ทุกคนต่างทราบกันดีว่าระหว่างตระกูลลีย์กับเจฟฟ์ ฟินเดอร์ไม่มีความบาดหมางหรือเกี่ยวข้องกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวหรือการทำธุรกิจ
ไม่มีเหตุผลที่เจฟฟ์จะพุ่งเป้ามาที่พวกเขา
อ่อ นอกเสียจากเมื่อไม่นานมานี้ที่พวกเขาช่วยเกรกอรี่กับวิกกี้ตามหาผ้าไหมสวรรค์
เกรกอรี่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้
เขาทั้งคู่วางแผนหลังจากที่วางสายไป ฌอนที่ยืนอยู่ได้ยินบทสนทนาทั้งหมด
เขาถามขึ้นทันทีที่วางสาย “แล้วตอนนี้เราต้องทำอะไรต่อไป? นั่งรออยู่ตรงนี้เหรอ? คิดว่าเราจะต้องรออีกนานแค่ไหน?”
กิดเดียนคิดวางแผนขั้นต่อไป “ถ้าเป็นไปได้ คุณลุงช่วยสืบให้ผมหน่อยได้ไหมครับว่าใครอยู่เบื้องหลังธุรกิจขนาดใหญ่ของเมืองนี้?”
ฌอนขมวดคิ้วเข้าหากัน เขาไม่สนใจเรื่องธุรกิจ เช่นนั้นเขาจึงไม่ทราบ
ถึงอย่างไรก็ตามแม้ไม่ได้สนใจก็ตาม ทว่าเขาก็เป็นที่รู้จักในพื้นที่นี้ ทำให้เขาสามารถสืบหาข้อมูลได้อย่างง่ายดายถ้าเขาต้องการ เช่นนั้นเขาจึงรับปาก
“ถ้าคุณต้องการ ลุงจะไปสืบมาให้เดี๋ยวนี้แหละ”
“รบกวนด้วยครับ ผมอดที่จะรู้สึกไม่ได้ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คนอย่างเจฟฟ์จะมาที่นี่โดยไม่มีร่อยรอยอะไรเลย เพราะดูเหมือนเขาจะซุ่มรอมาสักระยะหนึ่งแล้ว ทุกโรงแรมที่เราตรวจสอบไม่มีร่องรอยการเข้าพักของเขา ซึ่งหมายความว่าเขาต้องอยู่ในสินทรัพย์ส่วนตัว”
ฌอนพยักหน้ารับ “ลุงจะออกไปหา แล้วจะบอกคุณถ้าลุงเจอสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับพวกฟลินเดอร์”
“ครับ โทรหาผมถ้าเจอ”
“อืม ลุงเข้าใจแล้ว” ฌอนโบกมือแล้วเดินออกไป
ฌอนใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่ง ‘หาคนของชายคนนั้น และตรงไปยังวิหารเทพ’
เขารู้ว่าวิหารเทพเป็นของพวกฟลินเดอร์ แต่ไม่น่าเป็นไปได้ที่เจฟฟ์จะซ่อนพวกเธอไว้ในที่โจ่งแจ้งแบบนั้น
นั่นยังไม่รวมถึงที่เขาเจอชีม่อนที่นี่เมื่อคราวก่อน ชายหนุ่มไม่ทราบว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ แต่กิดเดียนกล้าพนันได้เลยว่าเขาต้องมีเอี่ยวในการลักพาตัวครั้งนี้ด้วย
ไม่มีใครสงสัยสถานที่ที่พวกฟลินเดอร์ถือครอง ทว่าการขุดคุ้ยเพียงเล็กน้อยก็สามารถเปิดโป่งได้
หากเจฟฟ์ต้องการซ่อน คงไม่ใช่ที่นั่น
ถึงอย่างไรเสีย เหตุผลที่กิดเดียนไปที่นั่นก็ไม่ใช่เพื่อไปตามหาเจฟฟ์ ทว่าเป็นชิม่อนต่างหาก ถ้ากิดเดียนไปเขา อาจจะเค้นความจริงออกจากเขาได้
แต่ก็มีความเป็นไปไม่ได้สูง เพราะชิม่อนเป็นคนนอกตระกูล และมีความเป็นไปได้ว่าเจฟฟ์จะเห็นเขาเป็นเพียงหมากตัวหนึ่ง เขาอาจจะไม่บอกแผนการของเขากับคนที่เป็นเพียงหมาก
ถึงอย่างไรเสียก็เป็นหนทางสุดท้ายของกิดเดียน ไม่ว่าอะไรก็ตามก็คุ้มที่จะเสี่ยง
เมื่อคิดเช่นนั้นเขาจึงรีบไปยังวิหารเทพ
ยามค่ำคืนสถานที่นี้ไร้ซึ่งผู้คนเพราะผู้ที่มาสักการะกลับไหมดแล้ว เหลือเพียงคนงานไม่กี่คน นอกจากนั้นพวกเขายังคิดว่ากิดเดียนเป็นผู้เลื่อมใสที่มาขอพร ดังนั้นพวกเขาจึงโค้งให้ชายหนุ่ม
เมื่อปราศจากความเบียดเสียดและพลุกพล่านเช่นตอนกลางวัน วิหารแห่งนี้ให้ความรู้สึกน่าเกรงขามจนชวนขนลุก
ชายหนุ่มเดินไปยังห้องโถงใหญ่จึงเห็นว่ามันว่างเปล่า รูปปั้นทองคำยืนตระหง่านด้วยความสูงสามถึงสี่เมตร เหล่ากับเหล่าทวยเทพที่กำลังทอดมองมวลมนุษย์จากสรวงสวรรค์เงียบ ๆ ด้วยความอบอุ่นและเมตตา
กิดเดียนยืนอยู่ตรงนั้นครู่หนึ่งก่อนจะมองไปยังห้องโถงที่อยู่ข้าง ๆ ห้องโถงใหญ่
ชายคนหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้นพลางเอามือไพล่หลัง เขายืนอยู่หน้ารูปปั้นพลางเงยหน้าขึ้นมองราวกับมองเห็นเหล่าเทพ
รูปปั้นนี้เป็นรูปปั้นแบบเดียวกันกับที่วีมอนด์น้อยตะโกนออกมาว่า ‘หญิงสาวสวย’
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก