“อืม นายคงมุ่งอยู่แต่กับเรื่องทำธุรกิจจนไม่ได้สนใจข้อมูลเกี่ยวกับพวกแก๊งต่าง ๆ ในเมืองสินะ แต่ก็ไม่แปลก เอาเป็นว่าถ้านายไม่รู้ งั้นฉันจะเล่าให้ฟังคร่าว ๆ ก็แล้วกัน”
จากนั้น โจวเฟยหู่ก็บอกข้อมูลทุกอย่างที่สำคัญในโลกใต้ดินของเมืองฮ่วยอันให้ฟังแบบคร่าว ๆ และปิดท้ายด้วยการบอกข่าวที่น่ากังวลใจในตอนนี้
“ตอนนี้แก๊งฉลามคลั่งร่วมมือกับหลิ่วอวี้จิงแล้ว และตอนนี้พวกมันเริ่มที่จะโจมตีแก๊งของฉันแล้วด้วย!”
ปัญหานี้กวนใจโจวเฟยหู่มาหลายวัน และเขาก็ไม่สามารถแก้มันได้ด้วยตัวเอง
ความขัดแย้งระหว่างเขาและอีกฝ่ายนับวันชักเริ่มจะหนักข้อขึ้นเรื่อย ๆ หลายวันที่ผ่านมา แก๊งวาฬยักษ์และแก๊งฉลามคลั่งเปลี่ยนแผนของตัวเองจากที่ในตอนแรกนิ่งเฉยรอเป็นฝ่ายรับอย่างเดียว ตอนนี้กลับกลายเป็นฝ่ายเริ่มโจมตีไปเรื่อย ๆ อย่างไม่กลัวอะไรทั้งนั้น
อย่างไรก็ตาม ยังโชคดีที่แก๊งวาฬยักษ์และแก๊งฉลามคลั่งยังไม่เปิดการโจมตีเต็มรูปแบบ ไม่เช่นนั้นแก๊งพยัคฆ์เวหาคงเสียหายอย่างร้ายแรงไปแล้ว
ด้วยความต่างของจำนวนคน มันจึงไม่มีโอกาสเลยที่โจวเฟยหู่จะต้านทานได้นาน
อวี้ฮ่าวหรานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งหลังจากฟังจบ จากนั้นเขาก็เอ่ยขึ้นว่า “ในเมื่อฝั่งนั้นร่วมมือกันไปแล้วเราคงแก้ไขอะไรไม่ได้ เอาเป็นว่าจากนี้หากมีการปะทะกันหนัก ๆ โทรมาหาฉัน ฉันจะไปช่วยทันทีเมื่อถึงเวลา”
อวี้ฮ่าวหรานจำเป็นต้องช่วยเหลืออีกฝ่าย ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่สามารถปล่อยให้แก๊งพยัคฆ์เวหาถูกกำจัดได้ เขายังจำเป็นต้องให้คนเหล่านี้ช่วยงานในหลาย ๆ อย่าง
“นี่นายตกลงจะช่วยเหลือฉันจริง ๆ งั้นเหรอ?”
โจวเฟยหู่ถามกลับด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ
ก่อนที่จะมา เขาเตรียมคำพูดโน้มน้าวเอาไว้มากมายเผื่อว่าอวี้ฮ่าวหรานจะไม่ตกลง แต่ตอนนี้อีกฝ่ายกลับเอ่ยปากช่วยเหลือเขาเองโดยที่ตัวเองไม่ได้ขอก่อนด้วยซ้ำ
สิ่งนี้ทำให้โจวเฟยหู่ดีใจมาก
“ใช่ โทรมาแล้วฉันจะไปช่วย” อวี้ฮ่าวหรานพยักหน้าอีกครั้ง
“ถ้างั้น…ถ้างั้น…ฉันขอขอบคุณนายมากจริง ๆ ที่ช่วยเหลือแก๊งของฉัน!” โจวเฟยหู่ขอบคุณด้วยสีหน้าตื้นตัน แต่แล้วเขาก็นึกถึงอีกเรื่องหนึ่งออกและเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง “จริงด้วย! เกือบลืมไปเลย ก่อนหน้านี้ หวังเหยียนเห็นหัวหน้าของแก๊งทั้งสองนั่นมาที่บริษัทของนาย นับจากนี้นายคงต้องระวังเอาไว้ให้ดี ฉันเชื่อว่าไอ้สองคนนั่นมันจะต้องเล่นงานนายด้วยแน่”
“มาที่บริษัทของฉัน?”
อวี้ฮ่าวหรานขมวดคิ้วทันทีเมื่อได้ยินเรื่องนี้ แต่แล้วหลังจากครุ่นคิดได้สักพักหนึ่ง เขาก็ละเรื่องนี้เอาไว้ก่อน
ในความคิดของอวี้ฮ่าวหราน ชายหนุ่มไม่จำเป็นต้องมากังวลกับเรื่องนี้ให้มากนัก ปล่อยให้ไอ้พวกนั้นกระโดดเข้ามาหาเขาเองจะดีกว่าเพื่อที่จะได้จัดการพวกมันทีเดียวให้จบ ๆ ไป
ด้วยความแข็งแกร่งที่เหนือกว่า ไม่ว่าอีกฝ่ายจะมีแผนอะไรมันก็เป็นแค่เรื่องตลก
หลังจากคุยกันไปได้อีกสักพัก โจวเฟยหู่ก็โล่งใจขึ้น ด้วยการช่วยเหลือของอวี้ฮ่าวหราน เขาไม่จำเป็นต้องกลัวฝ่ายตรงข้ามอีกต่อไปแล้ว!
เมื่อพูดคุยกันจบ โจวเฟยหู่ก็จากไปทันที
ขณะนี้สถานการณ์ของแก๊งพยัคฆ์เวหาอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ เขาจะประมาทไม่ได้
…
หลังจากสามโมงเย็น อวี้ฮ่าวหรานออกจากบริษัทและไปรับถวนถวน ตามปกติ
ครึ่งชั่วโมงต่อมา อวี้ฮ่าวหรานก็ขับรถไปถึงโรงเรียนสอนเปียโน แต่เมื่อเขาเข้าไปด้านในห้องโถง เขาก็พบว่าลูกสาวของตัวเองกำลังร้องไห้อยู่!
“เกิดอะไรขึ้น!”
อวี้ฮ่าวหรานรีบเดินเข้าไปหาถวนถวนอย่างรวดเร็วด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“ฮือ…ถวนถวน…ฮือ…คนไม่ดี…คนนั้นผลักถวนถวน…”
ถวนถวนร้องไห้พลางชี้นิ้วไปที่เด็กผู้ชายคนหนึ่งซึ่งนั่งอยู่ไม่ไกลนัก
ในทางกลับกัน เด็กผู้ชายที่ถูกชี้นิ้วใส่ไม่ได้แสดงสีหน้ารู้สึกผิด เขาตะโกนขึ้นเถียงทันที
“เงียบไปเลย! ฉันแค่แตะเธอนิดเดียวเอง เธอจะร้องไห้ทำไมเยอะแยะ น่าไม่อาย!”
เด็กชายเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าดูถูก เขาไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองผิดเลยสักนิด
อวี้ฮ่าวหรานไม่ได้คิดจะใส่ใจอะไรเด็กชายตัวกะเปี๊ยกนั่น แต่เมื่อเขาเห็นแผลข่วนเล็ก ๆ ที่แขนของถวนถวน ซึ่งมีเลือดไหลซิบ ๆ ดวงตาของเขาฉายแววโกรธขึ้นมาทันที
เขาจ้องเขม็งไปที่เด็กชายซึ่งยังคงแสดงสีหน้าอวดดี จนเด็กชายรู้สึกกลัวและถอยหนีด้วยสีหน้าตื่นตระหนก
แต่แล้วภาพเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ถูกเห็นโดยหญิงวัยหลางคนซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก เธอรีบเดินเข้ามาบังเด็กชายและชี้หน้าด่าอวี้ฮ่าวหราน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸]