เยี่ยอู๋เต้าขมวดคิ้ว “เกิดอะไรขึ้นเหรอ พวกเขามาทำไมน่ะ”
สวีหลิงเอ๋อร์ “พวกเขาเป็นคนจากสำนักอุตสาหกรรมและการพาณิชย์”
“ปกติพวกเขาจะออกสุ่มตรวจทุกๆ สัปดาห์ ไม่นึกเลยว่าวันนี้จะเข้ามาที่โรงงานเหล็ก”
“ที่นี่เพิ่งจะมีการทะเลาะวิวาทกันเกิดขึ้น สถานที่ยุ่งเหยิงไปหมด ไม่รู้เลยว่าจะตรวจผ่านไหม”
เยี่ยอู๋เต้าปลอบใจ “ไม่ต้องกังวลไปนะ มีผมอยู่ ทุกอย่างจะไม่เป็นไร”
หากเข้าต้องการ เมืองหลินไห่ทั้งเมืองก็แค่สมบัติในกระเป๋าของเขา จะไปยี่หระอะไรกับพวกปลาเน่าไม่กี่ตัวในของสำนักอุตสาหกรรมและการพาณิชย์
สวีหลิงเอ๋อร์เบ้ปากไม่อยากจะเชื่อ เธอรีบเข้าไปต้อนรับผู้มาเยือน
เยี่ยอู๋เต้าไม่มีอะไรทำ เขาจึงเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อสูบบุหรี่
สูบไปได้ครึ่งมวน จู่ๆ ชายในชุดสูทก็เดินเข้ามา
เยี่ยอู๋เต้าจำได้คลับคล้ายคลับคลาเหมือนเขาจะมากับกลุ่มผู้นำของสำนักอุตสาหกรรมและการพาณิชย์”
ชายคนนั้นยืนปลดทุกข์อยู่หน้าโถปัสสาวะเป็นนานสองนาน แต่ไม่ว่าอย่างไร ก็ไม่มีปัสสาวะออกมาสักหยด
ใบหน้าของเขาแดงจนถึงหูแล้ว เหงื่อชุ่มเต็มไปหมด และส่งเสียงออกมาด้วยความทรมาน
เยี่ยอู๋เต้ารู้สึกอึดอัดไปกับเขาด้วย
“นี่เป็นอาการของนิ่วระยะร้ายแรง” เยี่ยอู๋เต้าคิดในใจ “หากไม่สามารถขับปัสสาวะออกมาได้ กระเพาะปัสสาวะอาจจะแตกจนตายได้”
เขาไม่ต้องการให้เกิดเรื่องที่โรงงานเหล็ก
ดังนั้นเขาจึงหยิบสิบสามเข็มตาข่ายสวรรค์ขึ้นมา และเดินตรงไปที่ชายชุดสูทคนนั้น
“อย่าเพิ่งขยับ” เยี่ยอู๋เต้ากล่าวขึ้น “ผมจะช่วยสลายก้อนนิ่วให้”
ชายในชุดสูทตกใจ “เดี๋ยวๆ นายจะทำอะไรน่ะ หยุดนะ...”
แม้แต่หมอในโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงต่างๆ ยังไม่สามารถช่วยเขารักษาโรคนิ่วได้ แค่เข็มเงินไม่กี่เล่ม ล้อเล่นอะไรกัน
แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะพูดจบ เยี่ยอู๋เต้าก็ได้ลงมือแล้ว
เข็มเงินแทงทะลุผ่านหลังส่วนล่างและเจาะเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะของเขา
ชายในชุดสูทแผดเสียงออกมา “ทำไมฉันต้อง...”
แต่หลังจากอ้าปากด่าไปได้เพียงครึ่งเดียว เขาก็หยุด
เสียงด่าทอถูกแทนที่ด้วยเสียงน้ำไหล และเสียงสูดปากบ่งบอกถึงความสบาย
ชายในชุดสูทเห็นก้อนหินแตกๆ เล็กๆ จำนวนมากถูกขับออกมากับปัสสาวะ
ตอนนี้ เขาหลั่งน้ำตาด้วยความตื่นเต้น
โรคนิ่วที่รบกวนเขามาถึงห้าปีและทำให้เขาต้องทนทุกข์ทรมานนับครั้งไม่ถ้วน ได้รับการรักษาให้หายแบบนี้!
ปาฏิหาริย์ มันคือปาฏิหาริย์
ฉันได้พบกับเทวดาตัวเป็นๆ!
ชายในชุดสูทตื่นเต้นและคิดจะพุ่งเข้ามาจับมือเยี่ยอู๋เต้า แต่เยี่ยอู๋เต้ากลับตวาดใส่เขา “ไปล้างมือ”
เมื่อสักครู่ที่เขาได้ปลดปล่อยออกมา ปัสสาวะเยอะมากจะเลอะมือของเขา
ชายในชุดสูทยิ้มเจื่อน เขารีบหยิบนามบัตรของเขาออกมา “ท่านหมอเทวดา นี่เป็นนามบัตรของผม โปรดรับไว้ด้วยครับ”
“ผมชื่อหลิวต้าเชียน เป็นผู้อำนวยการสำนักอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ หากคุณมีอะไรให้ช่วยก็บอกได้เลย
เยี่ยอู๋เต้าไม่ได้พูดต่อ เขาเหลือบเห็นสัญลักษณ์หัวหมาป่าที่ข้อมือ
“คุณเคยเป็นทหารของเฮยจือเหรอ”
รูม่านตาของหลิวต้าเชียนหดลงทันที มือทั้งสองข้างสั่นสะท้าน
ชายหนุ่มคนนี้เป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์มาจากที่ไหนกัน ถึงได้กล้าเรียกชื่อท่านนั้นว่า ‘เฮยจือ’ ตรงๆ
หลิวต้าเชียนตอบตะกุกตะกัก “ครับ ผม...ผมเคยอยู่ภายใต้สังกัดของหมาป่าดำ”
“ขอโทษนะครับ คุณคือ...”
เยี่ยอู๋เต้าหันหลังเดินจากไปโดยไม่ได้หยิบนามบัตร “เยี่ยอู๋เต้า หนึ่งอธรรมผู้พิชิตหมื่นธรรมะ”
อะไรนะ!
ตึง!
หลิวต้าเชียนคุกเข่าลงกับพื้นโดยไม่รู้ตัว
เยี่ยอู๋เต้า บุรุษผู้เป็นตำนาน เทพสงครามผู้ไร้เทียมทานที่เคยนำกองทัพนับพันกวาดล้างเก้าอาณาจักร...
นี่เขาได้เจอกับผู้สูงศักดิ์!
แค่มาปลดทุกข์กลับได้เจอเทพผู้พิทักษ์ประเทศ น่าตื่นตาจริงๆ!
เยี่ยอู๋เต้ากลับมาหาสวีหลิงเอ๋อร์ที่ตอนนี้มีสีหน้าย่ำแย่และดูสิ้นหวัง
“เฮ้อ จบกัน เมื่อสักครู่พวกเขาพบปัญหามากมาย โรงงานเหล็กคงจะต้องปิดทำการชั่วคราวเพื่อแก้ไข”
“หากออเดอร์ของตระกูลเสิ่นล่าช้า พวกเราก็ต้องแบกรับผลที่ตามมาด้วย”
เยี่ยอู๋เต้าตบไหล่เธอเบาๆ “ไม่ต้องกังวลไป ไม่มีอะไรหรอก”
สวีหลิงเอ๋อร์ถอนหายใจ “คุณไม่ต้องปลอบฉันก็ได้”
“ฉันติดต่อกับพวกเขามาห้าหกปีแล้ว ฉันเข้าใจลักษณะการทำงานของพวกเขาดี”
ในเวลานี้ หลิวต้าเชียนก็เดินออกมาจากห้องน้ำเช่นกัน
เขาโบกมือ คนของเขาก็รีบรุมล้อมเขา
เขาพูดสั้นๆ ไม่กี่คำ จากนั้นก็พาคนของเขาไปที่รถและจากไป
“ฉันได้ทำตามที่คุณสั่งแล้ว ฉันได้ตั้งให้ว่าที่ลูกเขยของลุงใหญ่ของสวีหลิงเอ๋อร์เป็นหัวหน้าส่วนสำนักอุตสาหกรรมและการพาณิชย์แล้วค่ะ”
ฟังจงซิ่นยิ้มด้วยความพึงพอใจ
เท่าที่เขารู้ ครอบครัวของสวีหลิงเอ๋อร์กลัวลุงใหญ่ของเธอมาก และเชื่อฟังเขาทุกอย่าง”
หากลุงใหญ่ออกโรงบีบบังคับให้สวีหลิงเอ๋อร์แต่งงานกับเขา โอกาสที่สวีหลิงเอ๋อร์จะต้องยอมมีสูงมาก
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงทำข้อตกลงกับลุงใหญ่ของสวีหลิงเอ๋อร์
เขาผลักดันให้ว่าที่ลูกเขยของลุงใหญ่เป็นหัวหน้าส่วนสำนักอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ ในทางกลับกัน ลุงใหญ่จะต้องบังคับให้สวีหลิงเอ๋อร์หมั้นกับเขาในคืนนี้
หากสวีหลิงเอ๋อร์ไม่ยอม ลุงใหญ่จะให้ว่าที่ลูกเขยสั่งปิดโรงงานเหล็กของเธอ
แผนการในคืนนี้ บอกได้เลยว่าจะต้องไม่พลาด
......
ในตอนเย็น สวีหลิงเอ๋อร์ได้รับโทรศัพท์จากลุงใหญ่ของเธอ
ลูกเขยของลุงใหญ่ได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าส่วนสำนักอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ จึงเชิญเธอและเยี่ยอู๋เต้าไปร่วมงานเลี้ยงฉลอง
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของสวีหลิงเอ๋อร์ก็เป็นประกาย เธอตอบตกลง
หลังจากที่เธอวางสาย เธอพูดกับเยี่ยอู๋เต้า “ฉันรู้แล้วว่าทำไมอุตสาหกรรมและพาณิชย์ถึงไม่ถามหาความรับผิดชอบของโรงงานเหล็กในวันนี้”
เยี่ยอู๋เต้า “ทำไม”
สวีหลิงเอ๋อร์ “ลูกเขยของลุงใหญ่ของฉันได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าส่วนสำนักอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ คนในนั้นคงจะเห็นแก่หน้าเขาไม่เอาเรื่องเอาราว”
เยี่ยอู๋เต้าพูดไม่ออก
วันนี้หลิวต้าเชียนผู้อำนวยการสำนักอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ออกโรงเอง หากเขาเห็นแก่หน้าของหัวหน้าแผนกเล็กๆ คงจะบ้าไปแล้ว
ที่หลิวต้าเชียนยอมปล่อยสวีหลิงเอ๋อร์ไปเป็นเพราะเขารู้สึกขอบคุณที่ตนเองรักษาโรคให้ต่างหากเล่า
สวีหลิงเอ๋อร์พูดต่อว่า “ไปกันเถอะ ไปงานเลี้ยงฉลองกัน ฉันอยากจะขอบคุณครอบครัวของลุงด้วย”
เยี่ยอู๋เต้าขมวดคิ้ว “ลุงใหญ่ให้ผมไปด้วยหรือ”
สวีหลิงเอ๋อร์พยักหน้า “ใช่ ลุงใหญ่เจาะจงชื่อคุณให้ไปด้วย”
เยี่ยอู๋เต้าครุ่นคิด
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ลุงใหญ่ไม่เคยเห็นด้วยกับการแต่งงานของเขากับสวีหลิงเอ๋อร์ ทำไมถึงได้ให้เขาไปร่วมงานด้วยล่ะ
ดูท่าแล้ว งานเลี้ยงในครั้งนี้อาจจะเป็น ‘งานเลี้ยงที่หงเหมิน’
“หวังว่าคราวนี้พวกเขาคงไม่เล่นงานผมหรอกมั้ง” เยี่ยอู๋เต้าถอนหายใจ “ไม่อย่างนั้น ผมก็ไม่รังเกียจที่จะส่งพวกเขาทั้งบ้านไปสวรรค์หรอกนะ”
ลุงใหญ่ขัดขวางเขาหลายครั้งแล้ว เขาชักไม่อยากจะอดทนแล้ว
เยี่ยอู๋เต้าแอบส่งข้อความให้ ‘กูหลัง’ เผื่อไว้!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านแม่ทัพที่รัก
โปรยแล้วหายเลย งท้อออ...
รออยู่นะค่ะ 🙏...