ท่านแม่ทัพที่รัก นิยาย บท 11

ระหว่างทาง สวีหลิงเอ๋อร์ก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อแม่ของเธอ

สวีต้าไห่กล่าวว่า “หลิงเอ๋อร์ หรือว่าพวกเราไม่ควรให้เยี่ยอู๋เต้าไปงานเลี้ยง”

สวีหลิงเอ๋อร์รู้สึกประหลาดใจ “ทำไมล่ะคะ”

สวีต้าไห่ถอนหายใจ “เฮ้อ ลูกเขยของลุงใหญ่แม้ยังหนุ่มก็มีความสามารถได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าส่วนงานอุตสาหกรรมและการพาณิชย์แล้ว”

“ส่วนเยี่ยอู๋เต้าเป็นแค่พนักงานตัวเล็กๆ ที่ทำงานอยู่กับลูก พูดให้น่าเกลียดหน่อยก็เกาะลูกกินนั่นแหละ”

“หากเอาทั้งสองคนมาเปรียบเทียบกัน มีหวังคงจะถูกญาติๆ หัวเราะเยาะ จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

สวีหลิงเอ๋อร์สีหน้าลำบากใจ “แต่ลุงใหญ่เจาะจงชื่อของเขาเลยนะคะ หากเขาไม่ไป แล้วลุงโกรธ จะทำยังไงคะ”

สวีต้าไห่เงียบขรึมทันที

ไม่นานนัก เขาก็ถอนหายใจออกมา “ช่างเถอะ งั้นก็ให้เขาไป เห็นแก่หน้าลุงใหญ่ของลูกด้วย”

หลังจากวางสาย สวีหลิงเอ๋อร์ก็เหลือบมองเยี่ยอู๋เต้า

เธอเองก็ชักไม่อยากให้เยี่ยอู๋เต้าไปแล้ว

สวีลี่ลี่ ลูกสาวของลุงใหญ่มักชอบเปรียบเทียบตัวเองกับเธออยู่เสมอ แต่ก็ไม่เคยเทียบเธอได้

แต่คราวนี้ สวี่ลี่ลี่ได้ว่าที่สามีเป็นหัวหน้าแผนก คงกดหัวเธอได้ง่ายขึ้น เดี๋ยวคงต้องเอาเรื่องนี้มาโอ้อวดอย่างแน่นอน

ยิ่งลุงใหญ่เจาะจงบอกให้เยี่ยอู๋เต้าไปด้วย ไม่ใช่ว่าจะใช้โอกาสนี้เยาะเย้ยเธอหรอกเหรอ

แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว

จากนั้นจึงมองไปที่เยี่ยอู๋เต้าที่นั่งหลับฝันหวานอยู่บนที่นั่งข้างคนขับ

สวีหลิงเอ๋อร์ส่ายหัวอย่างเหนื่อยหน่าย “ไม่ทุกข์ไม่ร้อนเลย สบายจริงๆ”

ทั้งสองมาถึงโรงแรมรอยัลที่เป็นจุดหมายปลายทางอย่างรวดเร็ว

ห้องวีไอพีสุดหรูเต็มไปด้วยผู้คน

ลุงใหญ่ไม่ได้เชิญแค่ครอบครัวของสวีหลิงเอ๋อร์ ยังเชิญญาติกลุ่มใหญ่มาด้วย

ขนาดของงานเลี้ยงไม่น้อยกว่างานแต่งงานย่อมๆ เลย

สวีลี่ลี่ ลูกสาวของลุงใหญ่และแฟนของเธอโดดเด่นที่สุดในงาน พวกเขานั่งอยู่ในตำแหน่งหัวโต๊ะ

พวกป้าๆ กำลังง่วนอยู่กับการแสดงความยินดีกับครอบครัวของลุงใหญ่จนไม่มีใครสังเกตเห็นสวีหลิงเอ๋อร์และเยี่ยอู๋เต้าที่เพิ่งเข้ามา

“หันเฟิงน่าทึ่งมาก ยังหนุ่มยังแน่นก็ได้เป็นหัวหน้าส่วนแล้ว อนาคตต้องสดใสแน่นอน”

“ลี่ลี่หาสามีได้ดี สมกันอย่างกับกิ่งทองใบหยกเลยจ้ะ”

“เสี่ยวหัน ลูกชายของป้าใกล้จะเรียนจบแล้ว หลานเป็นพี่เขยต้องรบกวนช่วยเขาหน่อยนะ”

ใบหน้าของสวีลี่ลี่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ หันเฟิงเสแสร้งตอบกลับอย่างอ่อนน้อม อบอวลไปด้วยความสุข

นี่ทำให้สวีหลิงเอ๋อร์ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในใจคิดว่าจะดีที่สุดหากไม่มีใครสนใจพวกเขา

แต่ยิ่งกังวลกับอะไร สิ่งนั้นก็ยิ่งจะเข้ามาหา

จู่ๆ สวีลี่ลี่ก็พูดอย่างกระตือรือร้นว่า “พี่หลิงเอ๋อร์ ไม่รู้ว่าแฟนพี่คนใหม่นี้ทำอาชีพอะไร”

ทันทีที่เธออ้าปาก ผู้คนก็มุ่งความสนใจไปที่เยี่ยอู๋เต้าและสวีหลิงเอ๋อร์ทันที

สวีหลิงเอ๋อร์ตอบตะกุกตะกัก “เขา...เขาเป็นพนักงานในโรงงานของฉัน”

สวีลี่ลี่พูดติดตลกว่า “ที่แท้ก็ทำงานให้พี่ พูดตรงๆ คือเกาะพี่กินงั้นสิ”

ฮ่าฮ่าฮ่า!

มีเสียงหัวเราะดังขึ้น

สวีหลิงเอ๋อร์รู้สึกอึดอัดอย่างที่สุด

เมื่อหัวเราะกันเสร็จแล้ว สวีลี่ลี่ก็พูดอีกว่า “พี่ อย่าโกรธเลยนะ ฉันก็แค่ล้อเล่นเท่านั้นเอง”

“พนักงานในโรงงานเล็กๆ ไม่มีอนาคตหรอก หรือว่าจะให้หันเฟิงช่วยแนะนำงานดีๆ ให้พี่เขยของเราหน่อย”

หันเฟิงทำสีหน้าลำบากใจ “ลี่ลี่ อย่าทำให้ผมลำบากใจสิ”

“ผมได้ยินมาว่าพี่เขามีประวัติไม่ค่อยดี รับราชการไม่ได้หรอก”

สวีลี่ลี่ ‘นึกขึ้นได้ทันใด’ และพูดว่า “จริงด้วยสิ ฉันลืมไปได้ยังไงว่าพี่เขยเคยอยู่ในคุกตั้งห้าปี”

โอ้ววว!

เกิดความโกลาหลไปทั่ว

แฟนของสวีหลิงเอ๋อร์เป็นคนขี้คุก ข่าวนี้ค่อนข้างน่าตกใจ

เมื่อเทียบแฟนของสวีหลิงเอ๋อร์กับแฟนของสวีลี่ลี่ มันช่างต่างกันราวฟ้ากับดิน

แม้ว่าญาติพี่น้องจะไม่พูดอะไรต่อหน้า แต่แววตาที่พวกเขามองมาก็เพียงพอที่จะฆ่าคนให้ตายได้

เวลานี้ ทั้งสวีต้าไห่และหลี่อวี้หวนต่างไม่กล้าเงยหน้าขึ้นแล้ว

ตอนที่ถูกล็อก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านแม่ทัพที่รัก