“ไสหัวไปซะ!”
อวี้ฮ่าวหราน ตะโกนไล่พวกแก็งค์นักเลงที่นอนร้องโอดโอยด้วยสีหน้าเย็นชา
อู่ปิง และบรรดาลูกน้องของเขาทั้งหวาดกลัวทั้งประหลาดใจกับการที่ อวี้ฮ่าวหราน ยอมปล่อยพวกเขาไปง่าย ๆ แบบนี้ แต่ในเมื่อฝั่งตรงข้ามยอมปล่อยพวกเขาไปพวกเขาจึงรีบกระเสือกกระสนลุกขึ้น และพากันหิ้วปีกกันและกันวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว
“ไปเร็ว! พวกเรารีบถอย ๆ”
พวกเขาไม่อยากที่จะรั้งอยู่ต่อไปอีกแม้เพียงเสี้ยววินาที
ฝั่งตรงข้ามน่ากลัวเกินไปสำหรับพวกเขา การที่ อวี้ฮ่าวหราน อัดพวกเขาจนราบคาบได้ภายในเวลาไม่เกิน1นาทีมันทำให้พวกเขาคิดว่า อวี้ฮ่าวหราน เป็นปีศาจที่ผุดขึ้นมาจากนรก
แต่แล้วก่อนที่ อู่ปิง จะหนีไปไดไกล มีความคิดบางอย่างผุดขึ้นในหัวของ อวี้ฮ่าวหราน เขารีบพุ่งตัวตามทัน อู่ปิง ในพริบตาไปขวางอยู่ตรงหน้าและคว้าคอเอาไว้ด้วยสีหน้าเย็นชา
“ฉันเปลี่ยนใจ ก่อนที่แกจะไปได้แกจงตอบคำถามของฉันมาก่อน ใครเป็นคนส่งแกมาเล่นงานฉัน?”
ทั้งน้ำเสียงและสายตาของ อวี้ฮ่าวหราน ตอนนี้มันน่ากลัวเป็นอย่างมากจน อู่ปิง สั่นงันงกไม่กล้าต่อต้านแม้แต่น้อย เขารีบตอบกลับด้วยน้ำเสียงสั่นเครือทันที “น..น้อง..เอ๊ย.ม..ไม่ใช่..พี่ชาย ผมผิดไปแล้ว ลูกพี่เซี่ยเป็นคนส่งผมมา ผมไม่ใช่คนต้นคิด! ได้โปรดยกโทษให้ผมเถอะ!”
สีหน้าของ อู่ปิง ตอนนี้ใกล้จะร้องไห้อยู่รอมร่อ ความโอหังที่เขามีในตอนแรกมันหายไปหมดไม่หลงเหลืออยู่เลย
ชาตินี้ฉันคงทำบาปมามากสินะ ฉันถึงได้ต้องมาเจอกับปีศาจตนนี้แบบนี้!
“คนแซ่เซี่ย อีกแล้วงั้นเหรอ?”
อวี้ฮ่าวหราน พึมพำกับตัวเอง เขาจำได้ว่าพวกแก็งค์ทวงหนี้ที่เคยมาก่อกวน สวีรุ่ย เคยเอ่ยชื่อนี้มาแล้ว
“พ…พี่ชาย โปรดปล่อยฉันไปได้ไหม?”
เมื่อเห็นว่า อวี้ฮ่าวหราน แสดงสีหน้าพึงพอใจกับคำตอบ อู่ปิง จึงใช้โอกาสนี้ขอร้องให้ปล่อยเขาไปอีกรอบ เขารู้สึกอยากไปจากตรงนี้แทบใจจะขาด
“ไสหัวไปได้แล้ว!”
อวี้ฮ่าวหราน ตวาดขึ้นพร้อมกับโยนร่างของ อู่ปิง ออกไปจากมือราวกับโยนขยะจากนั้นเขาเดินกลับไปหา หลี่หรง และ ถวนถวน
“เย้ ๆ พ่ออัดพวกคนเลวได้หมดเล้ย! พ่อของ ถวนถวน สุดยอดที่สุด!”
ถวนถวน ตะโกนขึ้นด้วยสีหน้าเบิกบานเมื่อเห็นพ่อของเธอกำลังเดินกลับมาหาพร้อมกับชัยชนะ
“พี่เหนื่อยรึเปล่า? พลาดโดนตีบ้างไหม?”
หลี่หรง เอ่ยถามขึ้นเช่นกัน แต่สีหน้าของเธอไม่ได้กังวลอะไรมากนักและคำถามของเธอก็ออกเป็นแนวแบบรู้อยู่แล้วว่า อวี้ฮ่าวหราน จะต้องจัดการคนพวกนี้ได้แน่นอนแต่เขาเผลอโดนตีไปบ้างสักทีสองทีรึเปล่าก็แค่นั้น
หลังจากที่เธอเห็นความมหัศจรรย์ของพี่เขยของเธอมาหลายรอบเธอจึงมั่นใจว่าต่อให้ฝั่งตรงข้ามมีคนมากกว่านี้เท่าตัว พี่เขย ของเธอก็สามารถจัดการได้อย่างสบาย ๆ
หลังจากพวกของ อู่ปิง จากไปบรรดาพวกนักท่องเที่ยวที่ถูกไล่ออกไปก่อนหน้านี้ก็ค่อย ๆ เดินกลับมาดูสถานการณ์เพราะพวกเขารู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมากว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
เมื่อครู่พวกเขาเห็นเต็มสองตาว่าพวกกลุ่มนักเลงที่ดูน่ากลัวในตอนแรก กลับพากันหนีออกไปด้วยสภาพสะบักสะบอม
อวี้ฮ่าวหราน ไม่ได้สนใจสายตาของฝูงชนที่กลับมาดูสถานการณ์แม้แต่น้อย เขายิ้มให้กับหลี่หรงและตอบกลับว่าเขาไม่เป็นไร จากนั้นเขาเอา ถวนถวนที่อยู่ในอ้อมอกของ หลี่หรงมาอุ้มไว้เอง
“เป็นยังไง ถวนถวน พ่อเก่งไหม?”
“ช่าย! พ่อของหนูเก่งที่สุด!”
“ไปกันเถอะ พวกเราไปดูเสือตัวใหญ่ ๆ ที่ลูกอยากดูกันดีกว่า!”
เมื่อพูดจบ อวี้ฮ่าวหราน พาครอบครัวของเขาเดินตรงดิ่งไปที่ส่วนที่มีแต่กรงเสือชนิดต่าง ๆ
“พ่อ ดูสิเสือตัวนั้นมันกำลังยิงฟันให้หนูด้วย!”
ถวนถวน ตะโกนด้วยสีหน้าตื่นเต้น เด็กน้อยพูดขึ้นมาอย่างไร้เดียงสาไม่รู้ว่าควรใช้คำว่า ‘แยกเขี้ยว’ มันถึงจะถูกต้อง
แต่ก็ไม่มีใครว่าอะไรเธอเพราะเรื่องการใช้คำผิดมันเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยสำหรับเด็กอายุ5ขวบ ทำไมต้องทำลายบรรยากาศดี ๆ กับอีแค่เด็กพูดผิดแค่เพียงเล็กน้อยด้วยล่ะจริงไหม?
หลี่หรง ใช้โอกาสนี้ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปหมู่กับ ถวนถวน และ อวี้ฮ่าวหราน
แต่แล้วในทันทีที่เธอกดถ่ายรูปเสร็จ โทรศัพท์ของเธอกลับมีสายเข้า
“กริ๊งง…”
“ฮัลโหล? ฉันหลี่หรง นั่นใคร?”
“หลี่หรง เธอรีบมาที่บ้านหลักเดี๋ยวนี้ พวกเรากำลังมีปัญหาใหญ่!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸]