แน่นอนว่า ไม่ใช่เพียงแค่สวีหลิงเอ๋อร์ที่ตกใจ ยังรวมถึงหลี่อวี้หวนและเฉินหย่าจือด้วย
เวลานี้ ชายฉกรรจ์ทั้งสิบนอนขดตัวเป็นลูกบอลอยู่บนพื้นและร้องโอดโอยออกมา
ในขณะที่เยี่ยอู๋เต้า ‘เศษสวะ’ ที่รูปร่างผอมบางกลับยืนตัวตรงและไม่ได้รับบาดเจ็บเลยสักนิด
ขณะนี้ ในใจของคนทั้งสามมีความสงสัยที่เหมือนกัน
ทำไมไอ้เศษสวะคนนี้ถึงได้มีฝีมือการต่อสู้ขนาดนี้!
ในเมื่อเขาสามารถต่อสู้ได้ดีขนาดนี้ แล้วในช่วงห้าปีที่ผ่านมา ทำไมเขาถึงได้ทนกล้ำกลืนความโกรธและไม่เคยลงมือเลย!
นี่คือเยี่ยอู๋เต้าที่พวกเขาเคยรู้จักมาห้าปีแล้ว ใช่หรือ
โดยเฉพาะเฉินหย่าจือที่หัวใจสั่นสะท้านที่สุด
แต่ก่อนเธอรังแกเยี่ยอู๋เต้าไม่น้อยเลย แต่เขาก็ไม่เคยตอบโต้
เฉินหย่าจือเชื่อมาตลอดว่าเป็นเพราะเยี่ยอู๋เต้าไม่สามารถเอาชนะเธอได้
ตอนนี้ดูเหมือนไม่ใช่แบบนั้นเลย เขาแค่ทำใจไม่ได้ที่จะทำร้ายเธอ
มิเช่นนั้นแล้ว ฝ่ามือเดียวของเขาก็อาจทำให้เธอถึงฆาตได้
ความรู้สึกเสียใจค่อยๆก่อเกิดภายในใจของเธอ เพราะรักจึงทนกล้ำกลืนถึงห้าปี ความรักนี้จะต้องลึกซึ้งขนาดไหนกัน
น่าเสียดายที่เธอเป็นคนทำหายไปด้วยตัวเอง
เยี่ยอู๋เต้าหยิบมีดสั้นออกมาแล้วโยนลงตรงหน้าชายฉกรรจ์สิบคน
“ใครตบแม่ของฉัน ใช้มือข้างไหน ก็ตัดทิ้งซะ”
“หากต้องบังคับให้ผมต้องลงมือ คงจะไม่ใช่แค่มือข้างเดียวหรอก”
หลี่อวี้หวนเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว ดวงตาของเธอมีหยดน้ำใสๆ ไหลรินออกมา
เธอจำไม่ได้ว่านานแค่ไหนแล้วที่ไม่มีใครปกป้องเธอแบบนี้
รวมถึงคนที่ใกล้ชิดที่สุดอย่างสวีต้าไห่ผู้เป็นสามีของเธอ
แต่ในเวลานี้ ‘ลูกเขย’ ที่ไร้ประโยชน์ที่เธอดูถูกที่สุดคนนี้ต้องการจะตัดมืออีกฝ่ายเพราะอีกฝ่ายตบเธอ
หากไม่ตื้นตัน ก็คงจะโกหก
กลิ่นอายสังหารของเยี่ยอู๋เต้าทำให้ชายฉกรรจ์ทั้งสิบตกใจกลัว พวกเขาส่งสายตาอ้อนวอนไปทางเฉินหย่าจือ
เฉินหย่าจือสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และระงับความตื่นเต้นในหัวใจของเธอ
“เยี่ยอู๋เต้า นายมันร้ายกาจนัก แต่ไม่ว่านายจะร้ายกาจแค่ไหนก็ไม่พ้นกฎหมายหรอกนะ”
“ฉันขอเตือนนายไว้เลยว่า โรงงานเหล็กติดหนี้บริษัทของฉัน วันนี้จะต้องชำระหนี้ทั้งหมด”
“ไม่เช่นนั้น พวกนายก็รอไปนอนในคุกเถอะ”
เมื่อมีการยกเรื่องกฎหมายมากล่าวอ้าง สวีหลิงเอ๋อร์และหลี่อวี้หวนก็รู้สึกหมดหวังอีกครั้ง
พลังต่อสู้แข็งแกร่งแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์!
คราวนี้ดีแล้ว ไม่เพียงแต่สวีหลิงเอ๋อร์จะติดคุก เยี่ยอู๋เต้าเองก็เลี่ยงไม่ได้เช่นกัน
เยี่ยอู๋เต้าเบี่ยงเบนความสนใจจากเหล่าชายฉกรรจ์ไปที่เฉินหย่าจือ
เขาโยนกล่องใส่นิรภัยที่มีเงินมัดจำล่วงหน้าห้าล้านให้เฉินหย่าจือ
“ผมคืนเงินให้คุณได้ แต่เกรงว่าคุณจะไม่กล้ารับ”
“เกรงว่าคุณจะต้องขอร้องให้พวกเราจัดหาของให้คุณอีกด้วย”
เฉินหย่าจืออดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาดัง ๆ
“อุ๊บ! นายทำให้ฉันรู้สึกขำเหลือเกิน ขอให้พวกนายจัดหาของให้เนี่ยนะ เว้นแต่โรงงานเหล็กทั้งโลกนี้ตายหมดเหอะ!”
“นายแน่ใจนะว่า ในกล่องนี้มีเงินอยู่จริง ข้างในคงไม่ใช่อิฐหรอกนะ”
“แค่สามแสนนายยังควักออกมาไม่ได้เลย จะควักเงินล้านออกมาได้ยังไงกัน”
สวีหลิงเอ๋อร์และหลี่อวี้หวนมองเยี่ยอู๋เต้าด้วยสายตาแปลกประหลาด
ไอ้หมอนี่หมายความว่าอย่างไร จงใจเล่นตลกหรือไง
ให้คนเขามาขอให้พวกตนจัดหาของให้ ช่างเป็นเรื่องตลกเสียนี่กระไร
แค่สามแสนเขายังควักออกมาไม่ได้เลย จะควักเงินล้านออกมาได้ยังไงกัน
ในขณะนั้นเอง โทรศัพท์มือถือของเฉินหย่าจือก็ดังขึ้น
ผู้ที่โทรมาคือผู้จัดการโครงการของบริษัทสถาปัตยกรรมฟังซื่อ
เฉินหย่าจือรับโทรศัพท์ “ผู้จัดการหลิว คุณมีธุระอะไรหรือคะ”
ผู้จัดการหลิวพูดอย่างหงุดหงิด “ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ๆ ทางตระกูลเสิ่นให้ทนายยื่นโนติสมาทางเรา”
“ตระกูลเสิ่นต้องการให้เราจัดการโครงการให้เสร็จภายในวันนี้ ไม่อย่างนั้นก็ไปเจอกันที่ศาล”
“ผมต้องการเหล็กจำนวนมาก คุณรีบจัดหามาให้สักล็อตหนึ่งที”
เฉินหย่าจือรีบรับปากอย่างง่ายดาย “ไม่มีปัญหาค่ะ”
หลังจากวางสาย เฉินหย่าจือก็โทรหาซัพพลายเออร์เหล็กทันที
“คุณจัง ช่วยรีบส่งเหล็กให้บริษัทฉันสักล็อตหน่อยสิ...”
“อะไรนะ โรงงานเหล็กของคุณถูกซื้อไปแล้ว งั้นก็วางสายเถอะ”
เป็นไปไม่ได้เลย คนที่ไม่สามารถหาสินสอดสามแสนได้ จะกว้านซื้อโรงงานเหล็กทั้งเมืองได้อย่างไรกัน
หรือว่าอาจจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญ แต่ความบังเอิญนี้มัน...ยากจะอธิบายจริงๆ
เฉินหย่าจือสงบสติอารมณ์ และพูดอย่างเย็นชา “คิดจะข่มขวัญกันหรือ ฝันไปเถอะ!
“อย่าลืมนะ ถ้าไม่ยอมร่วมมือ พวกนายก็ต้องคืนเงินมา”
“เท่าที่ฉันรู้ ตอนนี้โรงงานเหล็กมีแต่หนี้ จะเอาเงินที่ไหนมาคืนพวกฉันล่ะ”
“ถ้าไม่คืนเงินมา ก็เตรียมไปนอนในคุกได้”
เยี่ยอู๋เต้าเหลือบมองที่กล่องนิรภัย “เปิดดูสิ”
เฉินหย่าจือมองไปที่กล่องนิรภัย แล้วก็มองไปที่เยี่ยอู๋เต้า ฉับพลันนั้นเธอรู้สึกไม่มั่นใจขึ้นมา
ไอ้ขยะนี่คงจะไม่ได้มีเงินล้านจริงๆ หรอกมั้ง
เธอเปิดกล่องนิรภัยด้วยมือที่สั่นเทา
เงิน!
เงินหลายหลากสีสันซ้อนกองกันอยู่ในกล่อง
อย่างต่ำๆ ต้องมีห้าล้าน!
นี่มันสถานการณ์อะไรกัน!
สวีหลิงเอ๋อร์ตาค้างตะลึง ในขณะที่เฉินหย่าจือตัวสั่นมากยิ่งขึ้น
เขาเสกเงินห้าล้านมาได้จริงๆ!
เฉินหย่าจือแทบคลั่งแล้ว
หากห้าล้านนี้เป็นของเยี่ยอู๋เต้าจริงๆ เท่ากับว่าตนเองได้ขว้างสมบัติล้ำค่าทิ้งไป
ยิ่งไปกว่านั้น เป็นสวีหลิงเอ๋อร์ที่เก็บสมบัติล้ำค่านี้ได้
เธอไม่เคยรู้สึกเสียใจมากขนาดนี้
เยี่ยอู๋เต้าพูดอย่างเย็นชา “เอาเงินไปแล้วก็รีบออกไปจากที่นี่ซะ”
หลี่อวี้หวนที่มัวแต่ตกใจก็ได้สติขึ้นมา
เธอรีบวิ่งไปที่กล่องนิรภัย “เอาไปไม่ได้ พวกเราต้องคืนเธอแค่ล้านเดียว ในนี้อย่างต่ำๆ มีถึงห้าล้านนะ”
ใครจะไปรู้ได้ว่า เฉินหย่าจือจะกอดกล่องนิรภัยไว้แน่น “ไปให้พ้น นอกจากฉันแล้ว พวกเธอไม่มีสิทธิ์แตะต้องเงินนี้”
เยี่ยอู๋เต้าตะลึง
ผู้หญิงคนนี้คงจะไม่มาขอคืนดีกับเขาเพียงเพราะเงินห้าล้านนี่หรอกนะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านแม่ทัพที่รัก
โปรยแล้วหายเลย งท้อออ...
รออยู่นะค่ะ 🙏...