บทที่ 409 เด็กเส้น
บทที่ 409 เด็กเส้น
“ฮ่า ๆ บางคนก็ไม่รู้จักเจียมตัว ตลกชะมัด”
เมื่อหลิวว่านฉิงถูกเรียกชื่อ ผู้หญิงผมแดงที่นั่งอยู่ไม่ไกลจึงเริ่มพูดจากระแนะกระแหน
เห็นได้ชัดว่าเธอไม่พอใจที่ถูกถงเสวี่ยอิงตอกกลับ
ผู้สัมภาษณ์ยังคงมีสีหน้าบึ้งตึงไม่เป็นมิตรเหมือนเดิม ซึ่งมันยิ่งทำให้หัวใจของหลิวว่านฉิงเต้นแรงกว่าเดิม
เธอควรทักอีกฝ่ายก่อนหรือไม่? มันจะสุภาพไหม?
ถึงอย่างนั้นไม่ว่าเธอจะคิดยังไง ใบหน้าของหญิงวัยกลางคนยังคงเย็นชาไม่เปลี่ยนแปลง
“ฮ่า ๆ เธอจบจาก…มหาวิทยาลัยเจียงฮ่วยเหรอ?”
เธออ่านชื่อมหาวิทยาลัยด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน เพราะมหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นเพียงมหาวิทยาลัยขนาดเล็ก
“ฮ่า ๆ ล้อกันเล่นหรือเปล่าเนี่ย?”
พอผู้หญิงที่นั่งรอสัมภาษณ์ได้ยินอย่างนั้น เธอก็เริ่มซุบซิบกับคนอื่นอย่างไร้มารยาททันที
คนอื่น ๆ ภายในห้องก็หัวเราะเช่นเดียวกัน พวกเขาต่างแสดงสีหน้าเยาะเย้ย
เพราะชื่อมหาวิทยาลัยระดับสามไม่ควรปรากฏในการสัมภาษณ์ของบริษัทขนาดใหญ่อย่างนี้ เรื่องนี้มีแต่จะทำให้คนอื่นหัวเราะเยาะ
ผู้สัมภาษณ์หญิงวัยกลางคนเงยหน้ามองหญิงสาวที่นั่งตรงข้าม
“นี่เธอ…คิดว่าบริษัทของเราเป็นที่ทิ้งขยะเหรอ? คุณชื่ออะไร? หลิวว่านฉิงงั้นเหรอ…”
เธอพูดดูถูกอีกฝ่าย
ตอนนี้ใบหน้าของหลิวว่านฉิงซีดเผือดลงเรื่อย ๆ
ถงเสวี่ยอิงที่นั่งรออยู่ด้านหลังมีสีหน้าเหยเกเล็กน้อย ตอนนี้เธอทำได้เพียงมองดูเพื่อนที่เพิ่งรู้จักกันถูกคนอื่นเหยียดหยามอย่างช่วยไม่ได้
“ฉันอยากจะหัวเราะจนกรามค้าง เธอเรียนจบจากมหาวิทยาลัยระดับสามไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงกล้ามาสมัครงานที่เครือฮ่าวหราน?”
ผู้หญิงผมแดงหัวเราะอย่างไร้มารยาท
“ไม่แปลกใจเลยที่เธอไม่กล้าบอกว่าเรียนจบจากที่ไหน”
เธอมองถงเสวี่ยอิงด้วยความภาคภูมิใจราวกับได้รับชัยชนะครั้งใหญ่
แต่ในเวลานี้ ผู้สัมภาษณ์หญิงวัยกลางคนพึมพำชื่อของอีกฝ่ายซ้ำ ๆ เหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง
สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
“หลิวว่านฉิง? หลิวว่านฉิง? เดี๋ยวนะ เสี่ยวหลิวไปเอาจดหมายที่ท่านประธานอวี้ส่งมาให้ฉันเมื่อเช้านี้ให้หน่อย”
เธอรู้แล้วว่าทำไมชื่อนี้ถึงฟังดูคุ้นหู
หลังจากที่เลขาตัวน้อยของเธอนำจดหมายที่ประธานอวี้เขียนด้วยลายมือตัวเองมาให้ ใบหน้าของหญิงวัยกลางคนก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
“คุณคือหลิวว่านฉิง?”
เธอมองหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงข้ามอย่างไม่เชื่อ
“ค่ะ”
หลิวว่านฉิงสังเกตเห็นว่าอีกฝ่ายมีบางอย่างผิดปกติ ตอนนี้เธอจึงประหม่าอย่างมากเพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่
ขณะเดียวกัน ผู้หญิงผมแดงยังคงนินทาและหัวเราะเยาะเหมือนเดิม
ผู้สัมภาษณ์ผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว
“เร็วเข้า! มา ๆ! มานั่งบนโซฟาเถอะค่ะ”
หลังจากอ่านข้อความในจดหมายอย่างถี่ถ้วน ท่าทางของเธอจึงเปลี่ยนไปหนึ่งร้อยแปดสิบองศาทันที
สีหน้าของเธอเป็นมิตรขึ้นอย่างชัดเจน…
“นี่ มัวแต่ยืนทำอะไรอยู่? เสี่ยวหลิว รีบไปชงชามาเดี๋ยวนี้”
ผู้สัมภาษณ์หญิงวัยกลางคนเอื้อมมือไปจับมือของหลิวว่านฉิงอย่างกระตือรือร้น
“มา ๆๆ พวกเรากำลังจะกลายเป็นเพื่อนร่วมงานกันแล้ว นั่งก่อนเถอะ ไม่ต้องสัมภาษณ์แล้ว”
ภาพที่เห็นสร้างความตกตะลึงกับผู้ที่เข้าสัมภาษณ์อย่างมาก พวกเขาต่างมองหน้ากันและกันด้วยความสับสน
พวกเขาไม่อยากจะเชื่อว่าผู้สัมภาษณ์หญิงวัยกลางคนจะมีท่าทางใจดีอย่างนี้ด้วยเหรอ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸]