“ขอฉันดูใกล้ ๆ หน่อย!”
อวี้ฮ่าวหรานเหมือนจะเดาอะไรบางอย่างได้ เขาวางถวนถวนลงก่อนจากนั้นจึงเดินเข้าไปที่ข้างเตียงของหลี่ชงซาน
เมื่อไปถึงข้างเตียง อวี้ฮ่าวหรานจับชีพจรตรงข้อมือและแอบปล่อยพลังวิญญาณโคจรไปทั่วร่างของหลี่ชงซานเพื่อยืนยันข้อสงสัยของเขาว่ามันเป็นจริงหรือไม่
หมอทั้ง 3 คนเมื่อเห็นภาพเช่นนี้พวกเขาต่างมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ พวกเขาคือหมอแผนปัจจุบันดังนั้นเมื่อเห็นว่ามีคนพยายามตรวจอาการคนไข้ด้วยวิธีโบราณเช่นการจับชีพจร พวกเขาจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่ามันไร้สาระ
ในทางกลับกันแค่เพียงชั่วอึดใจเดียว อวี้ฮ่าวหรานก็ได้รับคำตอบทุกอย่าง!
“นี่ไม่ใช่การอาการเจ็บป่วย! แต่มันเป็นเพราะยาพิษต่างหาก!”
ในทันทีที่ทุกคนได้ยินคำพูดนี้ ทุกคนต่างแสดงสีหน้าตกตะลึงจนอ้าปากค้าง
“นี่มันเป็นไปได้ยังไง? พิษแบบไหนกันที่มันมหัศจรรย์จนพวกเราใช้วิธีตรวจทุกแบบแล้วก็ยังไม่เจอแบบนี้?” หนึ่งในหมอคนหนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าโง่งม
อวี้ฮ่าวหรานไม่มีเวลาที่จะตอบคำถามกับพวกหมอเหล่านี้ ตอนนี้เขาจำเป็นต้องรีบถอนพิษออกจากร่างของหลี่ชงซานเพราะไม่งั้นหากพิษมันลามไปถึงปอด หลี่ชงซานจะไม่มีวันกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมอีกเลย
“พี่เขย พี่ช่วยพ่อของฉันได้ไหม?”
หลังจากได้สติ หลี่หรงก็นึกขึ้นได้ว่าพี่เขยที่แสนมหัศจรรย์ของเธอตอนนี้ก็อยู่ที่นี่ด้วย ดังนั้นเธอจึงมีความหวังว่าเขาจะสามารถช่วยพ่อของเธอได้
“พิษชนิดนี้มันพิเศษเป็นอย่างมาก มันไม่มีทางที่หมอธรรมดา ๆ จะสามารถตรวจมันพบ แต่เธอไม่ต้องห่วง พิษแบบนี้พี่สามารถจัดการได้แต่เธอต้องให้เวลาพี่สักหน่อยอย่าเพิ่งรบกวนพี่ตอนนี้!”
อวี้ฮ่าวหรานเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง หากเป็นคนอื่นถามเขาคงจะไม่ตอบ แต่หลี่หรงนั้นเป็นน้องของภรรยาเขาและเป็นลูกสาวของคนที่กำลังจะตาย ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถเผิกเฉยต่อคำถามของเธอได้ เขาจำเป็นต้องตอบเพื่อให้เธอสงบใจลง
ทางด้านของหลี่หรง เมื่อได้ยินคำตอบที่หนักแน่นของอวี้ฮ่าวหราน เธอพยักหน้ารับทราบพร้อมกับสีหน้าของเธอที่ผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด เธอมั่นใจในตัวพี่เขยของเธอมาก ๆ ว่าคำพูดของเขาย่อมเป็นความจริงเสมอ
ส่วนบรรดาหมอทั้งสามคนเมื่อได้ยินเช่นนี้ต่างก็แสดงสีหน้าโง่งมมากกว่าเดิม พวกเขาไม่เข้าใจว่าอวี้ฮ่าวหรานเอาความมั่นใจมาจากไหนว่าจะช่วยหลี่ชงซานได้ หรือแม้แต่อวี้ฮ่าวหรานรู้ได้ยังไงว่าหลี่ชงซานถูกยาพิษ?
จากนั้น อวี้ฮ่าวหรานส่งสัญญาณให้ทุกคนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปให้หมด และห้ามใครเข้ามาจนกว่าเขาจะบอก ซึ่งในเวลาเดียวกัน อวี้ฮ่าวหรานก็ได้เหล่ตามองไปที่หลี่จิงเทียนด้วยแววตามีความนัยอะไรบางอย่าง
เมื่อครู่ อวี้ฮ่าวหรานสังเกตเห็นว่าในทันทีที่เขาพูดว่าเขาสามารถรักษาหลี่ชงซานได้ หลี่จิงเทียนพลันแสดงสีหน้าร้อนรนทันทีแต่ฝั่งตรงข้ามก็ปกปิดมันอย่างรวดเร็ว
การแสดงออกแบบนี้มันต้องมีอะไรบางอย่างไม่ชอบมาพากล!
แต่ตอนนี้มันยังไม่ใช่เวลาที่เขาจะทำอะไรอย่างอื่นนอกจากรักษาหลี่ชงซาน!
หลังจากทุกคนออกไปจากห้องแล้ว อวี้ฮ่าวหราก็เริ่มใช้พลังวิญญาณของเขาถอนพิษในร่างของหลี่ชงซานทันที
การรักษาครั้งนี้มันไม่ง่ายเหมือนกับการรักษารอบที่แล้วที่เป็นการเจ็บป่วยตามปกติของมนุษย์ รอบนี้หลี่ชงซานถูกพิษชนิดร้ายแรงเข้าไป ดังนั้นอวี้ฮ่าวหรานจึงจำเป็นต้องมีสมาธิในการโคจรพลังวิญญาณของเขาไปทั่วร่างของหลี่ชงซานอย่างละเอียด เพื่อผนึกให้พิษอยู่ในจุดเดียวไม่ลามไปที่อื่นและพร้อมกันนั้นเขายังต้องใช้พลังวิญญาณขับพิษออกจากร่างของหลี่ชงซานไปด้วยในเวลาเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถให้ใครอยู่ในห้องซึ่งอาจจะรบกวนเขาได้
อันที่จริงการทำเช่นนี้หากเป็นผู้บ่มเพาะคนอื่นที่มีพลังอยู่ในระดับเดียวกับอวี้ฮ่าวหราน… คงไม่มีทางทำได้แบบเขาแน่นอน
แต่ด้วยความรู้ความเข้าใจที่เขามีมานับหมื่น ๆ ปีที่ดินแดนแห่งเทพ ดังนั้นอวี้ฮ่าวหรานจึงสามารถทำอะไรแบบนี้ได้อย่างมหัศจรรย์
หลังจากผ่านไป 10 นาทีเต็ม อวี้ฮ่าวหรานพลันฉีกเสื้อบริเวณอกของหลี่ชงซานออก ซึ่งหลังจากนั้นแค่เพียงอึดใจเดียวไอควันสีดำก็ค่อย ๆ ผุดออกมาจากรูขุมขนช่วงอกของหลี่ชงซาน
ในขณะเดียวกับที่ควันสีดำกำลังลอยขึ้นไปในอากาศ อวี้ฮ่าวหรานก็ได้ใช้พลังวิญญาณของเขาเองสร้างชั้นพลังวิญญาณบาง ๆ คล้ายกับพลาสติกใสห่อหุ้มควันสีดำเหล่านั้นเอาไว้และส่งพลังวิญญาณของเขาอีกส่วนเข้าไปสลายควันสีดำเหล่านั้นให้สลายหายไปให้หมด
ขั้นตอนนี้กินเวลาไปอีก 10 นาทีเหมือนเดิม ซึ่งหลังจากเสร็จเรียบร้อยแล้ว สีหน้าของหลี่ชงซานก็เริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ อย่างรวดเร็วจนสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸]