“ขอบใจมากนะอิน ที่ช่วยฉันไว้” อมรเดชกล่าวอย่างซึ้งใจ
“อย่าพูดแบบนั้นซิคะ บก. ทำให้พวกเรามามากแล้วอินไม่ควรจะเห็นแกตัวทำร้ายทุกคน อินจะกลับไปเตรียมตัวก่อนนะคะ ฝากบอกนพมาศด้วยนะคะว่าเจอกันที่สนามบินในอีก 2 วันข้างหน้า” หญิงสาวลุกขึ้นเดินออกมาอย่างเบื่อๆ เธอรู้สึกใจหายอย่างประหลาดเหมือนกับว่าจะไม่ได้กลับมาที่นี่อีกแล้ว
กาซิมกลับเข้ามารายงานให้จามาลทราบ ชายหนุ่มหัวเราะอย่างชอบใจจนคนสนิทของเขาต่างมองหน้ากัน แต่ก็ไม่มีใครเอ่ยปากถามอะไร
“ ดี เตรียมตัวกลับอัลไบม่า เราจะไปเตรียมตัวต้อนรับแขกรับเชิญของเรา” ชายหนุ่มเดินหายเข้าไปในห้องนอน
“นาธาลเจ้าคิดว่าไง” กาซิมถามเพื่อนรัก
“จะคิดอะไรได้นอกเสียจากว่า นายเรากำลังตกหลุมรักนะซิ”
“เจ้าแน่ใจนะ”
“หรือว่าเจ้าเคยเห็นเจ้านายทำแบบนี้กับผู้หญิงอื่น” กาซิมส่ายหน้าเห็นด้วยกับที่เพื่อนพูด
“แล้วมันจะจบแบบไหนว่ะเนี่ย เสือกับสิงห์มาเจอกันมันคงสนุกกันใหญ่แล้ว” กาซิมถอนใจเฮือกใหญ่
มณีอินมาหามารดาที่บ้านเพื่อมาบอกลา หญิงสาวเห็นมารดากำลังเพลินอยู่กับสวนกล้วยไม้หลังบ้านซึ่งเป็นที่ที่บิดาของเธอชอบมานั่งอ่านหนังสือในวันหยุด เมื่อบิดาเสียชีวิตลงมารดาจึงดูแลแทนและชอบเข้ามานั่งเล่นที่นี่เป็นประจำ
“แม่คะ” หญิงสาวเรียกเบาๆ ประภาวดีหันมามองบุตรสาวและยิ้ม
“ว่าไงยัยอิน วันนี้หยุดหรือไงถึงมาหาแม่ได้” มารดาถาม มณีอินเดินเข้าไปช่วยประคองมารดามานั่งที่เก้าอี้
“อินจะมาลาแม่นะคะพอดีที่บริษัทให้อินไปทำหนังสือแนะนำการท่องเที่ยวต่างประเทศ”
“แล้วจะไปกี่วันกันล่ะจ้ะ” มารดาถามอย่างเป็นห่วง
“ก็คงเกือบๆเดือนๆหรือมากกว่านั้น แต่แม่ไม่ต้องห่วงนะคะมีน้องที่ทำงานไปด้วยอีกหนึ่งคน เรื่องที่พักและอาการทางโน่นเป็นคนจัดการให้เราทั้งหมด” หญิงสาวบอกมารดาเผื่อไม่ให้นางเป็นห่วง
“จ้ะ แล้วโทรกลับมาหาแม่บ้างนะ จะเมื่อไรกันล่ะ”
“พรุ่งนี้ค่ะ”
“แม่ขอให้หนูเดินทางโดยสวัสดิภาพนะจ้ะ” หญิงสาวโผเข้ากอดมารดาอย่างรักสุดแสน
“อะไรกันยัยอินไปแค่เดือนเดียวเองนะจ้ะ ไม่ได้ไปอยู่เลยซักหน่อย” มารดาเย้า มณีอินยิ้มและหอมแก้มมารดาและอยู่ทานอาหารเย็นและนั่งคุยเล่นจนเกือบ 3 ทุ่มจึงได้ลากลับที่พัก
มณีอินจอดรถที่สวนสาธารณะซึ่งมีต้นไม้และเก้าอี้วางอยู่เป็นช่วงๆล้อมรอบบึงน้ำขนาดใหญ่ สายลม ยามค่ำคืนพัดเย็นฉ่ำ หญิงสาวนั่งลงเอาหลังพิงกับเก้าอี้หินอ่อน เงยหน้ามองท้องฟ้าที่สว่างด้วยแสงจันทร์และแสงดาว และบริเวณรอบๆ ก็ยังสว่างด้วยแสงไฟที่ติดอยู่รอบๆ บึงน้ำ
หญิงสาวสังเกตเห็นชายหญิงหลายคู่นั่งจู๋จี๋กันอยู่ และไปสะดุดตาเข้ากับร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งเข้า แต่เขานั่งหันหลังให้เธอ แต่หญิงสาวต้องรีบเมินหน้าหนีเมื่อร่างสองร่างกอดกันแน่นและกำลังแรกจูบกันอยู่ มณีอินนั่งใจเต้นแรงกำลังจะก้าวเท้าไปที่รถเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
“จะรีบไปไหนหรือครับ มานั่งรอแฟนไม่ใช่หรือ”
“ออ...นึกว่าใครที่แท้ก็...” หญิงสาวหันกลับไปมองยกมือขึ้นกอดอกมองชายหญิงตรงหน้า “พอดีแฟนฉันคงไม่มาแล้ว ก็เลยว่าจะไปหาเขาที่ห้องนะคะขอตัวนะคะ” หญิงสาวยิ้มหน้าระรื่นและหมุนตัวเดินกลับ
“ใจกล้าหน้าด้านน่าดูเลยนะ” จามาลหัวเราะในลำคอ มณีอินกำมือแน่นพยายามระงับโทสะของตนเอง
“มันก็คงจะพอกัน แต่คุณยังอยู่ที่นี่อีกหรือพ่อคุณไปเที่ยวภูเก็ตทำไมไม่ตามท่านไปล่ะคะ หรือว่าชอบมาทำนิสัยแบบนี้ก็เลยไม่อยากให้พ่อคุณเห็นธาตุแท้” หญิงสาวยิ้มเยาะเมื่อเห็นสีหน้าแดงก่ำของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน แต่เธอไม่เคยคิดจะกลัวแม้แต่น้อย ไม่เหมือนกับผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆเขา เธอรู้สึกร้อนๆหนาวๆพิกล
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะเลทรายสีน้ำผึ้ง