บทที่ 82 ปฏิเสธสาวงาม
“ฉันคิดว่าหากน้องฮ่าวหรานได้อวี้เอ๋อร์ของฉันไปเป็นคู่ครอง เธอคงจะช่วยบริหารบริษัทชงซานได้อย่างดีเยี่ยมแน่นอน ฮ่าฮ่าฮ่า!” เฉิงกัวอันเอ่ยขึ้นพร้อมกับระเบิดเสียงหัวเราะ
“พ่อ! พ่อพูดอะไรของพ่อเนี่ย!”
เฉิงชิวอวี้หน้าแดงก่ำเป็นผลแอปเปิลทันทีเมื่อได้ยินคำพูดนี้จากปากพ่อของเธอ
พ่อที่ไหนกันขายลูกสาวตัวเองให้กับคนอื่นตรง ๆ แบบนี้!
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าคำพูดของเฉิงชิวอวี้จะออกไปเป็นแนวปฏิเสธ …แต่ในใจของเธอกลับเต้นระรัว
อันที่จริง…
ผู้ชายคนนี้ก็หน้าตาไม่เลว ต่อให้บุคลิกของเขาจะดูทื่อ ๆ ไปหน่อยแต่เขาก็แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก…
ภาพที่อวี้ฮ่าวหรานสังหารเหล่านักฆ่านับสิบได้ภายในพริบตามันยังคงตราตรึงใจเฉิงชิวอวี้ไม่เลือนหาย
แถมตอนนี้เขายังเป็นเจ้าของบริษัทอีกหลายบริษัทอีกต่างหาก ผู้ชายที่สมบูรณ์แบบอย่างนี้อันที่จริงก็เหมาะสมกับเธอจริง ๆ เหมือนกันนะเนี่ย…
ยิ่งคิดมากเท่าไหร่ หัวใจของเฉิงชิวอวี้ก็ยิ่งเต้นเร็วมากขึ้นเท่านั้น จนตอนนี้เธอไม่กล้าสบตาอวี้ฮ่าวหรานด้วยซ้ำเพราะเขาคงจะรู้ได้ทันทีว่าเธอกำลังเขินอายมากขนาดไหน
ในทางกลับกัน อวี้ฮ่าวหรานกลับหัวเราะออกมาเล็กน้อยด้วยความขบขัน เขาคิดว่าเฉิงกัวอันแค่เพียงล้อเขาเล่นเท่านั้น
หลังจากคุยกันไปได้อีกไม่กี่ประโยค เฉิงกัวอันก็บอกให้ลูกสาวของเขาเองออกไปก่อน เพราะเขามีเรื่องจะคุยกับอวี้ฮ่าวหรานต่อ
“เอาล่ะน้องฮ่าวหราน ตอนนี้เล่ามาต่อได้เลยเรื่องของบริษัทชงซาน”
อวี้ฮ่าวหรานพยักหน้าและเล่าต่อทันที
“บริษัทชงซานมีปัญหาหลักใหญ่ ๆ ตอนนี้ก็คือการจัดการระบบภายในและผลกำไรของบริษัท ก่อนมาที่นี่ผมได้ดูบัญชีของบริษัททั้งหมดแล้ว ซึ่งมันถูกต้องทุกอย่างแต่มันก็ทำให้ผมได้เห็นว่าตอนนี้บริษัทไม่สามารถพัฒนาต่อไปอีกได้ซึ่งทำให้ผมอยากจะ…”
ต่อมา อวี้ฮ่าวหรานก็ได้แบ่งปันข้อมูลทั้งหมดของบริษัทให้กับ เฉิงกัวอันฟัง ซึ่งเฉิงกัวอันเองก็พยายามวิเคราะห์หนทางแก้ไขสถานการณ์ของบริษัทชงซานไปด้วย
“นี่คือทุกอย่างที่ผมอ่านและรู้มา ตอนนี้ผมมีคำถามว่าผมควรจะทำอย่างไรต่อไปดีเพื่อให้บริษัทพัฒนาต่อไปได้อีก?”
หลังจากอธิบายทุกอย่างจบ อวี้ฮ่าวหรานก็ยิงคำถามเข้าประเด็น
เฉิงกัวอันครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นเขาก็ค่อย ๆ แสดงความคิดเห็นของตัวเอง
“บริษัทชงซานทำธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตเครื่องจักรอุตสาหกรรม ซึ่งความต้องการในตลาดตอนนี้กำลังไปได้สวย ดังนั้นไม่ว่าจะยังไงบริษัทชงซานย่อมไม่ขาดทุนแน่นอน”
“แต่…บริษัทผลิตเครื่องจักรอุตสาหกรรมขนาดใหญ่นั้นมีจุดอ่อนของตัวเองอยู่ที่การพัฒนาหรือปรับเปลี่ยนตัวเองนั้นค่อนข้างยาก และต้องใช้เงินทุนจำนวนมหาศาลซึ่งประเด็นนี้หากมองจากสถานะการเงินของบริษัทชงซานในขณะนี้… มันก็สรุปได้ว่าเป็นสิ่งที่แทบจะไกลเกินเอื้อม”
“แต่ยังนับว่าเป็นโชคดีที่ก่อนหน้านี้พี่มอบบริษัทหลายบริษัท ให้น้องฮ่าวหรานไป ซึ่งบรรดาบริษัทพวกนั้นล้วนเป็นบริษัทผลิตชิ้นส่วนเครื่องจักรพอดีซึ่งมันจะช่วยเกื้อหนุนบริษัทชงซานได้มาก แต่ถ้าหากเป็นการปรับเปลี่ยนแนวทางบริษัทมันก็ยังเป็นเรื่องยากอยู่ดี”
อวี้ฮ่าวหรานพยักหน้ารับฟังอย่างตั้งใจ เพราะทุกคำที่เฉิงกัวอันวิเคราะห์ออกมามันล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ทั้งหมด ซึ่งเมื่อเขาลองวิเคราะห์ด้วยตัวเองอีกทีหนึ่ง เขาก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นถึงเรื่องการปรับเปลี่ยนแนวทางของบริษัท
“แต่ถ้าหากผมต้องการที่จะปรับเปลี่ยนแนวทางของบริษัทจริง ๆ ผมควรจะทำยังไงบ้าง คุณช่วยแนะนำหน่อยจะได้ไหม?”
ขนาดและผลกำไรของบริษัทชงซานตอนนี้ไม่เพียงพอกับความต้องการของเขา เขาจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนแนวทางของบริษัทใหม่เพื่อให้มันโตขึ้นมากกว่าเดิม
“ในตอนนี้ถ้าต้องการปรับเปลี่ยนแนวทางการตลาดของบริษัท งั้นก็ควรจะหันไปทางด้านอสังหาริมทรัพย์ เพราะหลายปีที่ผ่านมานี้ตลาดอสังหาในประเทศจีนของเราเติบโตขึ้นเร็วที่สุดแถมมันยังไม่จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูงมากมายซึ่งทำให้มันเป็นตลาดที่เข้าถึงง่ายและมีผลกำไรที่งามที่สุด”
อวี้ฮ่าวหรานขมวดคิ้วทันทีเมื่อได้ยินคำว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพราะเขาเองก็ศึกษาข้อมูลธุรกิจนี้มาเหมือนกัน ถึงแม้ว่าธุรกิจนี้จะมีผลตอบแทนที่น่าตื่นตาแต่มันก็มีข้อเสียที่ใหญ่หลวงเหมือนกัน
ดังนั้นอวี้ฮ่าวหรานจึงรีบพูดขึ้นทันที “การลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์นั้นต้องใช้เงินทุนไปกับการกว้านซื้อที่ดินเป็นจำนวนมาก แถมความเสี่ยงก็ยังสูงอยู่ในอันดับต้น ๆ ของธุรกิจทั้งหมด ซึ่งผมว่ามันไม่น่าจะเหมาะกับแนวทางใหม่ของบริษัทชงซานในอนาคต”
“นั่นถูกต้องแล้ว ธุรกิจอสังหาเป็นแบบนั้นจริง ๆ ถึงแม้ว่ามันจะไม่จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูงอะไรมากมายและได้ผลตอบแทนมาก แต่มันก็ต้องใช้เงินลงทุนที่สูงพร้อมกับความเสี่ยงที่มากกว่าธุรกิจรูปแบบอื่น”
เฉิงกัวอันพยักหน้าพร้อมกับยิ้มให้กับอวี้ฮ่าวหรานอย่างพึงพอใจ
วิเคราะห์ได้แบบนี้ ดูเหมือนว่าชายหนุ่มคนนี้จะมีความสามารถมากกว่าแค่ต่อยตีสินะ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸]