ลู่อี้เห็นว่ามู่ซืออวี่เข้าไปนานมากแล้วแต่ยังไม่ออกมา เขาจึงผูกแพะป่าไว้ตรงเสาที่อยู่ด้านข้างแล้วเตรียมที่จะเข้าไปดูสถานการณ์
ลูกจ้างในร้านเปิดประตูมองดูลู่อี้ด้วยสีหน้าลำบากใจ “พี่ชาย หากผูกแพะไว้ตรงนี้ ลูกค้าที่เข้าออกจะตกใจได้นะ เหตุใดไม่จัดการมันก่อนแล้วค่อยเข้าไปล่ะ?”
“ข้าไม่เข้าไปหรอก เจ้าช่วยข้าตามหานางที” ลู่อี้กล่าว “นางแบกตะกร้าไว้บนหลัง…”
“นั่นอาจารย์ลู่ใช่หรือไม่?” ชิวซวงค่อย ๆ เดินซอยเท้ามาพร้อมรอยยิ้มหวาน “ฮูหยินมู่กำลังคุยงานอยู่กับพี่รองของพวกเรา นางกำชับถึงอาจารย์ลู่ที่ยังอยู่หน้าประตู หากว่าอาจารย์ลู่ไม่รังเกียจ ด้านข้างมีประตูเล็กอยู่ เหตุใดไม่เอาแพะไปไว้ในห้องรับรองแล้วนั่งรอสักประเดี๋ยวล่ะ?”
“คุยเรื่องงานกันอยู่หรือ?” ลู่อี้เข้าประเด็นสำคัญทันที
นางเข้าไปพบคนที่อยู่ข้างใน อีกทั้งยังคุยเรื่องงานกับอีกฝ่าย?
“ใช่แล้วเจ้าค่ะ” ชิวซวงรู้สึกประหลาดใจกับการปรากฏตัวของลู่อี้ นางชื่นชมเป็นอย่างยิ่งที่เมื่อครู่นี้เขาไม่ได้เสียมารยาทกับผู้อื่น
สามีภรรยาคู่นี้ไม่เหมือนผู้คนธรรมดาทั่วไป ถึงแม้ว่าตอนนี้จะดูธรรมดา แต่ต่อไปพวกเขาจะต้องไม่ธรรมดาแน่นอน พี่รองพูดถูก การเต็มใจช่วยเหลือผู้อื่นเป็นเรื่องที่ดีจริง ๆ
ในห้องหนังสือ
มู่ซืออวี่เปิดหีบหลายใบพลางแนะนำประโยชน์ของหีบแต่ละใบให้เจิ้งซูอวี้ทราบ
“หีบนี้ใช้เก็บปิ่นปักผมเป็นพิเศษ แม่นางซูอวี้เชิญชมดูก่อน ปิ่นปักผมรูปแบบต่าง ๆ จะถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ สะดวกต่อการหยิบใช้ มองเห็นได้อย่างชัดเจน สำหรับหญิงสาวที่ชื่นชอบเครื่องประดับ การได้เห็นปิ่นปักผมสวย ๆ ถูกจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบเช่นนี้ก็ทำให้รู้สึกดีไม่ใช่หรือ?
“ส่วนนี่สำหรับวางสร้อยข้อมือ…”
“แล้วนี่คือปิ่นปักผม สร้อยข้อมือ ต่างหู เครื่องประดับหน้าผาก… เครื่องประดับทั้งหมดถูกเก็บแยกเป็นชุด หากเก็บไว้เช่นนี้ เครื่องประดับคู่ใจของท่านก็จะได้ไม่กระทบกัน ทั้งยังดูงดงามอีกด้วย…”
มู่ซืออวี่ทำหีบขึ้นมาทั้งหมดห้าใบ แต่ละหีบมีการใช้งานที่แตกต่างกัน หีบเหล่านี้ไม่เพียงแต่สวยงามที่ภายนอกเท่านั้น ทว่าภายในยังละเอียดอ่อนมากเช่นกัน ช่องเล็ก ๆ แต่ละช่องมีกระดุมกลัดอยู่เพื่อไม่ให้เกิดการกระแทกกัน
“หีบนี้ดีจริง ๆ แต่ร้านพวกข้าขายเครื่องประดับ หีบพวกนี้ไม่น่าจะมีประโยชน์สำหรับพวกข้านะ”
เจิ้งซูอวี้ไม่ใช่ผู้ที่จะถูกชักจูงได้ง่าย แต่ถึงอย่างไรแล้วความรู้สึกดีที่ได้รับมาย่อมต้องส่งคืนกลับไปด้วยความรู้สึกที่ดีเช่นกัน
“แม่นางซูอวี้ เช่นนั้นพวกเราลองดูว่าจะเป็นอย่างไรดีหรือไม่?” มู่ซืออวี่ยังคงแนะนำต่อไป “ท่านวางหีบพวกนี้ไว้บนตู้แสดงสินค้า แล้วใส่เครื่องประดับทุกแบบลงไป อย่างเช่นหีบนี้สำหรับปิ่นปักผม ท่านก็ใส่ปิ่นปักผมสิบอัน หีบนี้สำหรับใส่สร้อยข้อมือ ท่านก็วางลงในช่องที่มีกระดุมกลัดอยู่ให้เต็ม อย่างอื่นนั้นข้าก็ไม่จำเป็นต้องพูด ให้ใช้หลักการเดียวกัน รอดูผลตอบรับที่นี่สักหนึ่งก้านธูปว่าจะเป็นอย่างไร?”
เจิ้งซูอวี้เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย “ได้! ข้าไม่มีอะไรทำพอดี มาดูกันว่าลูกค้าจะพูดว่าอย่างไร”
เจิ้งซูอวี้ให้คนรับใช้เรียกชิวซวงขึ้นมา
เมื่อชิวซวงขึ้นมาถึงก็ฟังคำสั่งของเจิ้งซูอวี้
“แม่นางชิวซวง…” มู่ซืออวี่เรียกให้นางหยุด ก่อนจะโน้มตัวไปกระซิบที่หูชิวซวง
เจิ้งซูอวี้ยิ้มพลางเอ่ยถามว่า “พี่ซืออวี่พูดอะไรกับชิวซวงหรือ?”
“อีกเดี๋ยวแม่นางซูอวี้จะได้รู้เองในภายหลัง”
หลังจากนั้น เจิ้งซูอวี้จึงกล่าวว่า “ข้ายังต้องตรวจสอบสมุดบัญชี พี่ซืออวี่นั่งพักทานอะไรก่อนเถิด ข้าขอตัวก่อน”
เวลานี้ลู่อี้นั่งอยู่ในห้องรับรองโดยไม่คิดที่จะแตะต้องขนมที่อยู่ตรงหน้าเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย
กำลังสนุกเลยค่ะ ขอบคุณแอดที่ลงให้อ่านนะคะ แต่ถ้าลงวันละ 10 ตอนจะดีมากเลยค่ะ รออ่านอยู่นะคะ...
รออ่านบทต่อไปค่ะ...