ทาสรัก นิยาย บท 42

EP41

“นี้…มันเรื่องอะไรกันแน่” นิวาถามออกไปด้วยแววตางุนงง ทุกอย่างมันเหมือนทิศเหนือได้จากโลกนี้ไปแล้วจริงๆ สิ่งที่กำลังเจออยู่ตรงหน้าทำให้เธอแทบไม่อยากเชื่อสายตา

“เธอยังรู้สึกกับฉันเหมือนเดิมใช่มั้ยนิวา” มือหนาจับฝ่ามือนิ่มมาอังไว้ที่ข้างแก้ม สายตามองเธอต้องการคำตอบที่อยากได้ยิน นิวาจึงเบือนหลบสายตาแล้วหันไปทางอื่น

“…ทำให้คนอื่นเขาเป็นห่วงขนาดนี้ คุณควรรีบกลับไปหาครอบครัวนะคะ” เด็กสาวดึงมือออกพยายามลงจากเคาน์เตอร์ครัว เธอนึกโกรธที่ทิศเหนือเล่นอะไรแบบนี้ และยังไม่อยากให้อภัยเรื่องลูก จึงเลือกที่จะทำเหมือนไม่ได้สนใจ

“ฉันไม่มีครอบครัว…ชีวิตนี้ฉันเหลือเธอแค่คนเดียว”

“แต่คนที่คุณมองว่าพวกเขาไม่ใช่ครอบครัว ตอนนี้พวกเขากลับรอคุณ ต่างเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ทำแบบนี้มันไม่มีอะไรดีขึ้นเลยนะคะ รีบแต่งตัวแล้วออกไปจากห้องนิเถอะ อย่าให้นิต้องโทรบอกคุณไกรเองเลย…”

“นิวา…”

หมับ ! ไม่ทันที่จะเรียกเธอเอาไว้ซะก่อนร่างเล็กก็ดันอกแกร่งออกแล้วเดินออกมาจากห้องครัว ก่อนที่ร่างกายเธอจะถูกกอดจากด้านหลังเอาไว้แน่น…

“อย่าไล่ฉันได้มั้ย…เธอต้องการอะไรฉันยอมทุกอย่างขอแค่อย่าไล่กันก็พอ ให้ฉันได้อยู่ใกล้ๆเธอเถอะนะ…”

“งั้นก็กลับไปบอกความจริงกับทุกคนสิคะ ไปปรับความเข้าใจกับพ่อ เขารักคุณมาก อย่าทำให้ท่านต้องเสียใจไปมากกว่านี้เลยค่ะ…”

“นะ…นิ” นิวาทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก็เดินหายเข้าไปในห้องนอนแล้วล็อกกลอนเอาไว้แน่น ทิศเหนือมองตามแผ่นหลังบางด้วยแววตาละห้อยก่อนจะเดินมาสวมเสื้อผ้าชุดเดิมแล้วเดินคอตกออกมาจากห้อง…

อะไรที่นิวาต้องการเขาจะทำ ยกเว้นเดินออกไปจากชีวิตเธอ…

เหตุการณ์ก่อนหน้านั้น…

“พี่ไม่รู้…พี่ไม่รู้จะมีชีวิตต่อไปทำไมแล้ว” ภาพตรงหน้ามันเริ่มพล่าเบลอขึ้นเรื่อยๆ มันแทบขาดใจอยู่แล้ว ความรู้สึกทรมานจนไม่อยากอยู่มันเป็นแบบนี้นี่เอง “พี่อยู่ไม่ได้นิ…พี่อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเธอ”

มือหนาทุบกำปั้นลงบนราวกั้นซ้ำๆมองไปทางไหนมันเจอแต่ความว่างเปล่าไปหมด เหมือนโลกทั้งใบมันหยุดลงตรงนั้น…

พรึบ !

ตุบ…!?

‘กรี๊ดดดดดดดด…!!!’ ร่างของผู้ชายในชุดคนไข้ห้องพิเศษล่วงหล่นลงมาจากตึกบนที่สูงด้วยสภาพคว่ำหน้า ศพเละจนมองใบหน้าไม่ออก เลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมากทำเอาคนที่อยู่บริเวณนั้นต่างตกใจต้องรีบเรียกรถฉุกเฉินมาดู…

เสียงร่างของใครบางคนชิงกระโดดตึกตัดหน้าชายหนุ่ม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหันทำเอาทิศเหนือตกใจร่างกายทรุดลงบนพื้นหันหลังให้กับราวกั้น ทั้งที่คิดว่าตรงนี้มีเขาแค่คนเดียวมันกลับไม่ใช่…

แต่แล้วยังไงมันคือความต้องการตั้งแต่แรกของเขา นึกได้ดังนั้นมือหนาจึงยกโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดพิมพ์ข้อความอำลานิวา อยากลดน้ำตาเม็ดโตหนดแหมะลงบนหน้าจอ ชายหนุ่มใช้เวลาทบทวนทุกอย่างที่ผ่านมา จนมีคำพูดหนึ่งสอดแทรกเข้ามาในความคิด…

‘…แกคงอยากได้ยินจากคุณเองนะคะ บางทีแกอาจจะให้อภัย’

‘…แกคงอยากได้ยินจากคุณเองนะคะ บางทีแกอาจจะให้อภัย’

‘…แกคงอยากได้ยินจากคุณเองนะคะ บางทีแกอาจจะให้อภัย’

‘…มันจะต้องไม่เป็นแบบนี้สิ’ ทิศเหนือพึมพำกับตัวเอง แล้วตัดสินใจลุกขึ้นยืนอีกครั้งทั้งๆที่กดส่งข้อความไปแล้ว…

เขาลุกขึ้นอีกครั้ง…เพื่อจะเริ่มต้นใหม่กับคนเดิมเท่านั้น

สายตาหมองเศร้าเหลือบมองไปที่เหตุการณ์ข้างล่าง ปลายท้าวก็รีบถอยหลังกลับมาอีกที เขากำลังคิดไรอยู่ ป่านนี้ถ้าคนที่นอนอยู่ตรงนั้นเป๋นร่างของตัวเอง ความรู้สึกผิดก็จะติดตัวไปตลอด ยังไงก็ต้องกลับไปแก้ไขมัน คิดได้แบบนั้นร่างหนาก็รีบหมุนตัวแล้วเดินออกมาจากตรงนั้น โดยไม่บอกใคร ปล่อยให้ทุกคนเข้าใจว่าเขาไม่อยู่แล้ว…

ส่วนร่างของผู้ชายปริศนาคนนั้นที่รูปร่างคล้ายทิศเหนือคือผู้ป่วยจิตเวชไร้ญาติ เขาใช้จังหวะที่เหมาะสมแอบออกมาจากตึกที่อยู่ข้างกันและจัดการทำลายกล้องวงจรปิดทุกดวงเพื่อให้คนตามหาไม่เจอแล้วหลังจากนั้นจึงลงมือกระโดดตึกลงมาด้วยปัญหาทางสติปัญญา…

ด้านทิศเหนือที่หนีออกจากโรงพยาบาลสำเร็จยังไม่บอกเรื่องนี้กับใคร ชายหนุ่มนั่งแท็กซี่โดยจ่ายค่ารถผ่านทางโอนในมือถือมาถึงบ้านก็จัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าและตรงดิ่งไปที่วัดแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่นิวาเคยมากรวดน้ำให้ทารกน้อยที่ดับชีวิตตั้งแต่อยู่ในครรภ์…

พอทำบุญเสร็จเรียบร้อยทิศเหนือก็มาหยุดที่กรวดน้ำ ร่างหนาย่อตัวลงแล้วทำตามขั้นตอนพร้อมกับอธิษฐานเพื่อลบล้างความผิดของตัวเองและต่อไปนี้ทุกวินาทีเขาจะทุ่มเททำให้ทุกอย่างมันดีที่สุดเพื่อแก้ไขทุกอย่าง…

And…

คฤหาสน์…

“…ทำไมฉันไม่เคยรู้เรื่องนี้เลย เนตรไม่เคยบอกว่าตาเหนือประสบอุบัติเหตุ” เกรียงไกรพูดจบก็ปิดไดอารี่ลง นอกจากเรื่องการเสียชีวิตของลูกชายแล้ว ความจริงในไดอารี่ยังถูกเปิดเผยในวันที่สายเกินไปให้เขารู้สึกผิดมากกว่าเดิม…

“สิ่งที่อยากรู้มาหลายปี…ถูกเฉลยสักทีนะครับ” ดนัยพูดขึ้นตอนนี้ทั้งสองกำลังอยู่ในห้องทำงานส่วนตัวของเกรียงไกร พอเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นทุกคนก็ต่างเก็บตัว ทำใจยอมรับกับเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ได้…

“ลูกชายฉัน…เขาเป็นคนเดิมมาตลอดแต่สิ่งที่ทำให้ตาเหนือเปลี่ยนไปคือแม่แท้ๆที่คอยซึมซับความเลวร้ายให้กับเขา แม่ที่ไม่เคยรักลูกของตัวเอง…แม่ที่เลวเกินกว่าจะเป็นแม่คน…”

“ทั้งที่คุณเหนือไม่ใช่ลูกแท้ๆของคุณไกร…แต่คุณกลับรักเขาเหมือนลูกในสายเลือดจริงๆ ถ้าคุณเหนือกลับมาได้ยินก็คงจะดีนะครับ” สิ่งที่ดนัยพูดออกมาสอดแทรกเข้ามาในโซนประสาทของชายหนุ่ม ร่างหนาที่กำลังจะเปิดประตูเข้าไปหยุดชะงัก ไม่ใช่ลูกแท้ๆงั้นหรอ?

“ถ้าตาเหนือกลับมา…ฉันจะบอกความจริงทุกอย่างกับเขา ฉันจะทำทุกอย่างให้มันดีที่สุด แต่มันคงเป็นไปไม่ได้…” เกรียงไกรตัดพ้อออกมาแล้วทิ้งตัวลงนอนกับผนักโซฟา เขาไม่เคยรู้เลยว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาดวงเนตรคิดอะไรอยู่…

“…แบบนี้เรียกว่าดีแล้วหรอ?” ทิศเหนือพูดแทรกขึ้นมาพร้อมกับก้าวท้าวเข้ามาในห้องทำให้สองสายตาหันกลับไปมองที่ต้นเสียงด้วยสีหน้าตกใจกับสิ่งที่เห็น “มันจะดีได้ยังไง…ในเมื่อผมร้ายกับพ่อมาตลอด”

“ตาเหนือ…”

หมับ! เกรียงไกรโผล่เข้ากอดร่างของลูกชายด้วยความรู้สึกดีใจ ตอนนี้เขาไม่อยากรู้แล้วว่าทิศเหนือกลับมาได้ยังไง รู้แค่ว่าชายหนุ่มยังไม่จากไปไหนมันก็ดีที่สุดแล้ว…

“แกกลับมาหาพ่อแล้วใช่มั้ย”

“พ่อดีใจด้วยหรอที่ผมยังไม่ตาย”

“…พ่อรอแกมาตลอด แกหายไปไหนมา” ทิศเหนือมองที่มือตัวเอง มันเป็นครั้งแรกที่เขาถูกพ่อกอดในรอบหลายปี อยากกอดท่านกลับทวาในใจมันยังแอบมีแผลอยู่กับความจริงที่ได้รู้อีกอย่าง…

“จะรอทำไม…ตอนนี้พ่อเป็นใครผมยังไม่รู้” ยิ่งมารู้ความจริงแบบนี้ยิ่งรู้สึกเหมือนโตคนเดียวในโลก…

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทาสรัก