ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 994

เยี่ยนจ้าวเกอเท้าเหยียบอากาศ ยืนอยู่ด้านหลังชิงซู่จื่อ

เขายื่นมือหนึ่งออกมา นิ้วชี้นิ้วกลางตั้งตรงประดุจกระบี่ ปลายนิ้วแทงใส่ขมับของชิงซู่จื่อ

ประกายกระบี่ดุดันแทงทะลุเข้าไปในสมอง เจาะกะโหลกของชิงซู่จื่อ ยื่นออกจากขมับอีกด้าน

ยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้าผู้นี้ เสียชีวิตในค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้งเช่นนี้แล

ในโลกซ้อนโลก ชิงซู่จื่อคือยอดฝีมือที่ผู้คนล้วนยอมรับว่ามีโอกาสที่จะได้เลื่อนไปอยู่ถึงขั้นประมุขในหมู่คนในระยะเวลาสั้นๆ มากที่สุด

ด้วยอายุของเขา รวมถึงศักยภาพที่แสดงออกมา แม้แต่ตำแหน่งของจักรพรรดิ ก็สามารถคาดหวังได้

ไม่เพียงแต่จะมีพลังในตอนนี้เหนือกว่าเท่านั้น เขายังมีอนาคตยาวไกลกว่าพวกจางซู่เหริน เผิงเฮ่อ และกวนลี่เต๋อเสียอีก

เพียงแต่ชีวิตคนล้วนไม่เที่ยง ดาบกระบี่ไร้ดวงตา ในการต่อสู้วันนี้ ฝุ่นกลับสู่ฝุ่น ดินกลับสู่ดิน อนาคตอันยาวไกลล้วนสิ้นสลาย

เยี่ยนจ้าวเกอมองร่างของชิงซู่จื่อที่สูญสิ้นชีวิต ร่วงตกจากฟ้า พร้อมกับส่ายศีรษะเล็กน้อย

เขาพุ่งร่างลงไปด้านล่าง ก่อนที่แม่น้ำสีเหลืองขุ่นเบื้องล่างแยกออก

จางซู่เหรินถูกตราประทับตะวันสะกดอยู่ที่นั่น ได้แต่ฝืนต้านไว้เท่านั้น ไม่อาจดันออกไป

เขาที่ถูกค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้งกัดกร่อนอย่างต่อเนื่อง พลังฝึกปรือลดต่ำลงไม่หยุด ยิ่งมายิ่งไม่อาจบังคับพลัง

ในตอนนี้เห็นศพของชิงซู่จื่อร่วงลงมา ตกสู่ห้วงน้ำ เขาจึงอดเกิดความรู้สึกเจ็บปวดและสิ้นหวังไม่ได้

ต่อมา ใบหน้าของเยี่ยนจ้าวเกอก็โผล่ขึ้นที่ด้านหน้า

“คิดไม่ถึง คิดไม่ถึงจริงๆ…” จางซู่เหรินตอนนี้กลับสงบนิ่ง เพียงแต่ส่ายหน้าติดต่อกัน “เจ้าสังหารศิษย์หลานหลี่จิ้น ช่วยเขาโถงทองจับศิษย์หลานหวังฮุ่ย ทำลายแผนการนำกระดูกหงส์เพลิงกลับมาของจาวฮุย ในตอนนั้นทั่วทั้งสำนักไม่มีใครคิดว่าสุดท้ายแล้วเรื่องราวจะมีผลลัพธ์อย่างวันนี้”

“นี่น่าจะเพิ่งผ่านไปได้หกกว่าปี ยังไม่ถึงเจ็ดปีด้วยซ้ำ…”

เยี่ยนจ้าวเกอสงบนิ่งยิ่งกว่า เหมือนกับสนทนาเรื่องทั่วไปกับจางซู่เหริน “นานกว่านั้นเล็กน้อย มีช่วงเวลาประมาณสามปีที่ข้าผู้แซ่เยี่ยนลงไปใช้ชีวิตในโลกเบื้องล่าง ที่มีการไหลของเวลาเร็วกว่าโลกซ้อนโลก”

“สำหรับข้าแล้ว หากนับตั้งแต่สังหารลูกศิษย์สำนักท่านจนถึงวันนี้ รวมๆ สมควรผ่านไปสิบเอ็ดสิบสองปีแล้ว”

จางซู่เหรินถอนใจยาว “สิบเอ็ด สิบสองปี…ฮ่าๆ สิบเอ็ดสิบสองปีอันประเสริฐ! เทียบกับเจ้าแล้ว คนแก่อย่างพวกข้ากลับใช้เวลาทั้งชีวิตไปอย่างเสียเปล่านัก”

“แต่เจ้าอย่าได้ใจไป ชิงซู่จื่อที่เพิ่งตายด้วยน้ำมือของเจ้า ก็มักจะทำให้ผู้คนทอดถอนใจเช่นนี้”

ชายชรายามนี้ร่างงองุ้ม ยิ่งมายิ่งไม่อาจรับภาระได้อีก

แต่บนใบหน้าของเขาตอนนี้เหลือเพียงความเรียบเฉย “คนฆ่าคนย่อมถูกคนฆ่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า เจ้าแข็งแกร่งกว่าพวกข้า เจ้าฆ่าพวกข้าได้ แต่จะต้องมีคนที่แข็งแกร่งกว่าเจ้าอยู่ดี อยากรู้นักว่าเจ้าจะตายด้วยน้ำมือใคร!”

ตราประทับตะวันด้านบนกลายเป็นดวงอาทิตย์โชติช่วง ส่องแสงละลานตาอยู่เหนือแม่น้ำเหลืองเก้าโค้งที่มืดมัว

ทว่าแสงอาทิตย์ที่ร้อนแรงก็กลายเป็นเปลวเพลิงทำลายล้าง ค่อยๆ กลืนกินร่างของจางซู่เหริน

เยี่ยนจ้าวเกอยิ้ม “อย่างน้อยก็ไม่ใช่ท่าน”

ร่างของจางซู่เหรินถูกดวงอาทิตย์อันรุ่งโรจน์กลืนกิน

ในเถ้าถ่านมีเสียงหงส์อันกระจ่างใสดังขึ้น เงาร่างสายหนึ่งเริ่มโผล่ขึ้นมา

เยี่ยนจ้าวเกอไม่เหลือบแล ฟาดฝ่ามือหนึ่งใส่

การดับสิ้นคืนชีพของยอดฝีมือจากเนินต้นจักรพรรดิแห่งเขาลีลาหงส์ หากเป็นในสถานการณ์ปกติ พลังฝึกปรือของคนจะไม่แตกต่างจากตอนก่อนคืนชีพ ไม่ใช่แค่รักษาชีวิตไว้ได้เท่านั้น

แต่การคืนชีพในค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้งในตอนนี้ เป็นเพราะผลกระทบด้านลบที่ได้รับจากค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้งก่อนหน้านี้ยังคงอยู่ พลังฝึกปรือของจางซู่เหรินหลังจากคืนชีพถูกบดขยี้อย่างรุนแรง จึงเทียบได้กับแค่ระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเจ็ดเท่านั้น

เยี่ยนจ้าวเกอฟาดฝ่ามือลง จางซู่เหรินมีสี่จริยะหนุนนำร่างกระตุ้นฝ่ามือเทพต้นจักรพรรดิก็ยังยากจะต้านทาน

ผู้อาวุโสเนินต้นจักรพรรดิแห่งเขาลีลาหงส์ผู้นี้เดินตามรอยเผิงเฮ่อ ตายในค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้ง

ลมโรคาเป็นระลอก หมอกดำบังฟ้า มีแค่คลื่นแม่น้ำสีเหลืองเข้มที่ขุ่นขลักกำลังซัดโหม

เรือนภาร่อนวายุที่ใกล้จะพังทลาย ตอนนี้ถล่มลงโดยสิ้นเชิง

เนินต้นจักรพรรดิมีจางซู่เหรินเฝ้าอยู่ที่พรมแดนทางเขารอบวง ทางเขาโถงทองย่อมมียอดฝีมือปักหลักอยู่ในทะเลหวงเจียซึ่งอยู่ติดกันด้วยเช่นกัน

หลายปีมานี้ส่วนใหญ่แล้วเป็นหญิงชราท่านนี้เฝ้าอยู่

เยี่ยนจ้าวเกอมีความสัมพันธ์อันดีกับเขาโถงทอง รวมถึงคุ้นเคยกับแม่เฒ่ากระบี่อาคเนย์เป็นอย่างดี

ถึงแม้ว่าจะมีนิสัยถือตัว แต่แม่เฒ่ากระบี่ก็ชื่นชมความสามารถของเยี่ยนจ้าวเกอ ให้ความสำคัญกับชายหนุ่มที่เพิ่งโผล่หน้ามาผู้นี้เป็นอย่างยิ่ง

เพียงแต่ตอนนี้ยามนางมองเยี่ยนจ้าวเกอ ก็ยังรู้สึกตื่นตระหนกเช่นกัน

นางคอยจับตาดูความเคลื่อนไหวทางเขารอบวงตลอดเวลา พลับพบว่าที่นี่เหมือนมีบางอย่างไม่ถูกต้อง จึงรีบนำคนรุดมาตรวจสอบ

ผู้ใดหาทราบไม่ว่าเพิ่งถึงพรมแดนได้ไม่นาน ก็เห็นเมฆหมอกหนา ลมโรคาส่งเสียงหวีดหวิว มองสถานการณ์ไม่ออกโดยสิ้นเชิง

แม่เฒ่ากระบี่อาคเนย์คุ้ยเคยกับค่ายกลหงส์เพลิงเกาะต้นจักรพรรดิของจางซู่เหรินเป็นอย่างดี แต่ว่าสภาพค่ายกลตรงหน้ากลับทำให้นางรู้สึกไม่คุ้นเคย

หลังจากทดลองเข้าไปด้านใน นางกลับรู้สึกวิงเวียนตาลาย เกือบติดอยู่ด้านใน

ค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้ง ชื่อที่แสนเก่าแก่โบราณนี้ผุดขึ้นในห้วงสมองของนาง แม่เฒ่ากระบี่อาคเนย์จึงอดตกใจไม่ได้

นางกลับไม่ทราบว่าสภาวะค่ายกลที่อยู่ตรงหน้าเป็นใครวาง ได้แต่ดูสถานการณ์เงียบๆ

จนในที่สุดค่ายกลสลายไป

แม่เฒ่ากระบี่เป็นคนที่มีจิตใจแน่วแน่ พาคนข้ามเส้นแบ่งพรมแดน เข้าไปในอาณาเขตของเขตเพลิงทักษิณ

มิคาดหากไม่เห็นก็แล้วกันไป แต่พอเห็น ทุกคนก็ตะลึงลานกับที่ทันที

มีแค่เยี่ยนจ้าวเกอที่ประสานมือยิ้มให้แก่พวกเขา ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น “แม่เฒ่ากระบี่ ไม่พบกันนาน”

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี