EP17
“แล้วนี่สรุปเธอจะบอกฉันได้รึยังว่าจะให้ไปส่งไหน” อิฐเอ่ยถามคนข้างกายที่เอาแต่นิ่งเงียบตลอดทางเหมือนมีอะไรให้คิดอยู่ตลอดเวลาพอถามเธอก็บอกว่าให้ขับไปเรื่อยๆก่อนจนผ่านมาเกือบครึ่งชั่วโมง อิฐจึงตัดสินใจจอดรถที่หน้าคอนโดของตัวเอง
ยิหวาที่แอบร้องให้อยู่คนเดียวจึงยกมือขึ้นเช็ดหน้าแล้วหันกลับไปมองคนข้างกาย อิฐมองหญิงสาวด้วยความแปลกใจ ดาราและนางแบบในคนเดียวๆกันที่ขึ้นชื่อเรื่องความร้ายร้องให้ง่ายขนาดนี้?
“ฉัน…ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปไหน”
“กลับบ้านสิ ป่านนี้พ่อเธอคงเป็นห่วงแย่”
“พ่อหรอ? ฉันไม่เคยคิดว่าตัวเองมีพ่อด้วยซ้ำ” ยิหวาเค้นหัวเราะออกมานึกสมเพชตัวเอง คิดเรื่องนี้ทีไรน้ำตามันก็พลอยจะไหลออกมาอยู่รอมร่อ
“ไม่คิดเลยว่าเธอจะร้องไห้ง่ายขนาดนี้”
“…” ยิหวานิ่งเงียบ เธอหันกลับไปมองนอกหน้ากระจกรถ พยายามห้ามแล้ว พยายามไม่ให้ตัวเองแสดงความอ่อนแอออกมาต่อหน้าคนอื่นที่พึ่งรู้จักกัน…
“ฉันปลอบใจผู้หญิงไม่เป็น” อิฐที่สังเกตเห็นยิหวาร้องไห้ยื่นผ้าเช็ดหน้าของตัวเองไปให้เธอ สายตาไม่ได้เหลือบมองหญิงสาวแม้แต่น้อย
“ฉันก็ไม่ได้ต้องการคนปลอบอยู่แล้ว ร้องไห้เอง หายเองจนชิน”
“ถ้าเธอเข้มแข็งจริงคงไม่ร้องไห้ออกมาแบบนี้”
“นายไม่เป็นฉันนายไม่รู้หรอก”
“งั้นก็บอกมาสิว่าเป็นเธอมันต้องเจออะไรบ้าง” อิฐเก็บผ้าเช็ดหน้าตัวเองเอาไว้พร้อมกับเฝ้ารอคำตอบจากคนข้างกาย ยิหวาที่กำลังคิดวิตกกังวลอยู่กลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้ บางทีการได้เล่าให้ใครสักคนฟังอาจจะทำหายอึดอัดขึ้นมาบ้าง…
“นายจะไม่เอาเรื่องฉันไปบอกนักข่าวรึไง”
“หน้าฉันมันเหมือนคนประเภทชอบเสือกเรื่องชาวบ้าน?”
“…ก็ เราพึ่งรู้จักกันแม้แต่ชื่อนายฉันก็ยังไม่รู้จักด้วยซ้ำ”
“ฉันชื่ออิฐทิ”
“เรื่องของฉันมันน้ำเน่าสิ้นดี…นายจะทนฟังได้หรอ” ยิหวาถามยํ้าอีกครั้ง
“ไม่มีชีวิตใครสวยหรูไปซะทุกเรื่องหรอก ถ้าถามมากก็ไม่ต้องเล่าก็ได้ แล้วก็ช่วยลงไปจากรถฉัน” ยิหวาชักสีหน้าใส่คนข้างกาย กำลังจะง้างปากด่าแต่กลับลืมไปว่าตัวเองยังนั่งอยู่บนรถเขาอยู่แถมยังไม่มีที่ไป เลยต้องรูดซิปปากเอาไว้…
“ไม่ถามแล้วก็ได้…ฉันก็แค่ถูกบังคับให้หมั้นกับคนเหี้ยๆเพื่อผลประโยชน์ของธุรกิจ เอาง่ายๆคือเตี่ยขายฉันให้กับให้หื่นนั้นโดยไม่นึกถึงความรู้สึกของฉันเลยสักนิด ฉันโดนไอ้บ้านั้นทำร้ายร่างกายทุกอย่าง จนต้องหนีมาแบบนี้แล้วอีกอย่างบัตรเครดิตทุกใบ แม้กระทั่งรถเตี่ยยังยึดของฉันไปหมด ตอนนี้ฉันก็ไม่ต่างอะไรจากคนเร่ร่อนเลยสักนิด ไม่มีที่ไป ไม่มีที่ซุกหัวนอน…”
พอได้ฟังยิหวาเล่าอิฐก็นิ่งเงียบไปสักพัก ก่อนจะหยิบคีย์การ์ดออกจากหน้ารถแล้วโยนลงบนตักเธอ ดึงความสนใจให้ยิหวาก้มมองแล้วหยิบมันขึ้นมาดู…
“นายเอาคีย์การ์ดห้องมาให้ฉันทำไม?”
“ฉันช่วยเธอไม่ให้โดนข่มขืนจากพวกขี้เมานั้น ไม่คิดจะขอบคุณหน่อยหรอ”
“นี้นายจะบ้ารึไง ถึงฉันจะง่ายฉันก็ง่ายแค่กับคนที่ชอบ ไม่ได้ง่ายกับผู้ชายเรี่ยราดหรอกนะ!”
ปึก! ยิหวากำคีย์การ์ดแน่นแล้วโยนโดนอกแกร่ง เธอพยายามจะเปิดประตูรถลงแต่อิฐกลับล็อกมันไว้ แล้วกระชากเรียวแขนคู่สวยหันกลับมาอย่างแรง
“นี้ปล่อยฉันนะ”
“เธอนั้นแหละอยู่นิ่งๆ คิดบ้าอะไรของเธอ?” อิฐขึ้นเสียงใส่จนยิหวายอมหยุดนิ่ง
“ก็นายโยนคีย์การ์ดห้องให้ฉัน…ถ้าไม่ใช่เรื่องบนเตียงแล้วมันเรื่องอะไรล่ะ…”
“ยัยโง่ อย่างเธอให้ฟรีฉันก็ไม่เอา ที่โยนคีย์การ์ดให้เพราะห้องฉันมันรกต่างหาก”
“นายจะให้ฉันไปทำความสะอาดให้หรอ?” ยิหวาหน้าเจื่อนลงในทันใดเมื่อเห็นใบหน้านิ่งๆแทนคำตอบเธอจึงค่อยๆยื่นมือไปหยิบคีย์การ์ดกลับคืนมา
“ห้องนั้นฉันไม่ได้อยู่มาสองปีแล้ว ทำให้มันสะอาดที่สุดด้วยล่ะ”
“โอเค แล้วนายจะเข้ามาอยู่อีกป่ะ”
“ไม่” พอได้ยินคำตอบยิหวาก็คิดอะไรดีๆออก สงสัยคืนนี้เธอจะมีที่ซุกหัวนอนไปอีกหนึ่งคืน “ถ้างั้นฉันไปก่อนนะ ขอบคุณอีกครั้งก็แล้วกันที่ช่วยฉัน…”
“…” อิฐไม่ได้ตอบอะไรยิหวาจึงเปิดประตูออกมาจากในรถ แล้วรอให้อิฐขับออกไปไกลสักระยะเธอจึงเดินขึ้นห้องมา พอมาถึงสภาพข้างในก็ไม่ได้ดูรก ข้าวของถูกจัดเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ เดินเข้าไปในห้องครัวมีของสดเต็มตู้เย็นแถมยังไม่เน่า หญิงสาวแอบแปลกใจแต่ก็นับว่าเป็นเรื่องดีสำหรับเธอ…
…
“นายครับ” เลขาของกฤษฎาเดินเข้ามากระซิบที่ข้างใบหูไม่นานก็ผละออก ชายหนุ่มจึงพยักหน้าเบาๆแล้วยกยิ้มมุมปากพร้อมกับยกกาแฟในมือขึ้นจิบ ก่อนที่จะปรากฏร่างของใครบางคนเดินเข้ามาในบ้านนั้นก็คือพงศกร…
“ถ้าให้ผมเดาคงหนีไม่พ้นเรื่องของลูกสาวตัวดีของคุณ” กฤษฎาพูดในตอนที่กำลังจ้องมองกาแฟในแก้ว ท่อนขายกขึ้นพาดกันด้วยท่าทีสบายๆ เขากำลังจะเตรียมตัวออกไปทำงานแต่ผู้เป็นพ่อของยิหวากลับเข้ามาพบซะก่อน
“ครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทาสรัก