“อาจารย์อาเจ็ดที่เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดงระยะท้ายตายไปที่นั่นอย่างไร้สุ้มไร้เสียง”
“ยังมีคนอื่นอีก ดูจากสภาพของพวกเขาแล้ว ถึงขั้นไม่รู้ว่าตนตายอย่างไร ไม่รู้ตัวว่าเสียชีวิตไปแล้วด้วยซ้ำ!”
จอมยุทธ์เขามหาวิญญาณที่ลงเขาไปตรวจสอบต่างตกใจไม่น้อย เพราะลักษณะของผู้ตายแปลกประหลาดเกินไป
คนที่ตายไปแล้วล้วนมีสีหน้านิ่งเฉย ไม่มีความรู้สึกตกใจหรือหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย
มีสองคนยืนอยู่ตรงกันข้ามกัน เหมือนกับกำลังสนทนากัน ต่างปั้นสีหน้ารังเกียจ คล้ายกำลังพูดถึงเยี่ยนจ้าวเกอนั่นอยู่ แต่พวกเขาเหมือนกับไม่รู้เลยว่าถูกคนฆ่าทิ้งไปแล้ว ใบหน้ายังคงเหมือนเดิม อาจารย์อาผู้หนึ่งถึงขั้นอ้าปากค้าง ยังพูดไม่ทันจบด้วยซ้ำ
ถ้าหากบอกว่าเป็นวิชาลวงตาหรือพิษร้ายแรง จนทำให้พวกเขาสูญเสียการรับรู้ อยู่ในอาการไม่รู้สึกตัวชั่วคราว แต่ตอนที่เยี่ยนจ้าวเกอนั่นเอาชีวิตพวกเขาไปเล่า
“ดูจากสีหน้าของพวกอาจารย์อาแล้ว ถึงเป็นตอนที่ถูกอีกฝ่ายฆ่า พวกเขาก็ไม่ได้ตื่นตกใจ กระทั่งร่างกายยังไม่ขัดขืนแม้แต่น้อย!”
จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดงผู้ยิ่งใหญ่ถูกคนฆ่าทิ้ง ถึงกับไร้ปฏิกิริยาตอบสนอง ราวกับติดอยู่ในฝันหวานเลยหรือนี่
ล้อเล่นหรือไรกัน
จอมยุทธ์เขามหาวิญญาณที่ไปตรวจสอบเหล่านั้นต่างคิดว่า เมื่อครู่หากไม่ใช่เพราะนักพรตตงเฉวียนสั่งให้พวกเขาถอนมือถอยกลับ พวกเขาก็คงมีจุดจบเดียวกันกับสหายที่ตายไปเหล่านั้น
แม้แต่ตายยังไม่ทราบว่าตายอย่างไร
ขอแค่คิดถึงตรงนี้จอมยุทธ์เขามหาวิญญาณทั้งหมดก็อดสยิวกายไม่ได้
“ประเสริฐ! สายฟ้าอนธการที่ประเสริฐ!” นักพรตตงเฉวียนไม่ได้ตกใจเพราะฝีมือของเยี่ยนจ้าวเกอ แต่เขาโกรธที่คนในสำนักจำนวนมากมายขนาดนั้นถูกฆ่า
หยวนเสี่ยนเฉิงจากเนินต้นจักรพรรดิลุกพรวดขึ้นจากที่นั่ง
ท่าร่างของเขาบรรลุถึงด้านนอกตำหนักในชั่วพริบตา เงาแสงหงส์เพลิงในตาดำสองข้างส่องสว่างกว่าเดิม “จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหกคนหนึ่งไม่ควรกระตุ้นพลังของสายฟ้าอนธนการได้แข็งแกร่งขนาดนี้ ในวิชาสายฟ้าของเจ้ายังหลอมความลี้ลับอย่างอื่นไว้ด้วย!”
เยี่ยนจ้าวเกอยืนอยู่บนยยอดเขา สบตาหยวนเสี่ยนเฉิง ยิ้มกล่าวว่า “เป็นหยวนเสี่ยนเฉิง ‘เนตรหงส์’ กระมัง ข้าเคยเห็นภาพเงาแสงของท่านมาก่อน ได้ยินชื่อมิสู้พบหน้าจริงๆ”
“ก่อนหน้านี้ข้ากลับดูแคลนเจ้าไป” หยวนเสี่ยนเฉิงเอ่ยอย่างเนิบนาบ “มิน่าถึงทะลวงจากเขายาวเหยียดมาถึงนี่ได้”
จ้าวเจินเดินออกมาจากตำหนักใหญ่ ตามหลังหยวนเสี่ยนเฉิงติดๆ พลางใช้สายตาพิจารณาเยี่ยนจ้าวเกอตั้งแต่หัวจรดเท้า
รอยยิ้มที่มักมีบนใบหน้าเขาบัดนี้สลายไป กลับกลายเป็นการแสดงความเคร่งขรึมจริงจัง
นักพรตตงเฉวียนยามนี้สูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ค่อยๆ ใจเย็นลง
“โจรน้อยตระกูลเยี่ยนเจ้ากล้ามายังเทือกเขาสันติภาพ ที่นี่จะกลายเป็นที่ฝังกระดูกของเจ้า” เสียงของเขาเย็นชา “เจ้ามายังเขามหาวิญญาณของข้าด้วยตัวเอง รนหาที่ตาย ทั้งยังสังหารคนในเขามหาวิญญาณของข้า ข้าจะต้องสังหารเจ้าด้วยฝ่ามือของตัวเองให้ได้!”
เยี่ยนจ้าวเกอกลับไม่ได้สนใจนักพรตตงเฉวียน แต่มองซ้ายมองขวา “ฟังว่าเจ้าสำนักรัตติกาลเข้าฌานแล้ว ไม่ทราบว่ามีตัวแทนมาหรือไม่”
สีหน้าของคนที่อยู่รอบๆ กลายเป็นประหลาดใจพิกล
ผู้อาวุโสสำนักรัตติกาลลอบยินดี เพียงแต่พอเห็นหยวนเสี่ยนเฉิงอยู่ที่นั่น จึงไม่กล้าเผยสีหน้าใดออกมา
“วันนี้ยอดฝีมือในเทือกเขาสันติภาพล้วนมารวมตัวกันที่นี่เพื่อสังหารโจรโอหังเช่นเจ้า ภายใต้การนำของเนินต้นจักรพรรดิ” นักพรตตงเฉวียนกล่าวอย่างเย็นชา “อย่าใช้แผนยุแยงตะแคงรั่วดีกว่า ที่นี่ไม่มีที่ให้เจ้ามาเล่นลิ้น”
เยี่ยนจ้าวเกอได้ยินดังนั้น ในที่สุดก็มองนักพรตตงเฉวียน กล่าวด้วยความขบขัน “ท่านเข้าใจอะไรผิดหรือไม่”
“ที่ข้าสนใจสำนักรัตติกาล เป็นเพราะว่ากันว่าวิชาดาบบัวงามคืนมืด วรยุทธ์คุ้มครองสำนักของพวกเขาเป็นการสืบทอดจริงแท้ก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ ที่เก็บรักษาได้ค่อนข้างสมบูรณณ์ มีลักษณะเฉพาะตัว ก็เลยคิดอยากเห็นเท่านั้น”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี