ตอน ตอนที่ 22 งานหมั้นจอมปลอม จาก ทาสรัก – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
ตอนที่ 22 งานหมั้นจอมปลอม คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ ทาสรัก ที่เขียนโดย So Nonny เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
EP22
“แล้วนิวาเขาได้ทำอย่างที่แกพูดไหม…!?” เกรียงไกรสวนกลับในทันใดให้ลูกชายตัวเองมีสติมากกว่านี้ แต่ทิศเหนือก็ไม่ยอมฟังเขาสะบัดมือของผู้เป็นพ่อออกด้วยใบหน้าแดงก่ำ
“ถ้าจะเข้าข้างมันมาก ทำไมไม่ยกให้เป็นลูกอีกคนเลยว่ะ!!”
ผลั๊วะ!
“ที่ฉันพูดฉันอยากเห็นแกมีเหตุมีผลมากกว่านี้ ไม่ใช่ให้แกมาก้าวร้าวกับฉันมากกว่าเดิม”
“พูดเหมือนตัวเองมีเหตุผลนักหนาที่บังคับให้หมั้นกับคนรับใช้ในบ้าน”
“ฉันทำเพื่อตัวแกและนิวา ถ้าไม่เห็นว่าแกเป็นลูกฉันคงไม่ทำแบบนี้หรอก”
“ทำเพื่อลูกงั้นหรอตลกว่ะ ที่พ่อทำทั้งหมดเพื่อตัวเองและยัยนิต่างหาก พ่ออยากให้ยัยนั้นสมหวัง อยากให้มันมีความสุข เพราะพ่อรักมันมากกว่าผมยังไงล่ะ หรือไม่จริง!?”
“แกไปเอาความคิดบ้าๆแบบนี้มาจากไหน…”
เกรียงไกรถามออกไปอย่างไม่เข้าใจนัก ส่งผลให้นิวาที่กำลังเฝ้ามองสองพ่อลูกทะเลาะกันอยู่ข้างกายกับดนัยดวงตาสั่นระริก ทั้งหมดที่เขาพูดออกมาชายหนุ่มคิดไปเองทั้งนั้น นิวาไม่เคยบอกเรื่องที่เธอแอบชอบทิศเหนือให้เกรียงไกรรู้เพียงเล่าสิ่งที่เธอต้องเผชิญตลอดระยะเวลาสามปีเพื่อให้เกรียงไกรยอมรับข้อเสนอเพียงเท่านั้น…
และทุกอย่างที่เกรียงไกรทำเขาทำเพื่อลูกชายทั้งนั้น เกรียงไกรไม่อยากให้เขากลายเป็นคนเลวมากกว่านี้ อีกทั้งยังมีข่าวเสียหาย เป็นห่วงความปลอดภัยของทิศเหนือจากคู่หมั้นของยิหวา
เพราะเกรียงไกรเองก็ไม่ได้มีเวลามาคอยดูแลตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ถึงแม้ชายหนุ่มจะเอาตัวรอดได้ก็ตามแต่หัวอกคนเป็นพ่อก็ปล่อยไว้ละเลยไม่ได้ และผลสุดท้ายที่จะตามมาจะส่งผลดีให้นิวาเด็กที่เขาเอ็นดูอีกด้วย…
“ก็เห็นๆอยู่ จำเป็นต้องมีใครบอก…” ทิศเหนือเลิกคิ้วถามเขากำหมัดแน่น เมื่อมองหน้านิวาแล้วนึกโกรธและเกลียดเธอในหลายๆเรื่องพร้อมกัน
“เลิกคิดแบบนั้นซะ…แล้วทำตัวให้มันดีกว่านี้แล้วแกจะเข้าใจทุกอย่าง”
“ก็เป็นแบบนี้ ใครจะทำไม ถ้ารับไม่ได้ก็ตัดพ่อลูกไปเลยดิ”
ร่างหนาเดินเข้าไปประจันหน้ากับเกรียงไกร สองพ่อลูกจ้องตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร ก่อนที่ชายหนุ่มจะไม่ยอมทนฟังอะไรต่อเดินกระแทกเท้าชนร่างเล็กออกจากบ้านไปโดยไม่หันกลับมามองด้วยความรู้สึกหลากหลายอย่าง…
“พรุ่งนี้ตอนสิบโมงมางานหมั้นของแกด้วย ถ้าฉันไม่เห็นแกโผล่หัวมา อย่าหาว่าฉันไม่เตือน…” เกรียงไกรเอ่ยตามแผ่นหลังกว้าง ในขณะที่ยืนหันหลังให้อยู่ ทิศเหนือที่ได้ยินแบบนั้นใบหน้าชาวาบทวาเขากลับทำหูทวนลมแล้วเดินไปที่รถตัวเองต่อ…
ลับร่างของทิศเหนือเกรียงไกรก็ทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาด้วยความเหนื่อยล้า มือหนายกขึ้นลูบหน้าตัวเองลวกๆ ที่มาหาทิศเหนือที่บ้านเพราะต้องการบอกเรื่องงานหมั้นแต่ต้องกลับมาทะเลาะกันอีก ทั้งที่ตั้งใจจะมาคุยด้วยดีๆ…
“คุณไกรคับ ถ้าแบบนี้คุณเหนือจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมหรอ”
“ตาเหนือไม่ยอมฟังอะไร ขืนพูดอะไรออกไปมีหวังโกรธฉันหนักกว่าเดิม สิ่งเดียวที่ทำได้คือทำทุกวิถีทางให้ลูกชายคนเดิมของฉันกลับมา”
“ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าอะไรที่ทำให้คุณเหนือกลายเป็นคนแบบนี้ไปได้…”
นิวาฟังทั้งสองคนพูดกันด้วยความรู้สึกเห็นใจเธอเองก็ไม่ต่างอะไรจากทั้งสอง อยากให้พี่เหนือคนเดิมของเธอกลับคืนมาเหมือนกัน แต่ตอนนี้ความหวังของเธอมันหมดสิ้นไปแล้ว หัวใจไม่เหลือชิ้นดี อยากตัดใจให้มันจบๆ…
“ยังไงพ่อลูกก็ตัดกันไม่ขาดหรอกค่ะ เชื่อนินะคะ” นิวาเดินเข้าไปนั่งบนพื้นแล้วพูดให้กำลังใจผู้มีพระคุณ
“พ่อรอวันนั้นมาหลายปีแล้วหนูนิ…จนไม่รู้ว่ามันจะมีวันนั้นรึเปล่า”
“อย่าคิดมากเลยนะคะ พรุ่งนี้งานหมั้นก็มาถึงแล้วเรามาช่วยกันคิดดีกว่า ว่าจะรับมือกับคุณเหนือยังไง” นิวาฝืนฉีกยิ้มให้เกรียงไกรทั้งที่ข้างในมันแอบหน่วงๆเหมือนกันว่าพรุ่งนี้ต้องเจอกับอะไรบ้าง ซึ่งงานหมั้นของเธอจะถูกจัดขึ้นพอเป็นพิธีเพื่อให้ถึงหูยิหวาและกฤษฎาเท่านั้น ไม่มีเจตนาให้คนอื่นรู้มากเพราะนิวาขอเอาไว้…
“จริงสิ ฉันต้องปวดหัวอีกแน่เลยพรุ่งนี้ แล้วนี้มีเรื่องอะไรกันทำไมตาเหนือถึงหาเรื่องหนูแบบนั้น”
“เรามีเรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อยค่ะ นิออกไปข้างนอกกับเพื่อนมาทั้งวันคุณเหนือเลยคิดไปไกลว่านิแอบไปมีอะไรกับคนอื่น…”
“ปกติจะมีแต่คนที่เขารักกันไม่ใช่หรอ ถึงแสดงอาการหึงหวงออกมา”
“เปล่าหรอกค่ะ…คุณเหนือเขาไม่ได้รู้สึกแบบนั้นหรอกแค่เอาเรื่องพวกนี้มาหาเรื่องนิต่างหาก” นิวารีบปฏิเสธตามความคิดของตัวเอง มันไม่มีความคิดว่าทิศเหนือจะหวงตัวเองในสมองด้วยซ้ำที่เขาแสดงออกมาทั้งหมดนิดๆหน่อยๆก็เอามาเป็นประเด็นเพราะต้องการหาเรื่องเขี่ยเธอออกจากชีวิตเท่านั้นแหละ…
…
ยิหวานอนพลิกกายบนเตียงด้วยความว้าวุ่นใจ เธอคิดถึงผู้ชายคนที่ตัวเองรักจนนอนไม่หลับ ยิ่งโดนเขี่ยทิ้งแบบไร้เยื่อใยยิ่งอยากถามให้มันรู้เรื่อง หากแต่ไม่มีหนทางใดจะติดต่อทิศเหนือได้เพียงท่านั้นเอง…
ส่วนเรื่องห้องเธอยอมตามใจอิฐทุกอย่างเพื่อแลกกับที่อยู่จนกว่าจะคิดหาทางออกได้ว่าจะเอายังไงกับชีวิตข้างหน้าต่อ ซึ่งถามว่าตอนนี้เธอมองเห็นเส้นทางนั้นยังเธอจะตอบตามตรงว่าไม่…
“เฮ้อ…” เธอถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย อยากออกไปเปิดหูเปิดตาข้างนอกบ้างแต่ติดตรงที่เงินไม่มีสักบาท พลันคำพูดของอิฐที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่ก็ลอยเข้ามาในห้วงความคิด…
‘ไม่ว่ะ…กูจะออกไปซีเค’
‘เออไว้ค่อยเจอกัน’
เธอรีบลุกขึ้นจากเตียงเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าหยิบเสื้อผ้าของอิฐออกมาสวมปลอมตัวเป็นผู้ชายทันที ขืนอยู่แต่ในห้องแบบนี้มีหวังขึ้นอืดกันพอดีออกไปข้างนอกในแบบผู้ชายคงไม่มีใครจำได้ คิดเพียงลำพังยิหวาก็หยิบหมวกแก็ปขึ้นมาสวมเพื่อเก็บผมก่อนจะมุ่งหน้าเดินตามท้องถนนมาที่ผับซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่นี้นักเดินมาก็ถึงแต่อาจจะใช้เวลาหน่อย…
พอมาถึงจุดมุ่งหมายยิหวาก็เดินหาร่างของอิฐไปทั่วผับจนมาพบเข้ากับร่างคุ้นตาที่นั่งกระดกเหล้าอยู่เพียงลำพังที่เคาน์เตอร์บาร์ ยิหวาจึงเลื่อนเก้าอี้มานั่งข้างกายกันแล้วคว้าหมับเข้าที่แก้วของอิฐในขณะที่ชายหนุ่มกำลังจะยกดื่ม…
อึก! อึก! อึก!
แกร๊ก! เสียงแก้วใบหรูกระทบกับพื้นดึงสายตาเรียบนิ่งเจือความเศร้าให้หันกลับมามองคนข้างกาย อิฐเลิกคิ้วสงสัยว่าเธอมาที่นี้ได้ยังไง
“มาทำไม” เขาเอ่ยถามแล้วรินเหล้าแรงๆใส่แก้วพร้อมกับยกมันขึ้นกรอกปากเอือกใหญ่ ใบหน้าเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ตลอดเวลา
“ฉันเบื่ออ่ะ ได้ยินนายคุยโทรศัพท์ก็เลยแอบตามออกมา”
“ใครบอกว่าฉันอกหัก”
“คนที่นายชอบกำลังจะหมั้นแบบนี้ไม่เรียกว่าอกหักรึไง…”
“เธอไม่รู้อะไร…ฉันไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้ง่ายๆหรอก”
“ถ้าอย่างงั้นฉันก็ขอให้นายสมหวังก็แล้วกันนะ…แต่สำหรับฉันเขาคงไม่กลับมากินของหมดอายุหรอก” ยิหวาตัดพ้อออกมาแล้วเค้นยิ้มสมเพชตัวเอง ของตายแบบเธอที่โง่ยอมทุกอย่างมีหรอผู้ชายหน้าไหนจะกลับมาเอา…
หลังจากที่ยิหวาพูดจบระหว่างทั้งสองก็เกิดความเงียบขึ้น อิฐก็เอาแต่ยกเหล้าขึ้นกรอกปาก ส่วนยิหวาก็ก้มหน้าร้องไห้ตัวโยนจนผ่านไปหลายชั่วโมงสติก็เริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ภาพสุดท้ายก่อนที่ทุกอย่างจะเลือนร่างคือทั้งสองล้มลงเตียงในห้องนอนของอิฐ…
…
ในช่วงกำหนดเวลางานหมั้น พิธีถูกจัดไปตามลำดับอย่างเรียบง่ายในงานมีเพียงญาติผู้ใหญ่ของเกรียงไกรและเพื่อนสนิทซึ่งไม่ใหญ่มากนัก…
เวลาล่วงเลยมาถึงขั้นตอนสุดท้ายคือการสวมแหวนและมอบสินสอด ทวาฝ่ายชายอย่างทิศเหนือยังไม่ปรากฏตัว แม้เกรียงไกรจะให้ดนัยออกไปตามหาและโทรตามสักเท่าไหร่ก็ไม่มีวี่แววของเขา ทิ้งให้ฝ่ายหญิงอย่างนิวาตั้งนั่งหน้าเจื่อนเพียงลำพัง…
“คุณไกรคะ…เราจะเอายังไงดีตาเหนือยังไม่มาเลย แขกผู้ใหญ่รอนานแล้วนะคะ…” แพรพรรณเอ่ยกระซิบสามีด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล เกรียงไกรที่หมดหนทางได้แต่แก้ตัวฆ่าเวลาไปก่อนด้วยความรู้สึกอับอาย
ตึก…ตึก…ตึก…
พลันเสียงปลายเท้าหนักๆที่เดินเข้ามาในบริเวณในบ้านกลับเรียกทุกสายตาให้หันไปมองยังต้นเสียงเป็นจุดเดียว นั้นก็คือการมาของคนที่ทุกคนกำลังตั้งหน้าตั้งตารอคอย…
ร่างหนาอยู่ในชุดเสื้อช็อปวิศวะสภาพยับยู่ยี่เพราะเขาพึ่งกลับมาจากมหาลัยทั้งที่ไม่มีเรียน แต่ลำคอกลับมีรอยสีแดงช้ำจากรอยดูดอย่างเห็นได้ชัดเจนทำให้ผู้ใหญ่ที่มางานกระซิบกันถึงความไม่เหมาะสม…
“ปล่อยให้รอนานเลย…คงไม่ช้าไปหรอกใช่ไหม” ทิศเหนือพูดออกมาไม่ใส่ใจนักก่อนจะก้าวขาเดินเข้าไปนั่งข้างกายนิวา มือหนาจัดการหยิบแหวนขึ้นมาสวมมันลวกๆแล้วสะบัดมือสวยออกอย่างนึกรังเกียจ
“แกทำอะไรของแก…ขอโทษทุกคนก่อน”
“ผมต้องขอโทษทุกคนด้วยนะครับพอดีผมติดธุระเอา…”
.
.
.
Next…
“อืม…สงสัยนอนตกหมอนแต่เสือกปวดทั้งร่างกาย ก็ไม่ได้ไปเอากับใครมาทำไมแม่งเมื่อยขนาดนี้ว่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทาสรัก