หลังจากประชุมเสร็จทั้งสองสาวจึงเดินออกมาที่โรงรถ และมาเจอกับเพื่อนชายที่อยู่กองบรรณาธิการเดียวกัน
“ฉันล่ะหมั่นไส้เจ้าพวกนี้จริงๆ เห็นสาวสวยเข้าหน่อยก็ถึงกับตามคอยเอาใจ”
“เขาก็สวยจริงๆนี่นา ช่างพวกเขาซิเธอจะไปเดือดร้อนทำไม ขึ้นรถกันดีกว่า” หญิงสาวพูดชวนเพื่อนและขึ้นประจำที่คนขับ
“ไม่เห็นจะสวยตรงไหนเลยเธอสวยกว่าตั้งเยอะ ถือว่าเป็นลูกสาวเพื่อน บก. นะซิ ชื่ออะไรนะฉันจำไม่ได้แล้ว” นิตยาทำท่าคิด มณีอินอดขำเพื่อนสาวไม่ได้
“เขาชื่อ นพมาศ” หญิงสาวบอกกับเพื่อนที่นั่งข้าง
“เอ้อ นั่นแหล่ะ อะไรมาศนั่นแหล่ะ หญิงพูดยิ่งหิวใกล้ถึงหรือยังล่ะอิน ท้องฉันมันประท้วงแล้วนะ” นิตยาลูบคลำที่หน้าท้อง
“ใกล้แล้วเลี้ยวโค้งหน้าก็ถึงแล้ว” หญิงสาวบอกและเลี้ยวรถเข้าไปในซอยข้างถนน ซึ่งปลูกเป็นเรือนไม้ ยื่นออกไปกลางสระน้ำที่มีกอบัวหลากสีปลูกไว้ ลมธรรมชาติพัดเข้ามาทำให้ไม่ต้องใช้แอร์หรือพัดลมให้เปลืองไฟ
สองสาวเลือกโต๊ะที่ติดกับท้องทุ่งนา มณีอินมีความสุขที่ได้นั่งมองต้นข้าวสีเขียวๆยามเมื่อต้องสายลมเหมือนกับคลื่นในท้องทะเล
“ยัยอินดูผู้ชายคนนั้นซิหล่อเป็นบ้าเลยสงสัยเป็นลูกครึ่งแน่ๆเลยแถมยังรวยด้วยดูซิมีบอดิการ์ดคุ้มกันตั้งหลายคน” นิตยาชี้ชวนให้เพื่อนมองไปที่โต๊ะด้านหลังของหญิงสาว มณีอินมองตามสายตาของเพื่อนสาวไป แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นหน้าผู้ชายอย่างชัดเจน และทางฝ่ายนั้นก็หันมามองทางเธอเช่นกัน สีหน้าของชายหนุ่มบึ้งตึงขึ้น
มณีอินมองชายหนุ่มอย่างสมเพช ดีแล้วที่พี่สาวของเธอไม่ได้หมั้นกับผู้ชายคนนี้ ไม่งั้นคงต้องกินน้ำตาแทนข้าวแน่นอน หญิงสาวกันกลับมามองหน้าเพื่อนสาวอีกครั้งและพอดีกับที่อาหารมาเสริฟ
“หล่อๆแบบนี้สงสัยมีแฟนเป็นร้อยแน่เลย” นิตยายังแอบมองไปที่ชายหนุ่ม จนอีกคนนึกรำคาญ
“หล่อแล้วมันกินได้หรือเปล่าล่ะยัยนิด กินๆเข้าไปเถอะเดียวฉันจะไปส่งที่บ้าน ฉันยังมีงานที่ต้องทำอีกเยอะนะย่ะ” หญิงสาวบอกอย่างนึกรำคาญที่เพื่อนสาวพูดชื่นชมชายหนุ่มไม่ขาดปาก
ชายหนุ่มนั่งมองหญิงสาวทั้งสองโดยลืมหญิงสาวที่เขาพามาด้วยเสียสนิทจนฝ่ายหญิงมองค้อนให้
“ขนาดมากับหนิงยังมองหญิงอื่นอีกหรือค่ะ” หญิงสาวพูดอย่างงอนๆ
“ผมขอโทษนะครับเพียงแต่ผมรู้สึกคุ้นหน้าเขาเท่านั้นเอง ว่าแต่คุณหนิงจะทานอะไรต่อหรือเปล่าครับ” ชายหนุ่มมองหน้าสาวสวยที่เขาพามาด้วย
“ไม่แล้วค่ะ อิ่มจะแย่อยู่แล้ว เราจะไปไหนกันต่อคะ” หญิงสาวถามพร้อมกับส่งสายตาหวานให้เขา
“แล้วแต่คุณหนิงซิครับผมพร้อมทุกที่” ชายหนุ่มยิ้มใส่ตาหญิงสาว
“กาซิมเรียกมาเก็บเงินได้เลย ฉันจะไปรอที่รถ” ชายหนุ่มสั่งและเดินประคองหญิงสาวออกมาจากร้านมาที่ลานจอดรถและได้เจอกับมณีอินโดยบังเอิญ หญิงสาวหยุดมองฝ่ายตรงข้ามตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า พร้อมกับยิ้มเยาะ ฝ่ายที่ถูกมองถึงกับหน้าตึง
“มองอะไรมิทราบย่ะ หรือว่าสนใจเขา เสียใจด้วยนะเขาเป็นแฟนฉัน ถ้าไม่อยากถูกตบก็รีบไปซะ”
“อ้าวแม่คุณ...ปากหรือนั้นนะเพื่อนฉันมองแล้วมันสึกหรอตรงไหนหรือไงย่ะ” นิตยาโกรธแทนเพื่อนสาว แต่มณีอินกลับยืนพิงประตูมองดูเหตุการณ์เฉยๆ มุมปากมีร้อยยิ้มเจืออยู่
“เอ๊ะ นังนี้เดี๋ยวแม่ตบหน้าแหก” หญิงสาวร้านอาหารเงื้อมือขึ้น
“หยุด!” มณีอินตวาดเสียงดังจนอีกฝ่ายชะงักกึก
“ไปกันเถอะนิดอย่าไปยุ่งเลย หมูเขาจะห่ามเราอย่าเอาคานเข้าไปสอดดีกว่า กลับกันดีกว่าคนอย่างนี้อย่าลดตัวลงไปเกลือกกลั้วด้วยดีกว่า” หญิงสาวบอกกับเพื่อนและก้าวขึ้นรถ ชายหนุ่มได้แต่ยืนกัดฟันแน่นด้วยความโกรธ ใบหน้าแดงก่ำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะเลทรายสีน้ำผึ้ง