ชายหนุ่มลงจากรถและเดินมาดูเพราะคิดว่าหญิงสาวต้องแกล้งป่วยแน่ๆ แต่เมื่อมาเห็นสภาพของหญิงสาวแล้วก็ต้องตกใจเพราะใบหน้าซีดเผือดและมีเหงื่อเม็ดใหญ่ผุดขึ้นมา จามาลเปิดประตูและเขย่าตัวเธอ
“นี่คุณปวดมากหรือเปล่าทนไหวไหม”
“ไว้ให้คุณมนัสพาฉันกลับบ้านทีซิ” หญิงสาวหลับตาคุยกับเขา
“ไปโรงพยาบาลดีกว่าขืนให้คุณกลับบ้านมีหวังตายคาบ้านผมแน่”
“ฉันไม่ตายง่ายๆหรอกนะ” หญิงสาวเถียงเขาก่อนจะค่อยลืมตามองเขา เห็นเขาก้มต่ำลงมาและอุ้มเธออกมาจากรถของมนัสและตรงไปที่รถของตนเอง
“มนัสพาสองคนนี้ไปที่บ้านก่อน ฉันจะพามณีอินไปโรงพยาบาล” กาซิมเดินมาเปิดประตูรถอีกข้างหนึ่งให้เจ้านายท่ามกลางสายตาที่มึนงงของชาวบ้านและก็สองสาว
“ครับคุณจามาล” มนัสรับคำและพาหญิงสาวทั้งสองไปขึ้นรถและรถทั้งสองคันก็แยกย้ายกันไปคนละทาง
ชายหนุ่มใช้มือแตะที่หน้าผากของหญิงสาว “ตัวร้อนมาก ใกล้ถึงหรือยังนาธาล” เขาถามอย่างร้อนใจ
“ใจเย็นๆ ครับนายใกล้ถึงแล้วครับ” กาซิมเป็นคนตอบ ขับมาอีกประมาณ 3 นาทีนาธาลก็เลี้ยวรถเข้ามาจอดที่หน้าโรงพยาบาล จามาลอุ้มหญิงสาวลงจากรถมาใส่รถเข็นของทางโรงพยาบาล
“มณีอิน ตื่นซิอย่าเพิ่งหลับ” ชายหนุ่มร้องเรียกชื่อหญิงสาว
“นายครับเธอแค่สลบไปเองนะครับถึงมือหมอแล้วไม่ต้องห่วงหรอกครับ” นาธาลบอกกับนายหนุ่มซึ่งดูร้อนรนอย่างผิดปกติ
“คุณจามาลครับ” หมอใหญ่ประจำโรงพยาบาลเดินออกมาจากห้องและตรงมาที่เขา
“คุณผู้หญิงไม่เป็นอะไรมากหรอกนะครับแค่พักผ่อนไม่เพียงพอเท่านั้นและยังไม่คุ้นเคยกับอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจึงทำให้เป็นไข้หวัดธรรมดาตอนนี้ผมให้ยาปฏิชีวนะไปเลยคงต้องให้นอนพักและดูอาการอยู่ที่นี่ก่อนนะครับ”
“ได้ครับ” ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างโล่งอก
“เดี๋ยวผมจะให้พยาบาลพิเศษมาดูแลอย่างใกล้ชิด” หมอหนุ่มบอกและขอตัวไปดูคนไข้คนอื่นต่อ
“เจ้านายจะเข้าไปดูอาการเธอหน่อยไหมครับ” นาธาลถาม
“ไม่จำเป็น กาซิมเจ้าอยู่ดูแลที่นี่ฉันจะรีบไปประชุมต่อ” ชายหนุ่มสั่งและเดินไปขึ้นรถ
“คุณจามาลครับเป็นอะไรหรือเปล่าครับ” จามาลสะดุ้งเงยหน้ามองคณะกรรมการของบริษัทที่กำลังรายงานผลประกอบการของบริษัทให้เขาฟังแต่ท่าทางของชายหนุ่มไม่ได้สนใจฟังแม้แต่น้อย
“ผมปวดหัวนิดหน่อย เดี๋ยวพวกคุณประชุมกันต่อนะผมขอตัวก่อน มีอะไรก็ฝากเลขาของผมไว้” เขาสั่งก่อนจะเดินออกมาและตรงไปที่ห้องทำงานของตนเอง ใจของเขาอยู่ไม่เป็นสุขเลยเพราะกำลังนึกถึงหญิงสาวที่กำลังนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล เขาไม่เข้าว่าทั้งที่บอกกับตัวเองว่าเกลียดผู้หญิงคนนี้แต่ก็อดเป็นห่วงเธอไม่ได้ เขาจึงตัดสินใจโทรศัพท์ไปหาคนสนิทที่ให้เฝ้าดูอาการหญิงสาวไว้
“กาซิมคุณมณีอินฟื้นหรือยัง”
“ยังเลยครับนางพยาบาลบอกว่าคงประมาณค่ำๆถึงฟื้นครับ เจ้านายจะมาเยี่ยมเธอหรือเปล่าครับ”
“ไม่ล่ะ เดี๋ยวฉันจะให้นาธาลพาเพื่อนของเขาไปเฝ้าแล้วกัน” ชายหนุ่มบอกและวางสายลง
จามาลกลับเข้ามาที่บ้านในช่วงเย็นและให้คนไปตามนพมาศลงมาพบเขาที่ห้องรับแขกร่วมทั้งเด็กสาวที่เขาเพิ่งได้ตัวมาใหม่ด้วย
“คุณจามาลมีอะไรคะถึงให้คนไปตามมาศมาพบแล้วพี่อินล่ะคะ” หญิงสาวมองกวาดสายตาไปทั่วห้องแต่ก็ไม่เจอ
“คุณอินอยู่ที่โรงพยาบาลหมอรอดูอาการอยู่ผมอยากให้คุณไปเฝ้าเธอเพราะเป็นคนชาติเดียวกัน” ชายหนุ่มบอก
“จ้างพยาบาลเฝ้าไม่ได้หรือคะ มาศไม่ถูกกับโรงพยาบาลเท่าไร เหม็นกลิ่นยานะคะ”หญิงสาวบอก เด็กสาวจึงอาสาจะไปเฝ้าให้แทน
“ขอบใจมากอารีอา” เด็กสาวเดินออกไปแล้วนพมาศจึงขยับเข้ามานั่งลงใกล้ๆกับชายหนุ่ม
“แล้วแบบนี้งานของคุณจามาลก็ต้องเสร็จช้าลงอีกนะซิคะ พี่อินไม่น่าป่วยเลย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะเลทรายสีน้ำผึ้ง