วิกกี้ขมวดคิ้วเข้าหากันตอนที่มองไปที่ลูเซียส
เธอไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาพูดออกมานั้นเป็นเรื่องจริงเท็จแค่ไหน
เพราะว่าแม่ของเธอได้เสียชีวิตไปเมื่อหลายปีก่อน และความทรงจำก่อนที่เธอจะอายุแปดขวบนั้นก็เลือนลางจางหายไปหมดแล้ว
เธอจำได้แต่สิ่งที่เพิ่งจะเกิดขึ้นได้ไม่นานมานี้เท่านั้น นอกเหนือจากนั้นเธอก็นึกไม่ออกเลย
อีกมุมหนึ่ง เธอก็ไม่สามารถขอคำยืนยันจากคนที่ตายไปแล้วได้ แต่ในทางกลับกัน มันก็เป็นเพียงแค่คำพูดของเขาคนเดียวเท่านั้น
มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับวิกกี้ที่จะเชื่อคำพูดของเขา
เมื่อเธอนึกถึงสิ่งนี้ ความรู้สึกสับสนก็แวบเข้ามาในดวงตาของเธอ
เธอมองดูลูเซียส และพูดอย่างจริงจังว่า "เอาละ สมมติว่าถ้าสิ่งที่นายพูดมาทั้งหมดเป็นความจริง นายคิดว่านายจะปล่อยให้ฉันอยู่แบบนี้จริง ๆ เหรอ?"
ลูเซียสมองเธอด้วยใบหน้าที่อ่อนโยน พลางพูดว่า "วิกกี้ ฉันก็แค่อยากจะใช้เวลาร่วมกันแบบพี่น้องกับเธอให้มากกว่านี้สักหน่อย และแน่นอนว่าถ้าหลังจากนี้เธอยังยืนยันที่จะไป ฉันก็จะไม่กวนใจเธออีกเลย"
วิกกี้พูดจาเยาะเย้ยออกมา
“ฉันจะเชื่อนายได้ยังไง?”
ลูเซียสเลิกคิ้วขึ้นและถามเธอว่า
“แล้วฉันจะต้องทำยังไงเธอถึงจะยอมเชื่อฉันล่ะ?”
วิกกี้คิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “ปล่อยแอนเดรียไปซะ เรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างเราสองคน เธอไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้เลย ถ้านายปล่อยเธอไป ฉันจะยอมเชื่อในสิ่งที่นายพูด”
ลูเซียสคิดพิจารณาคำพูดของเธออยู่พักใหญ่
วิกกี้มีความรู้สึกว่า เขาคงจะรู้ทันว่าทำไมเธอถึงได้ทำแบบนี้
แต่มันก็ไม่สำคัญ เพราะว่าไม่ใช่เขาหรอกเหรอ ที่ขอให้เธอยอมรับว่าเขาเป็นพี่ชาย?
ใครก็ตามที่มีอำนาจเหนือกว่าก็จะสามารถเรียกร้องสิ่งที่ต้องการได้ ดังนั้นแม้ว่าเขาจะรู้ว่าเธอกำลังจะทำอะไร แล้วเขาจะทำอะไรได้? และถึงเขาจะไม่เห็นด้วย สถานการณ์ก็ยังคงจะเป็นเหมือนเดิม และเธอก็จะไม่เสียเปรียบอะไรเลย
วิกกี้ไม่ได้คาดหวังว่าลูเซียสจะพยักหน้า และเห็นด้วยกับความคิดของเธอจริง ๆ
เขายิ้มออกมาเล็กน้อย และพูดว่า “โอเค ฉันสัญญา”
วิกกี้ตกใจอยู่พักหนึ่ง
ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้คาดหวังว่ามันจะผ่านไปได้ด้วยดี
เธอไม่เชื่อว่าลูเซียสจะไม่รู้ว่า ถ้าเขาปล่อยแอนเดรียไปนั้นมันจะหมายความว่าอย่างไร เธอคิดว่าเขารู้ดี แต่ก็ยังกล้าที่จะยอมรับมัน...
จู่ ๆ เธอก็รู้สึกถึงลางสังหรณ์ร้าย
ทันใดนั้น ลูเซียสก็พูดขึ้นมาว่า "ในเมื่อฉันตกลง ที่จะทำตามคำขอร้องของเธอแล้ว เธอก็ต้องยอมรับคำขอของฉันด้วยเหมือนกัน ใช่ไหม? ถ้าเธอต้องการให้ฉันปล่อยตัวแอนเดรียไป เธอก็ต้องมากับฉัน"
แววตาตาของวิกกี้หม่นหมองลง
“นายจะพาฉันไปที่ไหน?”
“เธอยังไม่จำเป็นต้องรู้ในตอนนี้หรอก”
เขาพูดพร้อมกับยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน แต่วิกกี้กลับรู้สึกว่ารอยยิ้มของเขา เหมือนกับงูพิษที่คลานขึ้นไปตามกระดูกสันหลังของเธอ และมันทำให้เธอหนาวสั่นไปทั้งตัว
ลูเซียสพูดอย่างนุ่มนวลว่า “น้องสาวที่แสนดีของพี่ ไม่ต้องกังวลไปหรอกนะ พี่จะพาน้องไปยังที่ที่น้องชอบ ที่ ๆ น้องจะลืมปัญหาทั้งหมดของน้องไป และไม่ต้องมามัวกังวลถึงมันอีก”
วิกกี้มองลึกเข้าไปในแววตาของเขา แล้วจู่ ๆ เธอก็รู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย
เปลือกตาของเธอหนักอึ่ง เธอรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติกำลังเกิดขึ้นกับเธออีกครั้ง ภาพที่อยู่ตรงหน้าของเธอก็ค่อย ๆ เลือนลางจางหายไป
ในขณะที่เธอกำลังจะหมดสติไปนั้น ก็มีเสียงดังขึ้นมาจากประตูด้านนอก
"ปัง!"
วิกกี้รู้สึกตัวขึ้นมาทันที
อีกด้านหนึ่ง ลูเซียสกำลังหน้าซีดเผือด เขารีบวิ่งออกไปดูที่ประตูอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็รีบวิ่งกลับมาคว้ามือของวิกกี้เอาไว้ และวิ่งขึ้นไปที่ชั้นบน
"มากับฉัน!"
ลูเซียสตะโกนใส่เธอ แต่วิกกี้กลับโมโหจนเลือดขึ้นหน้า ในที่สุดเธอก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ และสิ่งที่เธอไม่เคยเข้าใจมาก่อนก็ค่อย ๆ ชัดเจนขึ้น
การสะกดจิต!
ไอ้บ้าเอ๊ย! ผู้ชายคนนี้รู้วิธีสะกดจิตผู้คน! ไม่แปลกใจเลยสักนิด ที่เธอมีความรู้สึกแปลก ๆ อยู่ตลอดเวลา ผู้ชายคนนี้ปลอมแปลงทุกอย่างขึ้นมาเพื่อหลอกเธอ!
วิกกี้โมโหมาก เธอไม่สนใจเลยว่าตอนนี้สภาพร่างกายของเธอจะเป็นยังไง เธอสะบัดข้อมือของเธอออก และพยายามที่จะจับเขาเอาไว้
ลูเซียสตกใจจึงรีบปล่อยมือจากเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก