณ์ความพิการของคนอื่น”
จอมยุทธ์หอธารกระจ่างคนก่อนรีบร้อนเอ่ยว่า “ขอรับ ท่านอาจารย์ เป็นข้าเสียมารยาทแล้ว”
ชายชราผู้นี้เป็นผู้คุมหอธารกระจ่าง เขามองเซี่ยกวง เอ่ยว่า “ลูกศิษย์ข้ากล่าววาจาไร้มารยาท ล่วงเกินท่านแล้ว เป็นเขาไม่ถูก ขออภัยด้วย”
ครั้นเห็นอีกฝ่ายกล่าวขอโทษ เซี่ยกวงก็แค่นเสียง เพลิงโทสะในใจดับลงไปไม่น้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี