หัวหน้าหมู่บ้านไม่สามารถทำอะไรพวกนางได้ จึงมีการเปิดศึกกันอีกครั้ง
“คำพูดที่นี่เสนียดหูจริง ๆ วันนี้อวิ๋นเอ๋อร์ทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว หากมีใครรังแกอีก กัดให้แรงกว่านี้นะ ไม่กัดนิ้วก็ดีเท่าไหร่แล้ว”
คนที่มุงดูพลันรีบถอยห่าง
เมื่อก่อนมู่ซืออวี่เป็นคนไม่เอาไหน และวัน ๆ ไม่ทำอะไร ครั้นดีขึ้นก็กลายเป็นผู้หญิงบ้าไปเสียแล้ว
แต่ผู้หญิงบ้าคนนี้ก็รู้วิธีที่จะปกป้องลูกสาวของตัวเอง ดังนั้นจึงถือว่านางเปลี่ยนไปอยู่ดี
คนส่วนใหญ่ในหมู่บ้านคุยกันด้วยเหตุผล ปกติแล้วพวกเขาอยู่กันอย่างสบาย ๆ ไม่รุกรานผู้อื่น แน่นอนว่า ‘คำข่มขู่’ พวกนี้จากมู่ซืออวี่ไม่ส่งผลกระทบต่อพวกเขา
“ร้องไห้อยู่นั่นแหละ นังเด็กขี้แพ้ไร้ประโยชน์!” จงซื่อบีบคอจางไฉ่เสีย “ข้าให้เจ้ามาเก็บผัก แต่เจ้ามาสร้างปัญหาที่นี่ ข้าน่าจะให้เจ้าจมน้ำตายในถังฉี่ไปซะ”
จางไฉ่เสียไม่สามารถหยุดกรีดร้องได้หลังจากถูกจงซื่อบีบคอ
“ท่านแม่ อย่าบีบคอข้า ข้าเจ็บ… ท่านแม่ ข้าไม่กล้าแล้ว… อย่าบีบ…”
มู่ซืออวี่ขมวดคิ้ว ได้แต่รีบพาลู่จื่ออวิ๋นออกไปจากที่นั่น
ระหว่างทาง ลู่จื่ออวิ๋นไม่ได้พูดอะไรออกมา จนกระทั่งมาถึงกระท่อมที่ถงซื่อและมู่เจิ้งหานอาศัยอยู่
มู่ซืออวี่เคาะประตู
“มาแล้ว ๆ” ถงซื่อเปิดประตูและเห็นมู่ซืออวี่ จึงเอ่ยต้อนรับด้วยสายตาที่อ่อนโยน “เข้ามาก่อนสิ”
“ท่านแม่ ที่บ้านมีน้ำร้อนไหม?” มู่ซืออวี่เอ่ยถาม
จากนั้นถงซื่อก็พบว่าลู่จื่ออวิ๋นดูเหมือนคลานออกมาจากคูน้ำ ทั้งตัวเด็กหญิงเต็มไปด้วยโคลน “มี มี ยังมีน้ำร้อนอยู่ในหม้อ อวิ๋นเอ๋อร์เป็นอะไร? ไปล้มที่ไหนมา?”
“ข้าจะทำความสะอาดให้นางก่อน” มู่ซืออวี่พูดพลางนำน้ำร้อนออกมาจากห้องครัว
ลู่จื่ออวิ๋นดูเหมือนคนที่กระทำความผิดมา นางเดินก้มหน้าตามมู่ซืออวี่ไปเหมือนลูกสะใภ้ตัวน้อยที่กำลังน้อยใจ
ซ่า! ซ่า! หลังจากเปลี่ยนน้ำไปหลายหม้อ เจ้าลิงตัวน้อยเปื้อนโคลนก็สะอาดขึ้น
ขณะที่ทำความสะอาด มู่ซืออวี่ก็ตรวจดูร่างกายของลู่จื่ออวิ๋นแล้วถอนหายใจด้วยความโล่งอก หลังจากยืนยันได้ว่ามีรอยขีดข่วนเพียงเล็กน้อย
“ท่านแม่ อย่าโมโหเลยนะ” ลู่จื่ออวิ๋นดึงชายเสื้อของมู่ซืออวี่ “ข้าจะไม่ทะเลาะกับคนอื่นอีกแล้ว”
“อวิ๋นเอ๋อร์ทะเลาะกับผู้ใด?” ถงซื่อขมวดคิ้ว “เจ้าได้รับบาดเจ็บหรือไม่?”
ลู่จื่ออวิ๋นส่ายหน้าเบา ๆ “ข้ากัดนาง นางน่าสงสารกว่าข้ามาก”
“ลูกอวี่ อวิ๋นเอ๋อร์เป็นเด็กดีไม่สร้างปัญหา มีคนรังแกนางหรือ?” ถงซื่อกล่าว
“ข้าไม่โกรธนางที่ทะเลาะกัน ข้าโกรธนางที่ทะเลาะกับคนที่ตัวใหญ่กว่า เห็นอยู่ว่าไม่มีโอกาสชนะ เหตุใดไม่รู้จักหลีกเลี่ยง มีคำกล่าวว่าลูกผู้ชายสิบปีล้างแค้นก็ยังไม่สาย ในเมื่อเจ้าไม่มีโอกาสชนะก็ควรหาทางป้องกันตัวเองก่อน วันนี้เจ้าได้พบกับจางไฉ่เสียที่อายุมากกว่า สูงกว่า แต่ตอบโต้ช้ากว่าก็จริง แต่ถ้าวันนี้เจ้าไปเจอคนอื่นล่ะ คนที่ว่องไวและมีไหวพริบมากกว่า เจ้าจะไม่มีโอกาสชนะหรอกนะ เวลานั้นเจ้ายังอยากสู้ตัวต่อตัวอยู่อีกหรือ?”
“ตอนนั้นข้าโมโหเกินไป ข้าไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้มากนัก” ลู่จื่ออวิ๋นรู้สึกเสียใจ “นางจะเอาที่กลัดผมที่ท่านแม่ให้ข้าไป ข้าแค่ไม่ต้องการให้ผู้ใดมาเอาไป”
“ถึงของจะหายไปแต่คนต้องอยู่ ถ้าเจ้าทำร้ายตัวเองเพราะของเช่นนั้น แม่ก็เจ็บใจ ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้อีก เจ้าต้องป้องกันตัวเองไม่ให้บาดเจ็บก่อน”
มู่ซืออวี่ลูบผมของลู่จื่ออวิ๋น ก่อนจะคุกเข่าลงแล้วมองเด็กน้อยด้วยแววตาอ่อนโยน “สำหรับข้า เจ้าคือสมบัติที่สำคัญที่สุด”
ดวงตาที่บริสุทธิ์ราวกับอัญมณีของลู่จื่ออวิ๋นเผยความสุขล้น
“ท่านแม่ อวิ๋นเอ๋อร์รู้แล้ว อย่าโมโหไปเลย ต่อไปนี้อวิ๋นเอ๋อร์จะปกป้องตัวเองให้ดีกว่านี้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย
กำลังสนุกเลยค่ะ ขอบคุณแอดที่ลงให้อ่านนะคะ แต่ถ้าลงวันละ 10 ตอนจะดีมากเลยค่ะ รออ่านอยู่นะคะ...
รออ่านบทต่อไปค่ะ...