“ผม แต่ผมยังติดหนี้…อ๊า! พี่เซี่ย! พี่เซี่ย! โปรดเมตตาผมด้วย! ผมผิดไปแล้ว!”
เมื่อสวีเซี่ยงจวินได้ยินว่าอวี้ฮ่าวหรานจะพาเขากลับไปหาลูกสาว เขาก็พยายามอธิบายว่าทำไมเขาถึงกลับไปไม่ได้ แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบ สายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นคนแซ่เซี่ยที่กำลังเดินตามเข้ามา ซึ่งมันทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนหวาดผวาในทันที!
“เอ่อ…ฉัน…”
คนแซ่เซี่ยเมื่อเห็นอาการนี้ของสวีเซี่ยงจวิน เขาเองก็ทำอะไรไม่ถูก เขาเพิ่งนึกได้ว่าก่อนหน้านี้เขาเคยขู่ไปว่าจะตัดมือฝั่งตรงข้ามทิ้งหากไม่ยอมจ่ายหนี้มา แต่ตอนนี้สถานการณ์ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปหมดแล้ว
ตอนนี้เขาอยากจะทำให้อวี้ฮ่าวหรานพึงพอใจ แต่การที่สวีเซี่ยงจวินแสดงท่าทางกลัวเขาจนแทบจะฉี่ราดแบบนี้มันอาจทำให้อวี้ฮ่าวหรานไม่พอใจเขาได้จริงไหม?
“อะแฮ่ม ๆ พี่สวี ใจเย็น ๆ ก่อน วันนี้ฉันไม่ได้มาทวงหนี้ ฉันมาที่นี่เพื่อมาบอกว่าหนี้ทั้งหมดฉันยกให้พี่ไม่ต้องจ่ายฉันแล้ว หากฉันผิดคำพูดนี้พี่เรียกฉันว่าหลานได้เลย!”
เพื่อทำให้อวี้ฮ่าวหรานพึงพอใจ คนแซ่เซี่ยรีบเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเป็นมิตรกับสวีเซี่ยงจวินทันที
ในเวลาเดียวกันเขาภาวนาอยู่ในใจขอให้สวีเซี่ยงจวินไม่กลัวจนหลุดเอ่ยถึงคำขู่ต่าง ๆ นานาที่เขาเคยขู่เอาไว้ เพราะนั่นมันน่าจะทำให้อวี้ฮ่าวหรานเดือดขึ้นมาแน่ ๆ
“พี่เซี่ยได้โปรด…หะ?”
สวีเซี่ยงจวินที่กำลังพยายามอ้อนวอนอยู่หยุดคำพูดของตัวเองลงกลางคันด้วยสีหน้างุนงงทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของคนแซ่เซี่ย
นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
ทำไมจู่ ๆ วันนี้เจ้าหนี้แสนโหดคนนี้ถึงยกหนี้ให้เขาแถมยังเรียกเขาว่า ‘พี่’ แบบให้เกียรติอีกต่างหาก?
“ลุกขึ้นแล้วตามฉันมาเร็วนี่มันสายมากแล้ว เดี๋ยวนายยังต้องไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่อีก ฉันไม่มีเวลามากนัก”
อวี้ฮ่าวหรานพอจะเข้าใจกับสีหน้าโง่งมของฝั่งตรงข้าม แต่ถ้าจะให้อธิบายทุกอย่างตอนนี้มันก็คงยืดยาวและซับซ้อนเกินไป ดังนั้นเขาจึงอยากทำให้ทุกอย่างมันง่ายขึ้นโดยการพาฝั่งตรงข้ามไปเจอกับสวีรุ่ย แล้วจากนั้นค่อยให้สวีรุ่ยเป็นคนอธิบายจะดีกว่า
แน่นอนว่าสวีเซี่ยงจวินไม่ค่อยเชื่อใจทั้งอวี้ฮ่าวหรานและคนแซ่เซี่ยสักเท่าไหร่ เพราะเรื่องราวทั้งหมดมันน่าเหลือเชื่อเกินไป เขาคิดกระทั่งว่านี่มันอาจจะเป็นแผนการหลอกพาเขาไปทำเรื่องน่ากลัวก็ได้
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าเขาจะกลัวและไม่อยากไปแค่ไหน แต่เมื่อเขามองคนจำนวนมากที่มากับคนแซ่เซี่ย เขาก็รู้ดีว่าเขาปฏิเสธอะไรไม่ได้ดังนั้นเขาจึงเดินตามไปที่รถด้วยสีหน้ากังวลใจ
หลังจากกลับเข้าไปในเมือง อวี้ฮ่าวหรานก็พาสวีเซี่ยงจวินไปที่โรงแรมที่อยู่ใกล้กับโรงเรียนอนุบาลแล้วเปิดห้องชั่วคราวเพื่อให้ฝั่งตรงข้ามได้อาบน้ำและแต่งตัวใหม่ด้วยชุดที่เขาสั่งให้คนแซ่เซี่ยออกไปซื้อมา
ไม่นานหลังจากนั้น สภาพของสวีเซี่ยงจวินก็ดูเหมือนคนธรรมดาปกติทั่วไป
อย่างไรก็ตาม สวีเซี่ยงจวินก็ยังคงไม่กล้าสบตากับใครอยู่ดีเพราะความหวาดกลัว
จู่ ๆ เจ้าหนี้จะทำดีกับเขาแบบนี้ได้ยังไง?
เขาไม่เชื่อว่าเรื่องทั้งหมดนี้มันคือความตั้งใจดีของฝั่งตรงข้าม คนพวกนี้ต้องมีแผนการอะไรบางอย่างแน่นอน!
อวี้ฮ่าวหรานยังคงสังเกตเห็นแววตาที่ไม่เชื่อมั่นของสวีเซี่ยงจวิน อยู่เช่นเดิม แต่เขาเองก็ไม่ได้สนใจมัน เขารอเวลาจนโรงเรียนใกล้เลิก จากนั้นเขาจึงพาสวีเซี่ยงจวินไปยืนรอที่หน้าโรงเรียนอนุบาล
ในขณะที่อวี้ฮ่าวหรานกับสวีเซี่ยงจวินเดินไปถึงหน้าโรงเรียน มันก็เป็นเวลาเลิกเรียนพอดี ผู้ปกครองของเด็กทั้งหลายต่างมายืนรอที่หน้าโรงเรียนเป็นจำนวนมาก ส่วนเด็ก ๆ ต่างก็เริ่มทยอยกันออกมาจากโรงเรียนซึ่งนำโดยบรรดาคุณครู…
สวีรุ่ยเดินนำบรรดานักเรียนออกมาก่อน เมื่อเธอเห็นอวี้ฮ่าวหรานอยู่คอยอยู่ด้านนอกประตูโรงเรียนเธอก็รู้สึกเบิกบานอยู่ในใจ แต่ในทันทีที่เธอสังเกตเห็นชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ อวี้ฮ่าวหราน สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นแข็งค้าง
นั่นมันพ่อของเธอนี่นา!
คำพูดนี้ตะโกนลั่นขึ้นในใจของเธอ!
ก่อนหน้านี้ไม่ว่าเธอจะเผชิญกับความยากลำบากที่พ่อของเธอทิ้งเอาไว้ให้ขนาดไหน เธอก็ไม่เคยหยุดเป็นห่วงพ่อของเธอได้เลย เธอยังจำได้ถึงวันก่อนที่พ่อเธอจะหนีไป… ตอนนั้นพ่อของเธอคุกเข่าขอโทษเธอด้วยน้ำตา
เหตุการณ์ในวันนั้นเธอจำได้อย่างแม่นยำ เพราะมันเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดใจจนนอนไม่หลับทั้งคืน ซึ่งวันถัดไปพ่อเธอก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
“พ่อ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸]