มู่ซืออวี่เจ็บปวดใจ
นางวิ่งเข้าไปในฝูงชนแล้วผลักผู้หญิงคนนั้นออก อีกฝ่ายถึงกับตัวเซ หากไม่มีคนอยู่ข้างหลังนางคงจะล้มลงไปแล้ว
“นังหมูอ้วน!!!” หญิงสาวเบิกตากว้างพลางจ้องมองมู่ซืออวี่อย่างดุดัน
มู่ซืออวี่ประคองลู่จื่ออวิ๋นให้ลุกขึ้น นางจ้องมองกลับไปโดยไม่หวั่นเกรง ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “อะไร จะสู้หรือ?”
ผู้หญิงคนนั้นถูกกลิ่นอายดุดันของมู่ซืออวี่ข่มจนรูม่านตาของนางหดลง อยากจะถอยหนีขึ้นมาทันที ทว่าเวลานี้มีผู้คนมากมายมุงดูอยู่ หากนางยอมจำนนในวันนี้ นางจะไม่สามารถเชิดหน้าชูตาในหมู่บ้านนี้ได้อีก
นางยืดหลังตรง ยืนเท้าเอวพลางชี้หน้าด่ามู่ซืออวี่ “ลูกสาวของเจ้ากำเริบเสิบสาน กล้าที่จะมากัดลูกสาวของข้า”
มู่ซืออวี่กอดลู่จื่ออวิ๋นพลางปลอบโยน หลังจากได้ยินประโยคนั้นก็มองไปที่เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ข้างกายอีกฝ่าย
ผมเผ้าของเด็กหญิงตัวน้อยคนนั้นยุ่งเหยิง น้ำมูกไหลเปื้อนจมูก ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยโคลนแลดูสกปรกยิ่งนัก
แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น เพราะประเด็นคือมีรอยฟันหลายซี่บนใบหน้าของเด็กน้อยคนนั้น
นางชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะขมวดคิ้วแล้วมองมายังลู่จื่ออวิ๋น “อวิ๋นเอ๋อร์ เจ้ากัดเด็กคนนั้นหรือ?”
ลู่จื่ออวิ๋นไม่ได้ร้องไห้ แต่เมื่อสบประสานแววตาที่ไม่เข้าข้างนางของมู่ซืออวี่ นางก็ทำท่าจะร้องไห้ออกมา
“ท่านแม่ ข้า…”
ก็ตอนนั้นนางโกรธมากนี่นา สมองจึงตอบสนองตามสัญชาตญาณโดยไม่ทันคิดใคร่ครวญ
ท่านแม่จะไม่โมโหข้าใช่หรือไม่?
ท่านแม่จะคิดว่านางเป็นเด็กไม่ดีจนไม่ชอบนางแล้วหรือเปล่า?
ท่านแม่จะเอือมระอานางเหมือนเมื่อก่อนแล้วใช่หรือไม่?
มู่ซืออวี่หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมา จากนั้นก็เช็ดริมฝีปากของลู่จื่ออวิ๋น “ต่อไปนี้ก็อย่ากัดไปทั่วนะ มันสกปรก! เจ้ารู้ไหมว่าโรคภัยมาจากปากน่ะ? เจ้าจะป่วยได้ถ้าเจ้ากัดของสกปรก ถ้าป่วยก็ต้องกินยา ยาขมมากเลยนะ”
จงซื่อไม่คาดคิดว่ามู่ซืออวี่จะพูดเช่นนี้จึงโมโหขึ้นมา
“นังหมูอ้วน เจ้าสอนลูกสาวของเจ้าเช่นนี้หรือ? ลูกสาวเจ้ากัดลูกสาวข้า เจ้าจะไม่อธิบายอะไรหน่อยรึ?”
มู่ซืออวี่ยืนขึ้น จับมือเล็ก ๆ ของลู่จื่ออวิ๋นแล้วตอบอย่างไม่เกรงใจ “อวิ๋นเอ๋อร์ตัวน้อยที่น่ารักของเราไม่เคยก่อปัญหา แต่ถ้านางโกรธมากจนต้องกัดคนอื่น เป็นข้ามากกว่าที่ต้องขอฟังเหตุผลจากเจ้า”
นางไม่ได้หูหนวก อวิ๋นเอ๋อร์บอกว่าเด็กหญิงตัวน้อยคนนี้จะขโมยของ พอรู้สาเหตุที่แท้จริงแล้ว เหตุใดนางต้องยอมด้วย นี่เป็นความผิดของสองคนนั้นชัด ๆ ไม่ใช่ความผิดของอวิ๋นเอ๋อร์สักนิด
“ถุย! น่าไม่อาย นังอ้วน วันนี้ข้าจะตบเจ้า!” จงซื่อกระโจนเข้าหามู่ซืออวี่
มู่ซืออวี่อุ้มลู่จื่ออวิ๋นส่งไปอยู่ในอ้อมแขนของเฉินซื่อ ในขณะที่ตนเองก็เผชิญหน้ากับจงซื่อตามแบบฉบับของสาวปากร้าย
“เหวอ!” คนรอบข้างต่างแยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็ว
“ท่านแม่!” ลู่จื่ออวิ๋นร้องเรียกมู่ซืออวี่ด้วยความเป็นห่วง
เฉินซื่อรั้งตัวลู่จื่ออวิ๋นให้ถอยออกไป “อย่าไป ระวังเจ็บตัว”
“แต่ท่านแม่ข้า…” ลู่จื่ออวิ๋นมองทั้งสองที่กำลังตบตีกันอย่างชุลมุนด้วยสีหน้ากังวล
“แม่ของเจ้าจะไม่เสียเปรียบแน่” เฉินซื่อรู้ถึงแรงการตบตีของมู่ซืออวี่เป็นอย่างดี
มู่ซืออวี่คนก่อนนั้น เชื่อว่าด้วยน้ำหนักตัวสามารถบดขยี้ผู้คนถึงตายได้ ส่วนมู่ซืออวี่คนปัจจุบันแม้จะผอมลงและมีสมองมากกว่ามู่ซืออวี่คนก่อน แต่ก็รู้ว่าร่างกายจุดไหนของมนุษย์อ่อนแอที่สุด ทั้งยังลงมืออย่างไร้ความปรานี
“หัวหน้าหมู่บ้านมาแล้ว!”
“แม่ฉาวอวี่ หัวหน้าหมู่บ้านมาแล้ว!” เฉินซื่อร้องเตือน
จงซื่อต้องการจะลุกขึ้น แต่มู่ซืออวี่ไม่ให้ลุก!
วันนี้ที่นางลงมือเพราะมีคนรังแกคนในครอบครัวของนาง หากนางยอมแพ้ในวันนี้ อวิ๋นเอ๋อร์ก็คงจะถูกรังแกไม่จบไม่สิ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย
กำลังสนุกเลยค่ะ ขอบคุณแอดที่ลงให้อ่านนะคะ แต่ถ้าลงวันละ 10 ตอนจะดีมากเลยค่ะ รออ่านอยู่นะคะ...
รออ่านบทต่อไปค่ะ...