บทที่ 488 แมลงวันส่งเสียงหึ่ง ๆ
บทที่ 488 แมลงวันส่งเสียงหึ่ง ๆ
“ไอ้หนู! รีบขอโทษก่อนที่ฉันจะโกรธแล้วไสหัวไปซะ!”
คำพูดไร้สาระเหล่านั้นทำให้คนทั้งร้านหันมองพวกเขาเป็นตาเดียว กลุ่มคนที่รู้จักนายน้อยฟ่านต่างแสดงอาหารหวาดกลัว
เมื่อเห็นอย่างนั้น นายน้อยฟ่านก็มีท่าทางภูมิใจทันที
“อ้อ อีกอย่างเวลาแกขอโทษ อย่าลืมคุกเข่าแล้วพูดขอโทษมาจากใจจริงล่ะ”
อวี้ฮ่าวหรานหันมองนายน้อยฟ่านอย่างรวดเร็ว
เขาคิดในใจว่าไม่แปลกเลยที่ซูหว่านเอ๋อมักพาบอดี้การ์ดไปด้วยทุกครั้งที่ออกมาข้างนอกบ้าน
ด้วยรูปลักษณ์ที่งดงามหยดย้อย จึงอาจเกิดปัญหาได้ทุกเมื่อ
แต่ตอนนี้อวี้ฮ่าวหรานกำลังรับประทานอาหารอยู่ เขาจึงไม่ใส่ใจคนเหล่านั้นสักเท่าไหร่
“ฉันแนะนำให้นายออกไปจากที่นี่แล้วอย่ามากวนฉันอีก”
เขาเตือนอีกฝ่ายด้วยความอดทนครั้งสุดท้าย การปล่อยอีกฝ่ายออกไปแต่โดยดีคือวิธีการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดในตอนนี้
แต่น่าเสียดายที่บางคนชอบรนหาที่ตาย!
“ไอ้เวร! แกกำลังพูดอะไรอยู่?”
นายน้อยฟ่านโมโหทันทีที่ได้ยินอย่างนั้น
ไอ้เวรนี่กล้าดียังไงถึงมาสั่งสอนเขา?
“หึ ดูเสื้อผ้ามอซอที่แกสวมสิ ราคาแพงไม่ได้ครึ่งหนึ่งของรองเท้านายน้อยด้วยซ้ำ แล้วทีนี้แกยังกล้าบอกว่าจะปล่อยฉันไปอีกเหรอ?”
เขาแค่นเสียงอย่างเย็นชา จากนั้นบอดี้การ์ดกว่าสิบคนก็วิ่งมาล้อมรอบทั้งสองคนอย่างรวดเร็ว
“ฮ่า ๆ ตอนนี้นายน้อยเปลี่ยนใจแล้ว ถ้าอยากมีชีวิตรอด แกต้องคุกเข่าขอโทษฉันแล้วโขกหัวสามครั้ง แล้วก็ส่งแฟนแกมาให้ฉันซะ”
กลุ่มบอดี้การ์ดน่าเกรงขามอย่างมาก ดูเหมือนว่าพวกเขาพร้อมทำร้ายอีกฝ่ายได้ทุกเมื่อ
กลุ่มลูกค้าที่อยู่ในร้านต่างนินทาและพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่มีใครกล้ายั่วยุนายน้อยบ้าอำนาจแม้แต่คนเดียว
“จบเห่แล้ว คู่กิ่งทองใบหยกต้องถูกนายน้อยพรากจากกันแล้ว”
“เฮ้อ…เล่นกับใครไม่เล่น ดันไปยั่วโมโหนายน้อยลูกเศรษฐีเอาซะได้ ดูความแตกต่างของพวกเขาสิ”
“แบบนี้อยู่ไม่สู้ตายจริง ๆ ถ้าไม่มีทักษะการต่อสู้ เขาคงไม่มีชีวิตรอดออกไปแน่”
“…”
แม้เสียงซุบซิบเหล่านั้นจะเบามาก แต่นายน้อยฟ่านก็ยังได้ยินอยู่ดี
มันทำให้เขามีความสุขอย่างมาก
“แกได้ยินฉันไหม? แกอยากตายนักเหรอ? ไอ้โง่เอ๊ย แกกล้าดียังไงมาขู่นายน้อยอย่างฉัน?”
เขาไม่กลัวทักษะต่อสู้ของอีกฝ่ายเลย
ถึงอีกฝ่ายจะต่อสู้เก่ง แต่เขาก็มีบอดี้การ์ดที่มีทักษะการต่อสู้เก่งกาจไม่แพ้กัน!
“แกได้ยินใช่ไหม ถ้าอยากมีชีวิตรอดออกไป แกต้องคุกเข่าแล้วโขกหัวสามครั้ง และแน่นอนว่าแกต้องยกผู้หญิงให้ฉันด้วย!”
ตอนนี้ทั้งสองคนถูกรายล้อมด้วยบอดี้การ์ดนับสิบคน ซึ่งดูน่าอันตรายอย่างมาก
อวี้ฮ่าวหรานไม่สนใจ แต่เขากลับมองซูหว่านเอ๋อที่นั่งอยู่ตรงข้ามด้วยสายตาประหม่าพร้อมพูดติดตลก
“เฮ้อ…อาหารร้านนี้อร่อยดี แต่มีแมลงวันเยอะไปหน่อย มันส่งเสียงหึ่ง ๆ ทั้งวันจนผมอยากฆ่ามันให้หมดเลยล่ะครับ”
“หืม?”
ซูหว่านเอ๋องุนงง แต่เมื่อเข้าใจคำพูดของชายตรงหน้าแล้ว เธอก็อดยิ้มไม่ได้
รอยยิ้มของเธอเป็นเหมือนดอกไม้บานสะพรั่ง ทำให้คนรอบข้างรู้สึกสดใสอย่างมาก
นายน้อยฟ่านตกตะลึงเช่นเดียวกับคนอื่น ๆ ในร้าน เพราะไอ้ตัวเหม็นที่อยู่ข้างหน้ากล้าเทียบเขากับแมลงวันไงล่ะ!
เขาทั้งสง่างามและร่ำรวย แต่ไอ้หน้าอ่อนกลับเปรียบเทียบเขาเป็นแมลงวันงั้นเหรอ?
“แกอยากตายจริง ๆ ใช่ไหม! ไอ้ตัวเหม็น! วันนี้นายน้อยจะหักขาให้แกคุกเข่าต่อหน้าฉัน แล้วเอาแฟนแกมาทำ…”
นายน้อยฟ่านโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เขากำลังจะสั่งให้บอดี้การ์ดจู่โจมอีกฝ่าย แต่กลับถูกพลังมหาศาลขัดจังหวะซะก่อน!
“เพียะ!”
เพียงแค่อวี้ฮ่าวหรานโบกมือเบา ๆ ราวกับกำลังไล่แมลงวัน นายน้อยตัวอ้วนก็ถูกตบอย่างแรงจนกระเด็นไปไกล!
เขาถลาไปไกลจนชนโต๊ะสองตัวล้มระเนระนาดก่อนกลิ้งลงกับพื้น
โชคดีที่อวี้ฮ่าวหรานไม่ได้มีเจตนาฆ่าอีกฝ่าย นายน้อยอ้วนจึงได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น คนที่เหลือต่างพากันอ้าปากค้างกับการกระทำของเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸]