ในตอนนี้พนักงานทุกคนในบริษัทรู้กันหมดแล้วว่าเขากำลังพยายามสร้างสวนสนุกในร่มให้ดีที่สุดเพื่อให้ทุกคนในบริษัทได้ใช้มัน ดังนั้นบรรดาพนักงานทั้งหลายที่กังวลเรื่องความปลอดภัยของลูกๆ ตัวเองเวลาอยู่ที่บ้านตามลำพังจึงเลือกที่จะพาลูกๆ ของพวกเขามาที่นี่เพื่อมาเล่นสนุก จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องลูกเหมือนแต่ก่อน
นี่มันตรงกับคำพูดที่ว่ายิงนัดเดียวแต่ได้นกหลายตัว
“ไม่ว่าผมจะเห็นภาพนี้สักกี่ทีผมก็อดไม่ได้ที่จะนึกชื่นชมท่านประธานอยู่ตลอดเวลา ท่านประธานช่างเป็นคนที่มองการณ์ไกลเหนือกว่าคนทั่วไปจริงๆ! เฮ้อ…ไม่เหมือนกับผมที่วันๆ เอาแต่มองแค่บัญชีรายรับรายจ่ายของบริษัทและมักตั้งคำถามกับการตัดสินใจของประธานอยู่เสมอๆ”
ผู้จัดการหวังเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าชื่นชมก่อนที่จะถอนหายใจกับความสามารถของตัวเอง
ในตอนแรกเขาคิดว่าการก่อสร้างสวนสนุกของบริษัทมันมีแต่จะทำให้บริษัทต้องเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ แต่พอมาเห็นผลลัพธ์ในตอนนี้เขาก็รู้แล้วว่าผลประโยชน์หลังจากสร้างมันนั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าที่เขาจะจินตนาการได้!
“เหตุผลที่บริษัทของเราสามารถเรียกความเชื่อมั่นจากเหล่าพนักงานได้อย่างรวดเร็วและทำให้ทุกคนมีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการทำงาน เป็นเพราะพวกพนักงานสามารถพาลูกๆ มาที่บริษัท ซึ่งทำให้พวกเขาหมดเรื่องกังวลที่สำคัญนี้ในใจ”
ยิ่งพูดผู้จัดการหวังก็ยิ่งรู้สึกชื่นชมเจ้านายของเขา ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนวิธีนี้มันก็มหัศจรรย์เกินกว่าที่ใครจะคิดออก
“เอาล่ะ พวกเราไปดูที่อื่นกันต่อเถอะ”
อวี้ฮ่าวหรานไม่อยากจะพูดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้สักเท่าไหร่เพราะความตั้งใจแรกของเขาในการสร้างสวนสนุกนี้คือเพื่อถวนถวนเป็นหลัก ส่วนเรื่องความสุขของพนักงานนั้นถึงแม้ว่าเขาจะคาดการณ์เอาไว้อยู่แล้วว่ามันจะต้องออกมาในลักษณะนี้… แต่มันก็เป็นแค่ผลพลอยได้เท่านั้น!
“ว้าว ดูสิ ท่านประธานอวี้มาดูพวกเราด้วยแหละ!”
พนักงานหญิงหลายคนรีบซุบซิบกันด้วยสีหน้าตื่นเต้น
“สวัสดีตอนบ่ายค่ะ ท่านประธานอวี้!”
“สวัสดีครับท่านประธานอวี้!”
ในระหว่างที่เดินต่อไป พนักทุกคนล้วนทักทายอวี้ฮ่าวหรานอย่างกระตือรือร้น สีหน้าของพวกเขาล้วนเต็มไปด้วยความเคารพและเชิดชู
ภาพนี้ทำให้อวี้ฮ่าวหรานรู้สึกสบายใจมากขึ้นเพราะมันหมายความว่าเขาเอาชนะใจคนในบริษัทของเขาได้แล้ว
“อย่ามองว่าท่านประธานของเราอายุน้อยแล้วจะไม่มีความสามารถเชียวล่ะ ท่านประธานมาอยู่กับเรายังไม่ถึง 2 เดือนด้วยซ้ำแต่ตอนนี้ด้วยแผนการของเขามันก็ทำให้บริษัทของเราเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าที่เคยเป็นมาซะอีก!”
“ใช่เลย! ความสามารถในการบริหารของประธานจัดได้ว่าสุดยอดมากๆ เขาใช้เวลาเพียงไม่เท่าไหร่ก็ควบรวมหลายบริษัทเข้ากันได้เป็นปึกแผ่น! เมื่อเทียบกับท่านประธานแล้ว แฟนของฉันดูไร้ค่าไปเลย”
“บอกเลย! ถ้าฉันยังโสดอยู่แล้วมีโอกาสจะได้แต่งงานกับเขาต่อให้ต้องเสียสินสอดทองหมั้นเท่าไหร่ฉันก็ยอม! น่าเสียดายจริงๆ ที่ฉันดันแต่งงานมีลูกไปซะแล้ว!”
“…”
ถึงแม้ว่าเหล่าพนักงานหญิงทั้งหลายจะซุบซิบกันเสียงเบามาก แต่อวี้ฮ่าวหรานก็ได้ยินที่พวกเธอคุยกันทั้งหมดเพราะร่างเทวะทำให้เขามีประสาทสัมผัสที่เหนือมนุษย์ในทุกๆ ด้าน
ฮิฮิ สาวๆ นี่มัน…
เขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเบาๆ เขาไม่คิดเลยว่าหลังจากไปสร้างความวินาศสันตะโรที่ดินแดนแห่งเทพมานานกว่าสามหมื่นปี พอกลับมาที่โลกมนุษย์เขากลับกลายเป็นไอดอลของหญิงสาวพวกนี้ไปซะได้
เรื่องนี้น่าสนใจจริงๆ
หลังจากกลับไปถึงออฟฟิศของตัวเอง อวี้ฮ่าวหรานยังคงให้ผู้จัดการหวังอยู่คุยกันต่อก่อน
“ผู้จัดการหวัง คุณไปเอารายงานสรุปผลกำไรล่าสุดของบริษัทมาให้ผมดูที ผมอยากรู้ว่าตอนนี้กำไรของบริษัทอยู่ที่เท่าไหร่”
แม้ว่าดูเหมือนว่าประสิทธิภาพการดำเนินงานของเครือฮ่าวหรานจะสูงกว่าของบริษัทชงซานก่อนหน้านี้มาก แต่ถ้าจะนับความสำเร็จจริงๆ มันต้องวัดกันที่ผลกำไรเป็นหลักสำคัญ
ผ่านไปครู่หนึ่ง ผู้จัดการหวังก็เดินกลับมาพร้อมกับแฟ้มเล่มหนึ่ง แต่สีหน้าของเขาในเวลานี้ยิ้มแย้มมากกว่าตอนที่ออกไปหยิบมาเมื่อครู่ซะอีก
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมคุณถึงยิ้มแบบนั้น?”
อวี้ฮ่าวหรานเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย
“ท่านประธาน ก่อนหน้านี้ผมเอาแต่ยุ่งอยู่กับการจัดการเรื่องอื่นๆ ในบริษัทจนลืมตรวจสอบผลกำไรของบริษัทไปเหมือนกัน ดังนั้นผมเองก็เพิ่งเห็นรายงานผลกำไรล่าสุดฉบับนี้วันนี้เนี่ยแหละ! เอาเป็นว่าท่านประธานลองดูมันด้วยตาตัวเองก่อนดีกว่า ผมอยากให้ท่านประหลาดใจเหมือนกับผม!”
เมื่อพูดจบ ผู้จัดการหวังวางแฟ้มที่ด้านในมีแผ่นกระดาษอยู่ 2-3 แผ่นลงบนโต๊ะทำงานของอวี้ฮ่าวหราน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸]