ตอนนี้สายตาของจางหย่งเล่อจดจ่ออยู่ที่หนังสือในมือนี่มัน จางหย่งเล่อหน้าแดงเป็นผลผิงกั๋วยามสุกงอม เนื้อหาในหนังสือนั้นช่างเร่าร้อนรุนแรง ภาพประกอบก็ช่างวาดได้ถึงใจจริงๆ
"ซือหมิงเจ้าจะบอกว่านี่คือฝีมือน้องสามของข้าหรือ อีกทั้งนางถูกเอาไปไว้เรือนอนุเหวินผู้นั้นจริงๆหรือ"
"อืม นางหายปัญญาอ่อนแล้ว ดูเหมือนหลี่ม่านม่านคนนั้นอยากให้นางตายจึงผลักตกสระบัว ใครจะรู้ว่านางกลับหายสติไม่ดีเสียงั้น แต่ดันปรากฏตัวผิดเวลาดันปรากฏตัววันที่เยี่ยอ๋องนัดประชุมราชการที่จวน พระชายาฟั่นเฟือนออกมาเพ่นพ่านสร้างความตลกขบขันขนาดไหนเจ้าไม่รู้หรอก ต่อหน้าไม่กล้าวิจารณ์แต่ลับหลังเล่า ฉีเอ๋อร์น้องสาวเจ้าเลยโชคร้ายถูกหิ้วไปโยนเรือนร้างคงกะให้อดตายไปเอง ดีที่นางหายแล้วไม่เช่นนั้นคงอดตายจริงๆ"
ฟางซือหมิงอธิบาย จางหย่งเล่อน้ำตาซึมช่างเถอะอยู่ไกลดาวมัจจุราชนั่นก็ดี เยี่ยอ๋องนึกจะโยนใครก็โยนไม่สนหน้าไหนทั้งนั้น
" แม้แต่ฮ่องเต้ยังต้องไว้หน้าน้องชายคนนี้ ฉีเอ๋อร์สามารถออกมาใช้ชีวิตข้างนอกได้ก็นับว่าดี ซือหมิงหนังสือนี้ต้องระวังนะเนื้อหาอ่านไปเล่มท้ายๆเกี่ยวโยงทั้งเยี่ยอ๋องกับฝ่าบาท ยิ่งสวีไค่เฉิงกับหลี่หมิงหลงนั้นสองตระกูลนี้แค่เอ่ยคำเดียวก็ทำร้านเจ้าหายไปได้ชั่วข้ามคืนแล้ว" จางหย่งเล่อเตือนเพื่อนรักด้วยความหวังดี
"ขอบใจข้ารู้ขอบเขต ไม่จำหน่ายในเมืองหลวงหรอกข้าจะส่งออกรอบๆหากเกิดปัญหาจะได้สาวไม่ถึง อีกหกวันจะเป็นวันเกิดผู้เฒ่าสวี บ้านเจ้าได้เทียบเชิญหรือไม่"
"ดูเหมือนจะได้ท่านอาสวีไค่ลู่บิดาของผู้พิพากษาสวีเป็นสหายท่านพ่อข้า ท่านแม่ไม่ชอบสังสรรค์ข้าอาจต้องไปคนเดียว แล้วเจ้าเล่าไปกับท่านปู่ฟางหรือบิดาเจ้าล่ะ"
"ข้าไปเจอท่านปู่กับท่านพ่อที่งานเลี้ยง ว่าจะไปกับเย่วเย่วนางเองก็ถูกสวีฮูหยินเชิญเช่นกัน พรุ่งนี้นางจะไปไหว้สุสานนอกเมืองอาจไปค้างหนึ่งคืนแล้วจึงกลับน่ะ"
"นางไปอย่างไร สตรีเดินทางลำพังไม่อันตรายหรือ บิดานางว่าไปช่างใจดำนักหลงอนุจนกระทั่งลืมบุตรตนเอง ซือหมิงข้าอยากเจอฉีเอ๋อร์"
"อย่าห่วงเย่วเย่วเลย สวีไค่เฉิงถูกสวีฮูหยินบังคับให้ไปเป็นเพื่อนนาง สองวันก่อนพี่สามเจ้ามาหาเรื่องกลางตลาดพร้อมหลินซวงเย่วเย่วฟาดหลินซงไปสองทีเนื้อแตกทีเดียว ใต้เท้าหลินไม่พอใจมาต่อว่าเย่วเย่วถึงบ้านนอกเมืองเห็นว่าตบหน้านางด้วย นี่เล่อเล่อคุณชายสวีต้องห่างเยี่ยอ๋องคนรัก อีกทั้งต้องอยู่ใกล้สตรีเจ้าว่าพวกเขาจะคลุ้มคลั่งตายหรือไม่"
ฟางซือหมิงคิดถึงภาพบุรุษคำนึงหาบุรุษอีกคนก็นึกขำ
"ลงแดงตายไปเถอะ พวกเขาสี่คนช่างเป็นคนที่ไม่ควรเข้าใกล้ นี่ซือหมิงราชครูหลี่อันตรายนัก หากพูดถึงความฉลาดเขาไม่ด้อยไปกว่าเยี่ยอ๋องเลย เป็นราชครูตั้งแต่อายุสิบห้าเท่านั้นจนตอนนี้ยี่สิบหกแล้วนับวันเขายิ่งคาดเดาไม่ได้ระวังตัวหน่อย ร้านหนังสือในเมืองส่วนมากเขาเป็นคนควบคุมดูแล ส่วนหนานกงมั่วคนนั้นคือคนที่น่ารังเกียจที่สุด ซือหมิงเจ้าแจ้งฉีเอ๋อร์หน่อยสะดวกให้ข้าเจอนางเมื่อไหร่"
"ได้ข้าจะบอกนางให้แต่ช่วงนี้อย่าเพิ่งเลยเยี่ยอ๋องเป็นคนฉลาด ข้าเกรงว่าออกมาปรากฏตัวบ่อยๆเขาจะจำนางได้สักวัน รอให้นางได้ใบหย่าก่อนค่อยคิดอีกที"
"หย่าหรือ นี่ไม่เท่ากับเป็นการตบหน้าอดีตจวนราชครูหรือ แม้ว่าท่านปู่ข้าจะเป็นแม่ทัพไม่เดินตามรอยบรรพบุรุษ แต่จวนข้าก็ยังคงเป็นจวนราชครูอยู่นะ"
"เฮ้อ เล่อเล่อใครใช้ให้ลุงของเจ้าตบหน้าตำหนักเหมยฮวาก่อนเล่า อีกอย่างน้องสามเจ้ามีความสามารถถูกขังแต่ในตำหนักเสียดายแย่ หากหย่าแล้วออกไปข้างนอกยังไปใช้ชีวิตสบาย"
"ตอนนี้ข้ามีปัญหากับหนานกงมั่ว เจอนางคราวหน้าดีกว่า คนๆนี้เจ้าคิดเจ้าแค้นไม่เลิกจ้องว่าข้าจะขยับตัวเมื่อไหร่ หากเขารู้เยี่ยอ๋องย่อมต้องรู้ ข้ากลับก่อนแล้ว ป่านนี้ลุงจูคงมารอแล้ว" จางหย่งเล่อบอกลาฟางซือหมิง
เดินมารอหน้าร้านแต่ยังไม่เห็นรถม้าของจวนนี่เข้าปลายยามเซินแล้วร้านค้าเริ่มปิดแล้ว จากร้านหนังสือไปถึงจวนใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วยามลุงจูไปไหน ก่อนจะเห็นรถม้าคุ้นเคยมาจอดเทียบ หนานกงมั่วหรือ เฮ้อนางไม่อยากเห็นหน้าแต่ต้องเจอ
ก่อนจะตัดสินใจเดินกลับจวนอาจเจอลุงจูกลางทาง คนในรถเลิกม่านขึ้น
"คุณหนูรอง ดูเหมือนรถม้าของเจ้าจะมีปัญหานะ มิสู้ให้ข้าไปส่งดีกว่าไหม"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านอ๋องเย็นชาและภรรยาแสนซน