ลู่จื่ออวิ๋นสวมรองเท้าปักลายเล็ก ๆ ด้านบนเป็นดอกเหมยบานเสมือนของจริง ไม่ต้องพูดเลยว่าจะออกมาสวยงามแค่ไหน
ส่วนรองเท้าของลู่เซวียนนั้นธรรมดามาก ไม่มีแม้ลวดลายแต่ก็เป็นของใหม่เอี่ยม อีกทั้งยังซื้อโดยผู้หญิงที่น่ารำคาญอย่างมู่ซืออวี่
ครั้งสุดท้ายที่ซื้อรองเท้าคือเมื่อห้าปีที่แล้ว ในเวลานั้น รองเท้าคู่เก่าโทรมมากจนสวมไม่ได้ ลู่อี้ต้องจับกระต่ายไปขายกว่าจะได้ซื้อรองเท้าคู่ใหม่ให้ลู่เซวียน
“ข้าไม่ต้องการ”
ลู่เซวียนเม้มริมฝีปาก ทำสีหน้าไม่แยแส
มู่ซืออวี่เดินออกไปเอารองเท้าคู่ใหม่ไปยัดไว้ที่แขนของลู่อี้ จากนั้นก็หันกลับมาตะโกนใส่ลู่เซวียน “ทั้งครอบครัวมีคนละหนึ่งคู่ เจ้าไม่รับไปเช่นนี้ ต้องการให้คนอื่นรู้หรือว่าพี่สะใภ้คนนี้ปฏิบัติต่อเจ้าไม่ดี?”
ลู่เซวียนจ้องมองนาง “นี่เจ้าพูดถึงเรื่องไร้สาระอะไร?”
“หรือว่าไม่จริง? ปกติเจ้าเถียงกับข้า พอเจ้าสู้ไม่ได้ก็อยากจะทำลายชื่อเสียงของข้าสินะ” ใบหน้าของมู่ซืออวี่เต็มไปด้วยคำว่า ‘ข้าเดาได้โดยที่เจ้าไม่ต้องบอก’
ลู่อี้ “…”
จิตใจของผู้หญิงช่างซับซ้อนเหลือเกิน
แต่เห็นว่าลู่เซวียนยอมแพ้ เขาจึงไม่ได้พูดอะไร
“เมื่อครู่พี่ชายเจ้าบอกจะพาเจ้าไปรับยา เจ้าจะไม่ไปงั้นหรือ?” มู่ซืออวี่วางมือข้างหนึ่งเท้าเอว ทำท่าทางเหมือนหญิงปากร้าย
ลู่เซวียนตวาดอย่างเย็นชา ปฏิเสธที่จะตอบคำถามของนาง
อย่างไรแล้วมู่ซืออวี่ก็ไม่ได้ต้องการให้เขาตอบ เพราะตอนนี้นางได้ยินชัดเจนพอแล้ว
การจะจัดการกับเจ้าเด็กที่ดื้อด้านเช่นนี้ นางไม่สามารถใช้วิธี ‘อ่อนโยน’ ได้ เพราะมันจะทำให้เขา ‘ต่อต้าน’ มากขึ้นเท่านั้น
“เมื่อก่อนพี่ชายเจ้าจะพาเจ้าไปรับยาอย่างดี แต่เดี๋ยวนี้เจ้าไม่ยอมรับยาแล้ว เพราะอยากให้คนอื่นพูดว่าพี่สะใภ้อย่างข้าคนนี้ใจแคบงั้นหรือ?”
“…”
“หากเจ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมา ข้ายังต้องคอยดูแลเจ้าในฐานะพี่สะใภ้อยู่ พี่สะใภ้ก็เหมือนแม่ ในฐานะผู้หญิง ข้ายังต้องมาคอยเช็ดอึเช็ดฉี่ให้เจ้า ข้าอาจจะต้องเช็ดก้นให้เจ้าเสียด้วย…”
ใบหน้าซีดเซียวของลู่เซวียนพลันแดงเถือก ดวงตาของเขาถึงกับเบิกกว้าง
“เจ้า… เจ้า… เจ้ากำลังพูดเรื่องไร้สาระ!”
เมื่อนึกภาพตามแล้วเขาก็ตัวสั่น
“ข้าพูดไร้สาระอย่างไร? พี่ชายของเจ้าต้องออกไปหาเงิน ไม่เช่นนั้นครอบครัวใหญ่ของเราจะอยู่ได้อย่างไร? ข้าก็ต้องอยู่ดูแลบ้าน ถึงตอนนั้นเรื่องของเจ้าจะไม่ใช่เรื่องของข้าหรือ?”
ลู่เซวียนคว้าแขนของลู่อี้
เขาเงยหน้ามองลู่อี้ เห็นสายตาที่เอาจริงเอาจังและยอมรับจากลู่อี้จนลูกตาแทบจะถลนออกมา
“ข้าไป ข้าจะไป”
แม้ว่าอาการป่วยของเขาจะรักษาไม่หาย แต่ตราบใดที่ทำให้เขาสามารถดูแลตัวเองได้เหมือนตอนนี้ก็ถือว่าดีแล้ว เขาไม่ต้องการให้ผู้หญิงคนนี้เช็ดอึและฉี่ให้เขา หรือแม้กระทั่ง…
แค่คิดก็ขนพองสยองเกล้าแล้ว
“รองเท้าล่ะ? อยากได้หรือไม่?”
ลู่เซวียนหยิบมันขึ้นมาแล้วเอ่ยเสียงแข็ง “้เหตุใดจะไม่อยากล่ะ?”
มู่ซืออวี่ชักสีหน้าใส่ลู่เซวียน “ถ้าเจ้าเชื่อฟังเร็วกว่านี้ ก็ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาพูดเช่นนี้หรอก”
ลู่เซวียนได้แต่อับอายอยู่ข้าง ๆ พี่ชาย
ส่วนลู่อี้เล่นรองเท้าใหม่ที่อยู่ในมือของน้องชายไปมา
ขนาดรองเท้าพอดีกับลู่เซวียน รองเท้าของเขาก็เป็นเช่นนี้ ดูเหมือนนางจะวางแผนตั้งแต่เนิ่น ๆ แล้วว่าจะซื้อรองเท้าให้ทุกคน
ถึงจะเป็นผีผู้หญิง แต่ก็เป็นผีผู้หญิงที่จิตใจดี
“ฉาวอวี่ล่ะ?” มู่ซืออวี่เอ่ยถาม
“ขึ้นไปเก็บฟืนบนภูเขาเจ้าค่ะ” ลู่จื่ออวิ๋นพูดเสียงหวาน “พี่ชายขึ้นไปบนภูเขากับท่านน้า ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอกเจ้าค่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย
กำลังสนุกเลยค่ะ ขอบคุณแอดที่ลงให้อ่านนะคะ แต่ถ้าลงวันละ 10 ตอนจะดีมากเลยค่ะ รออ่านอยู่นะคะ...
รออ่านบทต่อไปค่ะ...