หลังจากฝากตำนานการไล่ล่าจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดงไว้บนทะเลหวงเจียในเขตตะวันอาคเนย์ วันนี้เยี่ยนจ้าวเกอก็ได้สร้างความสะท้านสะเทือนบนเขตเพลิงทักษิณอีกครั้ง
เขาไล่ตามจางซู่เหรินกับหยวนเสี่ยนเฉิง สองจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนผู้ยิ่งใหญ่ ด้วยระดับของจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดงอย่างดุร้าย เข่นฆ่าตั้งแต่เทือกเขาสันติภาพจนถึงเขารอบวง
ถ้าหากว่าเป้าหมายที่ถูกไล่ล่าเป็นคนธรรมดายังพอว่า แต่จางซู่เหรินกับหยวนเสี่ยนเฉิงย่อมสุดที่คนธรรมดาจะเทียบเคียงได้
คนหนึ่งเป็นหนึ่งในยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ขั้นสะพานเซียนระยะท้าย โดดเด่นที่สุดในเขตเพลิงทักษิณรองจางเซินประมุขทักษิณ และผู้อาวุโสของเนินต้นจักรพรรดิแห่งเขาลีลาหงส์ที่งอนิ้วนับได้
อีกคนหนึ่งเป็นอัจฉริยะบุรุษที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปด ขั้นสะพานเซียนระยะกลาง แม้แต่ยอดฝีมือในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้าจำนวนมากก็ยังไม่อาจไล่ล่าและทำให้เขาหนีได้
ในฐานะผู้ปกครองเขตเพลิงทักษิณ เนินต้นจักรพรรดิแห่งเขาลีลาหงส์ย่อมเป็นตัวตนที่เหมือนกับตำนานบนที่แห่งนี้
ทว่าในวันนี้ ชื่อเสียงของเขาได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวง บารมีถูกทำลาย
เยี่ยนจ้าวเกอบรรลุวิชาคุนเผิงบรรพกาลและหอกเทพสมุทรสุดขอบโลก ฝึกฝนคัมภีร์นภากาลเวลากับกระบี่ลวงเซียนจนมีผลสำเร็จ
พูดถึงด้านความเร็ว จางซู่เหรินกับหยวนเสี่ยนเฉิงไม่มีทางสลัดหลุดจากการไล่ล่าของเยี่ยนจ้าวเกอ ได้แต่ถูกเขาไล่ตามอย่างคับข้องใจ
โชคดีที่คนทั้งสองฝึกฝนม้วนคัมภีร์ร่างหงส์เพลิง มีพลังป้องกันน่าทึ่ง จึงค่อยถอยกลับเขารอบวงได้
ตอนที่เยี่ยนจ้าวเกอไล่ล่าสังหารเข้าไปในพื้นที่ของเขารอบวง จิตใจของชายหนุ่มพลันสั่นไหว
วินาทีต่อมา ตรงหน้าก็มีแสงสว่างหมื่นจั้งสว่างขึ้น แผ่พุ่งไปทั่วฟ้าดิน
ในแสงสว่างที่น่ากลัวมีต้นจักรพรรดิที่มีเพลิงโหมวนเวียนอยู่รอบๆ หลายต้นผุดขึ้นจากดิน บดบังท้องฟ้า กลายเป็นป่าต้นจักรพรรดิขนาดใหญ่โตผืนหนึ่ง
เสียงร้องของหงส์สะท้อนอยู่ในป่าต้นจักรพรรดิ ไม่ได้ระคายหู แต่ช่างน่าครั่นคร้ามนัก
หลังจากจางซู่เหรินกับหยวนเสี่ยนเฉิงเข้าไปในอาณาเขตของป่าต้นจักรพรรดิสำเร็จ สภาวะก็พลันแปรเปลี่ยน
เพลิงโหมลุกโชนกระจายไปรอบๆ ม้วนพัดใส่เยี่ยนจ้าวเกอดุจคลื่นทะเล
เยี่ยนจ้าวเกอหยุดฝีเท้า เก็บตรากระบี่กาลเวลา หยิบตราประทับตะวันขึ้นมาแทนที่ แล้วปะทะกับคลื่นเพลิงตรงหน้าอย่างหักโหม
เขาเพ่งสายตามองไป เห็นจางซู่เหรินที่พุ่งลงบนต้นจักรพรรดิ บาดแผลบนไหล่ถึงกับค่อยๆ สมานตัว
กระบี่สังหารมังกรเขียวของเยี่ยนจ้าวเกอดุร้ายถึงขีดสุด เป็นปราณความสิ้นสูญที่โชติช่วงถึงขีดสุด กดข่มจอมยุทธ์เนินต้นจักรพรรดิแห่งเขาลีลาหงส์ได้ชัดเจนโดยสมบูรณ์
ด้วยพลังฝึกปรือของจางซู่เหริน หลังจากถูกเยี่ยนจ้าวเกอแทงทำร้ายด้วยหนึ่งกระบี่ ปากแผลนั้นไม่อาจรักษาตัวเองได้
ถ้าหากว่าสามารถสงบใจและปรับลมหายใจได้ อย่างน้อยปากแผลนั้นก็ไม่เลวร้ายขึ้น
หลังจากเวลาผ่านไปอย่างช้าๆ ปากแผลก็อาจมีโอกาสสมานตัว
แต่เนื่องจากถูกเยี่ยนจ้าวเกอไล่เข่นฆ่ามาตลอดทาง ไม่มีโอกาสพักหายใจ แผลจากกระบี่ที่จางซู่เหรินได้รับจึงไม่เพียงแต่ไม่ทุเลา แต่กลับค่อยๆ สาหัสมากขึ้น
ทว่าตอนนี้พอได้เข้ามาในป่าต้นจักรพรรดิ อาการบาดเจ็บของจางซู่เหรินก็พลันเริ่มฟื้นฟู่อย่างรวดเร็ว
ปราณกระบี่และจิตกระบี่อันดุร้ายที่กระบี่สังหารมังกรเขียวของเยี่ยนจ้าวเกอได้เหลือทิ้งไว้ตรงปากแผลของเขา กำลังถูกขจัดและแก้ไขอย่างต่อเนื่อง
เยี่ยนจ้าวเกอมองค่ายกลเบื้องหน้า กวาดสายตามองต้นจักรพรรดิที่ยาวไกลสุดลูกหูลูกตา ขณะที่แต่ละต้นต่างสูงใหญ่ ค้ำฟ้ายันดิน ร้อนแรงดุจเพลิง สูงส่งไม่เหมือนสิ่งใด ก็เปี่ยมไปด้วยพลังชีวิตที่โชติช่วงด้วยเช่นกัน
ท่าสังหารมังกรเขียวของตนสะกดม้วนคัมภีร์ร่างหงส์เพลิงของเนินต้นจักรพรรดิแห่งเขาลีลาหงส์ได้ในระดับหนึ่ง สามารถใช้อ่อนแอเอาชนะแข็งแกร่งได้
ทว่าระหว่างน้ำกับไฟ หากน้ำมากย่อมดับไฟได้ หากไฟมากย่อมต้มน้ำได้
หลังจากความแตกต่างของระดับพลังเหนือกว่าขีดจำกัดหนึ่งแล้ว สิ่งที่เรียกว่าการกดข่มจะหายไป
‘อืม สภาวะค่ายกลนี้ไม่ธรรมดา’ หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอสำรวจ เขาก็พยักหน้าเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี