ทั้งครอบครัวกำลังมีความสุข
สักพักก็กลับมีข่าวจากต่างประเทศว่าพวกเขาได้เจอคนที่ฆ่าอาวุโสเคแล้ว
เป็นคนจากสมาคมจีน
เมื่อพบฆาตกรแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นก็ไม่ยากที่จะต้องรับมือเท่าไร
แม้ว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับข้อพิพาทเรื่องผลกำไรมากมายระหว่างกองทหารมังกรหรือสมาคมจีน แต่ทั้งสองฝ่ายไม่ต้องการปล่อยให้ความแค้นดำเนินต่อไป มันจะดีกว่าที่จะจัดการกับเรื่องนี้โดยที่แต่ละฝ่ายยอมถอยกลับไป
เกลในฐานะผู้นำของตระกูลโบฮิเนียมีส่วนช่วยเหลือมากที่สุดกับขั้นตอนพวกนี้
มันได้ลดความตึงเครียดของเนลล์ และความสัมพันธ์ของเขาก็ประสบความสำเร็จ
ทั้งคู่ได้เริ่มติดต่อสื่อสารกันโดยไม่ได้ติดต่อกันอย่างเงียบ ๆ อีกต่อไป กิดเดียนรู้สึกมีความสุขมากที่สุดที่ได้เห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้
ท้ายที่สุด เนลล์ก็ยังมีครอบครัวเล็ก ๆ อยู่ในโลกนี้ด้วย
บางครั้ง ผู้คนก็ต้องการครอบครัวเพื่อปลอบโยน เช่นเดียวกับช่วงปีใหม่ที่ครอบครัวจะยิ่งมีความสนุกสนาน
โชคดีที่ตอนนี้ทั้งคู่อยู่ในช่วงที่ดี เกลยังมาที่บ้านลีย์เพื่อเยี่ยมในช่วงปีใหม่ และเนลล์ก็ไม่ปฏิเสธการมาของเขา
อีกนัยหนึ่ง ก็คือเธอยอมรับความสัมพันธ์ของเธอกับเกลได้แล้ว
เมื่อสังเกตการเปลี่ยนแปลงในตัวเธอ เกลก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง
ปีนี้จบด้วยความสนุกสนาน
ในทางกลับกัน เจเน็ตไม่ได้ใช้เวลาช่วงปีใหม่ในเมืองหลวงหรือว่าตามเลียมกลับไปยังประเทศ F
เธอกลับมาที่จินเฉิงและฉลองปีใหม่ที่บ้านแฮนค็อกแทน
ก่อนหน้านี้ คุณพ่อแฮนค็อกใกล้จะตัดสัมพันธ์กับเธอเพราะเรื่องระหว่างเธอกับเลียม
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป ความสัมพันธ์ของพ่อกับลูกสาวเปลี่ยนสถานการณ์ที่ต่างเอาเอาชนะกันกลายเป็นไปสู่เส้นทางแห่งการกลับตัว เพื่อการเติบโตของเด็กน้อย
ลูกของเจเน็ตตอนนี้อายุได้สองขวบแล้ว
ขณะที่เขาอยู่ในวัยเรียนรู้ที่จะพูดกับผู้คน เขาจะคอยเรียกว่า “คุณปู่ คุณปู่!” ผ่านการโทร
หัวใจของพ่อแฮนค็อกก็แทบจะละลาย
ในตอนแรก คุณพ่อแฮนค็อกขัดขืนและปฏิเสธที่จะตอบโต้กลับ แต่ในความเป็นจริง คุณพ่อแฮนค็อกนั้นดีใจจนอธิบายไม่ได้เลย
ต่อมาเด็กน้อยโทรมาที่บ้านหลายครั้งอย่างเรื่อย ๆ คุณพ่อแฮนค็อกก็ยอมและเริ่มตอบกลับเด็กน้อย
หลังจากได้คุยกันหลายครั้ง เขาก็รู้สึกสนใจเจ้าตัวเล็กจริง ๆ
เอลริกอาจแต่งงานแล้ว แต่ยังไม่มีข่าวคราวเกี่ยวกับลูกเลย พ่อแฮนค็อกฝันทั้งวันทั้งคืนอยากที่จะมีหลานแต่ไม่เคยสมหวังเลย
ในที่สุดเขาก็มีหลานชายคนหนึ่งที่คอยโทรหาเขาทุกวัน เมื่อมีเด็กช่างพูดช่างจาคำหวาน ๆ เขาจะไม่ชอบงั้นเหรอ?
แต่ทว่าจู่ ๆ เจ้าตัวเล็กก็แทบจะไม่โทรหาเลย หลังจากที่พวกเขาตัวติดกันเป็นเงา
ตามที่เจเน็ตบอก เด็กน้อยเป็นไข้หวัดใหญ่และรู้สึกไม่ค่อยสบายนัก ดังนั้นจึงไม่มีการโทรหาทางโทรศัพท์
สิ่งนี้ทำให้คุณพ่อแฮนค็อกเป็นกังวล
เขาต้องการไปเยี่ยมเด็กน้อยในเมืองหลวงแต่ไม่สามารถกลืนความจองหองของเขาได้
คุณพ่อแฮนค็อกกับเจเน็ตยังคงมีความเย็นชาใส่กันอยู่เลย!
อย่างไรก็ตาม จิตใจของเขาอยู่ไม่เป็นสุข ราวกับความต้องการจะไม่หายไป ถ้าหากเขาไม่ได้ไปหาเด็กน้อย
ในที่สุด เอลริกก็เป็นคนที่ทำให้เขาออกมา
เอลริกบอกว่าเป็นเวลาสองปีแล้วตั้งแต่เจเน็ตกลับมาในปีใหม่ พวกเขาอยู่แต่ในเมืองหลวงสำหรับฉลองปีใหม่ พวกเขาควรกลับไปที่จินเฉิงเพื่อเฉลิมฉลอง
พ่อแฮนค็อกเย้ยหยันเบา ๆ โดยไม่บอกเป็นนัยถึงความคิดของเขาด้วยคำพูด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะเห็นด้วยกับความคิดของเอลริก ด้วยทัศนคติของเขา
เอลริกหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้ พบว่าชายชราผู้ที่หยิ่งผยองนั้นหัวใจยังเป็นเด็กนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
เขาโทรหาเจเน็ตและโชคดีที่เจเน็ตมีไหวพริบ ก่อนจะตัดสินใจพาเด็กกลับบ้านในช่วงปีใหม่ทันที
เลียมกังวลเกี่ยวกับแม่และลูกที่จะไปที่นั่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก